เทคนิคการต่อรองราคารถมือสองขั้นเทพ
ปัจจัยสำคัญในการซื้อรถมือสอง คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ราคาตอนซื้อ แต่เรายังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกเป็นระยะๆ ตลอดอายุการใช้งาน รวมไปถึงราคาตอนที่เราจะขายด้วย จึงขอนำเสนอเทคนิคการต่อราคารถมือสองระดับเทพไม่ว่าจะซื้อจากเต็นท์หรือจากเจ้าของโดยตรง
สิ่งที่ต้องดูคือสภาพภายนอกทั้งสี ตัวถัง และเครื่องยนต์ ปีรถ ประเภทของเชื่อเพลิงที่ใช้ และที่ลืมไม่ได้ต้องตรวจสอบว่ารถคันนั้นยังติดไฟแนนซ์อยู่หรือเปล่า ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถต่อรองราคาได้มากเลยทีเดียว มาดูกันว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยให้เราต่อราคารถมือสองได้ถูกลงบ้าง เพื่อช่วยให้เราจ่ายเงินซื้อรถในราคาที่คุ้มและถูกใจที่สุด
1. ตั้งงบแล้วเช็คราคาตลาด ก่อนอื่นต้องตั้งงบประมาณไว้แล้วเปรียบเทียบราคารถรุ่นต่างๆ จากเว็บขายรถมือสอง บอร์ดขายรถต่างๆ หรือแม้แต่เต็นท์รถหลายๆ แห่ง เพื่อเทียบราคาและคุณสมบัติ เวลาไปสอบถามราคาจะได้รู้ว่าที่ไหนถูกหรือแพง และตัดสินใจต่อรองราคาก่อนซื้อได้
2. ถ้าอยากได้ ใจต้องแข็ง อย่าแสดงออกเด็ดขาดว่าชอบ อยากได้ ต่อให้เจอรถที่ชอบแต่ราคาแพง แนะนำว่าให้ใจเย็นๆ แล้วตัดใจบอกไปเลยว่าขอเปรียบเทียบราคากับที่อื่นก่อนเพราะรู้สึกว่าที่นี่ขายแพงเกินไป
3. สีไม่ถูกใจ ลดได้เท่าไหร่ แม้ว่าสีรถคันที่เราสนใจจะเป็นสีที่เราอยากได้มากๆ แนะนำให้พูดเชิงว่า จริงๆ สีนี้ก็ไม่ใช่สีที่อยากได้เท่าไหร่ หาจุดติเรื่องสี ร่องรอยต่างๆ แล้วขอต่อรองราคาอีกหน่อยเพราะต้องไปทำสีใหม่อีก
4. ต่อราคาตามสภาพ ตรวจสอบสภาพรถคันที่เราจะซื้อว่ามีส่วนไหนที่ต้องซ่อมอีกหรือไม่ ถ้าสภาพโดยรวมดูไม่มีปัญหาอะไร หรือไม่ได้ผ่านอุบัติเหตุร้ายแรงมา ให้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น เครื่องยนต์ ระบบเชื้อเพลิง ที่มีการปรับแต่งมา ราคาจะตกอยู่แล้ว หรือถ้าแอร์ไม่ค่อยเย็น มีกลิ่นเหม็นอับ แบตเตอรี่ ยางรถทั้ง 4 ล้อ และยางอะไหล่ไม่เคยเปลี่ยนเลย แบบนี้เราต้องชี้แจงรายละเอียดให้ชัดว่าเรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซ่อมแซมอีกเท่าไหร่ แล้วต่อราคาที่เราตั้งใจซื้อไปเลย ซึ่งผู้ซื้อบางรายก็ได้ราคาที่ถูกลงจากการต่อรองวิธีนี้เช่นกัน หากเราไม่กล้าต่อราคากับผู้ขายรถโดยตรง เช่นคุยโทรศัพท์ หรือคุยแบบตัวต่อตัว และไม่มีเวลา สมัยนี้มีวิธีการต่อราคาแบบใหม่ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น อย่างเช่น การต่อรองราคาบนเว็บไซต์ของ กรุงศรี มาร์เก็ต www.krungsrimarket.com ที่สามารถระบุราคาที่ต้องการ และส่งหาผู้ขายได้ทันที และถ้าผู้ขายตกลงกับราคาที่ต่อรอง ก็จะติดต่อกลับมา ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ในยุคออนไลน์
