แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023 พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับรถของคุณ

อัปเดตแบตเตอรี่รถยนต์ ปี 2023 ยี่ห้อไหนดีเป็นที่นิยม แบบดูแลง่าย ทนทาน ซึ่งมีหลากหลายราคาให้เลือกตามความเหมาะสมกับการใช้งาน

แบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่มีความสำคัญสำหรับรถยนต์ เนื่องจากเป็นตัวจ่ายกระแสไฟเพื่อจุดระเบิดส่วนผสมระหว่างเชื้อเพลิงกับอากาศ ซึ่งทั้งหมดคือส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงาน และกำลังไฟที่ดีย่อมส่งผลต่อการสตาร์ตเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์

นอกจากนี้รถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นมักมาพร้อมกับระบบ Idling Start-Stop (ISS) ซึ่งช่วยดับเครื่องยนต์เป็นบางจังหวะ เช่น ขณะรถติด โดยในระหว่างนั้นอุปกรณ์ภายในรถยนต์จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่ ดังนั้นการเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ ซึ่งเราได้รวบรวม แบตเตอรี่รถยนต์ 2023 ยี่ห้อที่น่าสนใจ เน้นดูแลง่าย ทนทาน และได้รับความนิยมทั้งชนิดกึ่งแห้ง (Maintenance Free) และชนิดแห้ง (Sealed Maintenance Free) มาให้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกแบตเตอรี่ลูกใหม่ของคุณ

แบตเตอรี่รถยนต์ 2023 ยี่ห้อไหนดี

1. GS Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ GS Battery เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นผลิตในไทย มีแบตเตอรี่ให้เลือกหลายแบบ สำหรับรถญี่ปุ่น รถยุโรป รถกระบะ รถยนต์ไฮบริด โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ

  • GS Batterry MF Tough แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น หรือ Maintenance Free มีทั้งแบบขั้วลอยสำหรับรถญี่ปุ่นหลายขนาด
GS Batterry MF Tough

ภาพจาก : gsbattery.co.th

  • GS Battery MF DIN Dura Tough แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น คล้ายรุ่น MF Tough แต่เป็นแบบขั้วจมสำหรับรถยุโรปและรถญี่ปุ่นบางรุ่นที่เป็นรถไฮบริด รวมถึงรถกระบะ โดยมีหลายขนาดให้เลือก
GS Battery MF DIN Dura Tough

ภาพจาก : gsbattery.co.th

  • GS Battery EFB Dura Tough แบตเตอรี่ชนิดแห้ง EFB (Enhance Flood Battery) หรือแบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์เหลวขั้นสูง ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ที่มีระบบ Idling Start-Stop (ISS) ซึ่งเครื่องยนต์จะดับและถูกสตาร์ตบ่อยครั้งกว่าปกติ มีให้เลือกทั้งแบบขั้วลอยสำหรับรถญี่ปุ่น กับขั้วจมสำหรับรถยุโรป แต่ราคาสูงกว่าแบตเตอรี่ชนิด MF ปกติ
GS Battery EFB Dura Tough

ภาพจาก : gsbattery.co.th

2. Panasonic Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Panasonic แบรนด์ญี่ปุ่นผลิตในไทย ที่ได้รับความนิยมลำดับต้น ๆ ด้วยราคาและความทนทานสมเหตุผล รุ่นที่แนะนำคือ แบตเตอรี่กึ่งแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น รุ่น Standard MF ซึ่งมีหลายรุ่นให้เลือกทั้งแบบขั้วจม-ขั้วลอยหลายขนาด สำหรับรถญี่ปุ่นและรถยุโรปทุกขนาด ทุกแบบ ตั้งแต่รถเก๋งเล็ก รถกระบะ และรถกระบะดัดแปลง (PPV) แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นจะมีรุ่น JP Series ผลิตในญี่ปุ่น อีกหนึ่งทางเลือกในราคาที่สูงขึ้น

