แม้ว่ารถยนต์ไฮบริดจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ด้วยราคาค่าซ่อมบำรุงของมันที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะในส่วนของแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีมูลค่านับแสนบาท ก็ทำให้ความนิยมของมันไม่กว้างขวางเท่าที่ควร และเพราะเหตุนี้ ทำให้หนุ่มสหรัฐฯ คนหนึ่ง ลงมือทดลองวิธีการซ่อมแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฮบริดด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยให้เขาประหยัดเงินไปได้หลายพันเหรียญสหรัฐ หรือนับแสนบาทเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลยครับ
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์คาร์สกูปส์ ได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวสหรัฐฯ นามว่า scoodidabop ซึ่งได้เล่าผ่านเว็บบล็อก imgur.com เอาไว้ว่า พ่อหนุ่มชาวเน็ตคนนี้ได้ซื้อรถยนต์ โตโยต้า แคมรี่ ไฮบริด (Toyota Camry Hybrid) มือสอง ปี 2010 มาใช้งาน แต่แล้วหลังจากใช้งานไปได้เพียงสองสัปดาห์ หน้าปัดของรถก็แสดงไฟบ่งบอกความผิดปกติ พร้อมกับขึ้นข้อความให้ตรวจสอบระบบไฮบริดโดยด่วนที่สุด
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพาเจ้ารถคันดังกล่าวไปเข้าศูนย์บริการ ซึ่งทางศูนย์ระบุว่าเกิดจากแบตเตอรี่ไฮบริดในรถเสื่อมสภาพ โดยจะต้องทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด คิดเป็นจำนวนเงิน 4,456 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 145,000 บาท) ถือเป็นราคาที่สูงมากเกือบครึ่งหนึ่งของราคารถที่เขาซื้อมาเลยทีเดียว
เพราะราคาที่สูงเกินไป ทำให้เขาหาทางอื่นที่จะแก้ไขปัญหา โดยหลังจากศึกษารายละเอียดของแบตเตอรี่อย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาจึงลองแยกชิ้นส่วนออกมาดู ซึ่งไม่พบปัญหาในส่วนอื่น ๆ ใดเลย นอกจากว่าขั้วทองแดงที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับระบบต่าง ๆ เกิดสนิมขึ้นอย่างหนาแน่น เขาจึงลองทำความสะอาดมันโดยนำเจ้าขั้วเหล่านี้แช่ในน้ำส้มสายชูเป็นเวลา 34 ชั่วโมง ก่อนจะนำมาล้างด้วยน้ำเปล่ากับเบกกิ้งโซดา
แน่นอนว่าหลังจากประกอบกลับคืนเข้าไป ระบบก็สามารถทำงานได้ปกติเช่นเดิม ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับน้ำส้มสายชูขวดใหญ่และเบกกิ้งโซดากล่องใหญ่นั้นอยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 320 บาท) เท่านั้น ประหยัดกว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างมากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การจัดการกับแบตเตอรี่ในลักษณะนี้ จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าพอสมควร ถ้าหากอยากทำเองก็ควรจะศึกษาให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ แต่อันที่จริงแล้วก็ควรเป็นหน้าที่ของศูนย์บริการมากกว่าที่จะดูแลในส่วนนี้ ซึ่งมักถูกละเลยแล้วบอกให้เปลี่ยนยกชุดเหมือนกับกรณีนี้..
ย้อนกลับมาดูศูนย์บริการของไทย หากรถไฮบริดแล้วมีปัญหาเจอให้เปลี่ยนยกชุดบ้าง คุณล่ะจะว่าไง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก imgur