6. รถคันนี้มีภาระติดมาด้วยรึเปล่า ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อว่ารถคันนี้ยังติดไฟแนนซ์อยู่หรือไม่ แล้วอย่าลืมคำนวณเวลาผ่อนที่เหลือ จะได้รู้ว่าเราไหวหรือไม่กับราคานี้ แต่ถ้าจะให้ได้ราคาดี คงต้องสังเกตอีกเช่นกันว่าคนขายร้อนเงินหรือเปล่า ถ้าดูเค้าร้อนเงินก็จัดการต่อราคาในดวงใจของเราไปเลย
7. ช่วงก่อนส่งมอบรถ โค้งสุดท้ายของนักต่อราคา ในวันนัดดูรถ หรือวันนัดรับรถ ก็สามารถต่อราคาได้อีก เช่น การขอต่อค่าการโอนรถยนต์ โดยอาจจะขอให้ผู้ขายออกทั้งหมด หรือการออกคนคนละครึ่ง เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้อาจจะทำให้คนขายปฏิเสธไม่ออก เพราะขับมาตั้งไกล หรืออาจจะคิดว่าไหนๆ ก็คุยกันมาถึงขั้นนี้แล้ว ยอมๆ ไปก็แล้วกัน วิธีนี้อาจจะเหมือนเล่นทีเผลอไปหน่อย ทางที่ดีควรตกลงราคาก่อนส่งมอบ จะได้ไม่เกิดปัญหากันทั้งสองฝ่าย
8. รถตลาดอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป ในการเลือกซื้อรถมือสองเราต้องดูว่ารถนั้นรอขายมานานหรือยัง ถ้าอยู่มานานแล้วต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงขายไม่ออก? อาจจะเป็นเพราะรถคันนี้ราคาแพงเกินไปสำหรับความเป็นมือสอง ดังนั้นถ้าอยากได้รถราคาถูกจริงๆ เราอาจจะเลือกรถที่ไม่ใช่รถยอดนิยม หรืออาจจะดูที่อายุหลายปีแต่สภาพยังดี และคุณภาพของรถยี่ห้อนั้นอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ ที่สำคัญควรดูยี่ห้อที่มีอยู่ซ่อมหรือศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกเวลารถมีปัญหา เมื่อเลือกได้แล้ว ก็ลองต่อราคาดูด้วยเหตุผลที่ว่ารถนี้ไม่ใช่รถตลาด กว่าจะขายออกต้องใช้เวลานาน ไหนๆ ก็ไหนๆ ลดราคาให้อีกสักหน่อยจะเป็นไร
9. อยากได้ ต้องกล้าต่อ อย่าได้แคร์ว่าคนขายเค้าจะว่าเรางก ต่อราคาเยอะจัง ต่อขนาดนี้ได้ยังไง แนะนำให้เลิกคิดแทนคนขาย แล้วกล้าที่จะต่อราคาไปเลยว่า ลดให้ xx,xxx บาทได้มั้ย บางทีความกล้าอาจจะทำให้เราได้รถมือสองในราคาที่ต้องการก็ได้
นี่เป็นเพียงเทคนิคส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้หลายๆ คนนำไปใช้เวลาจะต่อราคารถมือสอง ทั้งนี้จะอาศัยเทคนิคอย่างเดียวไม่ได้ คงต้องดูปัจจัยเสริมทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อด้วย หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้ผู้อ่านได้นำไปปรับใช้ในโอกาสต่อไป สุดท้ายนี้อยากบอกว่า...เลือกรถดี ชีวิตก็ดี แต่ต่อราคารถได้ถูกนี่สิ ดียิ่งกว่า