Panasonic Battery

ภาพจาก : panasonic.com

3. 3K Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ 3K เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีโรงงานผลิตอยู่ในไทย เครือ Hitachi เรื่องมาตรฐานและความทนทานเป็นที่ยอมรับมานาน โดยรุ่นที่แนะนำ คือ

  • 3K Battery Max Series แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งของ 3K มีขนาดให้เลือก 40-100 แอมแปร์-ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบขั้วลอยสำหรับรถญี่ปุ่นเป็นหลัก
3K Battery Max Series

ภาพจาก : 3kbattery.com

  • 3K Battery SVX Series แบตเตอรี่ชนิดแห้ง อายุการใช้งานทนทานกว่าแบบกึ่งแห้ง ไม่ต้องดูแลหรือเติมน้ำกลั่น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 40-100 แอมแปร์-ชั่วโมง
3K Battery SVX Series

ภาพจาก : 3kbattery.com

4. FB Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ FB แบรนด์ญี่ปุ่นที่ผลิตในไทยอีกเช่นกัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ตามประเภทรถและการใช้งาน โดย FB Battery จะเน้นไปทางรถญี่ปุ่น ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ และรถกระบะดัดแปลง (PPV) เป็นส่วนใหญ่ ส่วนรถยุโรปมีให้เลือกน้อยกว่า ดังนี้

  • FB Battery S-Series แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ราคาไม่สูงมาก มีให้เลือกหลายขนาด สำหรับรถเก๋งทุกขนาด รวมถึงรถกระบะและรถกระบะดัดแปลง (PPV)
FB Battery S-Series

ภาพจาก : fbbattery.com

  • FB Battery Gold SMF แบตเตอรี่ชนิดแห้ง ไม่ต้องดูแลหรือเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน มีให้เลือกหลายขนาด สำหรับรถเก๋งเล็ก, กลาง, ใหญ่ ไปจนถึงรถกระบะและรถกระบะดัดแปลง
FB Battery Gold SMF

ภาพจาก : fbbattery.com

  • FB Battery EFB แบตเตอรี่ชนิดแห้งแบบ Enhance Flood Battery เหมาะสำหรับรถที่มีระบบ Idling Start-Stop (ISS) 
FB Battery EFB

ภาพจาก : fbbattery.com

5. Yuaza Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Yuaza เป็นแบตเตอรี่ญี่ปุ่นรายใหญ่อีกหนึ่งแบรนด์และมีโรงงานผลิตในไทย โดยรุ่นที่แนะนำจะเป็นแบตเตอรี่ชนิดแห้ง (SMF) ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5-10 ปี (ซึ่งอาจแตกต่างตามการใช้งานและปัจจัยแวดล้อม) แต่มีสเปกความจุแบตเตอรี่ (Ah) ให้เลือกไม่มากนัก

Yuaza Battery

ภาพจาก : yuasathai.com

6. Amaron Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Amaron เป็นแบตเตอรี่แบรนด์ของสหรัฐอเมริกา แต่ผลิตและนำเข้าจากอินเดีย ใช้เทคโนโลยี Silver-Calcium ในโครงแผ่นธาตุทนต่อการผุกร่อน มีให้เลือกสำหรับรถญี่ปุ่นขนาดเล็ก ขนาดกลาง รถกระบะ รวมถึงรถยุโรป ถ้าสนใจแบรนด์นี้แนะนำเป็นรุ่น Amaron Hi-Life/ Amaron Hi-life Pro ซึ่งจะได้การรับประกันยาวนานกว่า Amaron Go ที่เป็นแบตเตอรี่รุ่นประหยัดกว่า

Amaron Battery

ภาพจาก : AmaronTHofficial

7. Puma Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Puma ชื่อที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยเสียเท่าไรนัก เพราะทำตลาดในไทยไม่ยาวนานเท่ากับหลาย ๆ แบรนด์ที่ผ่านมา แต่คุณภาพได้รับการยอมรับมากพอสมควร และแพร่หลายในกลุ่มคนที่เล่นเครื่องเสียงรถยนต์ที่ต้องใช้พลังไฟเยอะและความเสถียรสูง โดยจะมี 2 กลุ่มหลัก คือ

  • Puma Gold แบตเตอรี่ชนิดแห้ง SMF มีทั้งแบบขั้วลอยมาตรฐาน JIS ขนาดความจุ 45-200 แอมแปร์-ชั่วโมง คือตั้งแต่รถยนต์นั่งไปจนถึงรถบัสหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ กับแบบขั้วจมมาตรฐาน DIN ขนาดความจุ 50-110 แอมแปร์-ชั่วโมง 
Puma Gold

ภาพจาก : thaipuma.com

  • Puma Black แบตเตอรี่ชนิดแห้ง SMF มีเฉพาะแบบขั้วลอยมาตรฐาน JIS ขนาดความจุ 42-100 แอมแปร์-ชั่วโมง 
Puma Black

ภาพจาก : thaipuma.com

  • Puma Start Stop EFB กลุ่มแบตเตอรี่ชนิดแห้ง SMF แบบ Enhance Flood Battery (EFB) สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ Idling Start-Stop (ISS) ขนาดความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 55-86 แอมแปร์-ชั่วโมง
Puma Start Stop EFB

ภาพจาก : thaipuma.com

  • Puma Start Stop AGM กลุ่มแบตเตอรี่ชนิดแห้ง SMF แบบ Absorbent Glass Material (AGM) ด้านในมีวัสดุเป็นใยแก้ว (มักนิยมเรียกว่า แบตเตอรี่เจล) รองรับการสูญเสียประจุได้มากกว่าแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดทั่วไป ซึ่งเหมาะกับรถที่มีระบบชาร์จไฟขณะเบรก ทุกแบบมีให้เลือกสำหรับรถญี่ปุ่นและรถยุโรป รวมถึงรถบรรทุก
Puma Start Stop AGM

ภาพจาก : thaipuma.com

8. Varta Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Varta แบรนด์เยอรมนี เดิมผลิตในเยอรมนี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเกาหลีใต้มาตรฐานเยอรมนี เป็นหนึ่งในแบตเตอรี่รถยนต์ขึ้นชื่อเรื่องความอึดทน แบ่งเป็น 4 รุ่นหลัก ใช้เทคโนโลยี Power Frame ทนทานต่อการกัดกร่อน ให้กำลังไฟสูง

  • Varta Black Dynamic แบตเตอรี่ชนิดแห้งสำหรับรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 2000
Varta Black Dynamic

ภาพจาก : varta-automotive.com

  • Varta Blue Dynamic แบตเตอรี่ชนิดแห้งสำหรับรถใหม่แบบมาตรฐาน มีความจุให้เลือกหลายขนาด
Varta Blue Dynamic

ภาพจาก : varta-automotive.com

  • Varta Silver Dynamic แบตเตอรี่ชนิดแห้งสำหรับรถใหม่ที่ต้องการกำลังไฟสูงกว่าปกติ เช่น ติดตั้งเครื่องเสียง ระบบความบันเทิง กล้อง หรืออื่น ๆ มีขนาดให้เลือก 36-100 แอมแปร์-ชั่วโมง
Varta Silver Dynamic

ภาพจาก : varta-automotive.com

  • Varta Silver Dynamic AGM แบตเตอรี่ชนิดแห้งแบบ Absorbent Glass Material (AGM) ซึ่งนิยมเรียกว่าแบตเตอรี่เจล สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ Idling Start-Stop (ISS) มีขนาดให้เลือก 35-105 แอมแปร์-ชั่วโมง
Varta Silver Dynamic AGM

ภาพจาก : varta-automotive.com

9. Bosch Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Bosch เป็นแบรนด์เยอรมนีชื่อคุ้นเคยเพราะผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์หลายอย่าง โดยแบตเตอรี่รถยนต์ของ Bosch เป็นแบบแห้ง แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักให้เลือก ได้แก่

  • Bosch Hightec Silver AMS แบตเตอรี่ชนิดแห้ง เหมาะกับรถยนต์ใช้งานทั่วไปและรองรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่รองรับเทคโนโลยีไดชาร์จอัจฉริยะ Alternator Management System (AMS) มีทั้งแบบขั้วจมและขั้วลอยให้เลือก
Bosch Hightec Silver AMS

ภาพจาก : boschaftermarket.com

  • Bosch ST Hightec EFB แบตเตอรี่ชนิดแห้งแบบ Enhance Flood Battery (EFB) เหมาะกับรถที่มีระบบ Idling Start-Stop (ISS)
Bosch ST Hightec EFB

ภาพจาก : boschaftermarket.com

  • Bosch ST Hightec SGM แบตเตอรี่ชนิดแห้งแบบ Absorbent Glass Material (AGM) รองรับรถที่มีทั้งระบบ Idling Start-Stop (ISS) รวมถึงระบบชาร์จไฟจากการเบรก

10. Boliden Battery

แบตเตอรี่รถยนต์ Bolident เป็นแบรนด์สวีเดนที่มีโรงงานผลิตในประเทศไทยและเป็นที่รู้จักมายาวนาน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ

  • Boliden Dynamic MF แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น สำหรับรถเก๋งและรถกระบะ มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 35-95 แอมแปร์-ชั่วโมง
Boliden Dynamic MF

ภาพจาก : bolidenbatteries.com

  • Boliden Silvertech SMF/ Silvertech Pro SMF แบตเตอรี่ชนิดแห้ง ที่ให้พลังไฟที่สูงและมีความเสถียรมากขึ้นจากการใช้แผ่นตะแกรงภายในแคลเซียมผสมโลหะเงิน มีขนาดความจุแบตเตอรี่ให้เลือกหลายขนาด สำหรับรถเก๋งและรถกระบะ
Boliden Silvertech SMF

ภาพจาก : bolidenbatteries.com

  • Boliden Silvertech Pro EFB แบตเตอรี่ชนิดแห้งแบบ Enhance Flood Battery (EFB) สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบ Idling Start-Stop (ISS) มีเพียง 3 ขนาดความจุ คือ 55, 75 และ 80 แอมแปร์-ชั่วโมง
Boliden Silvertech Pro EFB

ภาพจาก : bolidenbatteries.com

ความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม สร้างความเสียหายอะไรให้เราบ้าง

การปล่อยให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมจนไม่สามารถสตาร์ตรถได้ อันดับแรกเลยคือ ต้องเสียเวลาในการพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่นหรือเครื่องจั๊มพ์สตาร์ต ยิ่งเป็นช่วงเร่งรีบ ยามวิกาล หรืออยู่ในสถานที่ไม่อำนวย เช่น เปลี่ยว ห่างไกล อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก ส่วนประการที่สองคือ รถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นต้องพึ่งพาระบบไฟฟ้ามากมาย หากแบตเตอรี่เสื่อมอาจส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์อื่น ๆ รวมถึงการพ่วงแบตเตอรี่ไม่ถูกวิธีก็เสี่ยงต่อระบบไฟ กล่องควบคุมต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหายได้อีกด้วย

จะทราบได้อย่างไรว่า แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ควรต้องเปลี่ยนแล้ว

พฤติกรรมโดยทั่วไปของคนส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อหมดสภาพหรือสตาร์ตเครื่องยนต์ไม่ได้ แม้จะทราบว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานมากขึ้น แต่จริง ๆ เราสามารถสังเกตได้ว่าเมื่อไหร่ควรถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ โดยดูจากอายุของแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ขายมักจะตอกหรือทำเครื่องหมายระบุวันที่สำหรับการรับประกันเอาไว้ สำหรับแบตเตอรี่น้ำรวมถึงชนิดกึ่งแห้งจะอยู่ได้ราว ๆ 1-2 ปี หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรถยนต์รวมถึงการใช้งานดูแลรักษา ส่วนแบตเตอรี่แห้งมักมีอายุ 5 ปีขึ้นไปโดยประมาณ

นอกจากนี้เรายังสามารถสังเกตว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพได้จากกำลังไฟที่ลดลงขณะสตาร์ตรถ เช่น สตาร์ตยากขึ้น อาการระบบไฟฟ้ารวน (ในรถที่มีระบบไฟฟ้ามาก ซับซ้อน โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่) ไฟส่องสว่างทั้งภายนอก-ภายในลดลง ทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่ได้แล้ว 

แบตเตอรี่รถยนต์ มีกี่ประเภท ?

แบตเตอรี่รถยนต์ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

  • แบตเตอรี่ชนิดน้ำ มีราคาต่ำสุด แต่ต้องคอยเช็กและเติมน้ำกลั่น อายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี 

  • แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้ง หรือ Maintenance Free (MF) แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ดูแลง่ายกว่าชนิดน้ำ อายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี

  • แบตเตอรี่ชนิดแห้ง หรือ Sealed Maintenance Free (SMF) ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้โดยสิ้นเชิง อายุการใช้งาน 5-10 ปี โดยประมาณ ซึ่งก็จะมีแบบ Enhance Flood Battery (EFB) สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีระบบ Start-Stop และแบบ Absorbent Glass Material (AGM) ซึ่งเหมาะกับรถที่มีระบบชาร์จไฟจากการเบรก

  • แบตเตอรี่แบบไฮบริด เหมาะกับรถใช้งานหนัก เช่น รถโดยสาร หรือรถรับจ้าง เป็นต้น

แบตเตอรี่แต่ละชนิดก็จะมีลักษณะ อายุการใช้งาน และคุณสมบัติ ที่แตกต่างกันไป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แบตเตอรี่แห้ง แบตเตอรี่น้ำ แบตเตอรี่กึ่งแห้ง ต่างกันยังไง

วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งาน จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาหรือเมื่อเสื่อมสภาพ ส่วนวิธีการเลือกแบตเตอรี่รถยนต์จะต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกัน

อย่างแรกคือ ความจุแบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสม ถ้าเป็นสเปกเดิมจากโรงงาน เวลาเปลี่ยนให้ดูจากแบตเตอรี่ลูกเดิมได้เลย หากไม่แน่ใจให้ลองเช็กจากคู่มือประจำรถ และไม่ควรลดขนาดความจุของแบตเตอรี่ (หน่วยเป็น Ah หรือแอมแปร์-ชั่วโมง แต่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า แอมป์) โดยรถยนต์ทั่วไปส่วนใหญ่จะมีการใช้ขนาดแบตเตอรี่ ดังนี้

  • รถเก๋งขนาดเล็ก ขนาดเครื่อง 1,000-1,500 ซี.ซี. จะมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 45-60 แอมแปร์-ชั่วโมง

  • รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ ขนาดเครื่อง 1,500-3,000 ซี.ซี. จะมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 60-75 แอมแปร์-ชั่วโมง

  • รถกระบะ รถพีพีวีหรือเอสยูวี ขนาดเครื่อง 2,000-3,000 ซี.ซี. จะมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 70-90 แอมแปร์-ชั่วโมง

ยกเว้นรถที่ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เครื่องเสียง ระบบความบันเทิง รวมถึงกล้องที่มีฟีเจอร์ตรวจจับขณะจอด อาจจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีแอมป์สูงเกินกว่าที่ผู้ผลิตกำหนด เพราะทางผู้ผลิตนั้นได้คำนวณขนาดแบตเตอรี่มาไว้ให้แล้ว รวมถึงค่า CCA ซึ่งเป็นกำลังไฟที่ต้องใช้ในการสตาร์ตเครื่องยนต์ก็ควรตรงตามที่ผู้ผลิตกำหนด

นอกจากนี้สิ่งที่จำเป็นต้องดูคือขนาดแบตเตอรี่ว่าขนาดพอดีกับฐานแบตเตอรี่รถของเราหรือไม่ ตลอดจนลักษณะของแบตเตอรี่ว่าเป็นขั้วจมหรือขั้วลอย โดยสามารถดูได้จากคู่มือประจำรถหรือสอบถามจากร้านที่จำหน่ายได้โดยตรง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023 พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับรถของคุณ อัปเดตล่าสุด 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 17:19:57 98,966 อ่าน
TOP
x close