รวมความหมายของป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร แบบต่าง ๆ ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์และผู้สัญจรบนท้องถนนควรรู้ สัญลักษณ์จราจรแต่ละแบบที่อยู่บนพื้นถนนมีความหมายว่าอย่างไร มาดูกัน
เครื่องหมายจราจรและความหมาย
เครื่องหมายจราจร (Traffic Sign) หมายถึง สัญลักษณ์ทางจราจรที่ใช้ในการควบคุมการจราจร มักเป็นสัญญาณแสงหรือป้าย มักมีจุดประสงค์เพื่อ กำหนดบังคับการเคลื่อนตัวของจราจร การจอด หรืออาจเป็นการเตือน หรือแนะนำทางจราจร ดังนี้
1. สัญญาณไฟจราจร
สัญญาณไฟจราจร โดยทั่วไปประกอบด้วยสัญญาณไฟ 3 สี ติดตั้งตามทางแยกต่าง ๆ เพื่อควบคุมการจราจรตามทางแยก โดยทั้ง 3 สี ได้แก่ สีแดง ให้รถหยุด สีเหลือง ให้รถระวัง เตรียมหยุด และสีเขียว คือให้รถไปได้ สำหรับสัญญาณไฟจราจรพิเศษอาจมีสีเหลืองเพียงสีเดียวจะกะพริบอยู่ ใช้สำหรับทางแยกที่ไม่พลุกพล่าน หมายถึง ให้ระมัดระวังว่ามีทางแยก และดูความเหมาะสมในการออกรถได้เอง หรือสัญญาณไฟจราจรสำหรับการข้ามถนน หรือสัญญาณไฟจราจรไว้สำหรับเปลี่ยนเลน เป็นต้น
2. ป้ายจราจร
ป้ายจราจร เป็นป้ายทางการควบคุมการจราจร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
- เครื่องหมายจราจร ป้ายบังคับ มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีแดง เป็นป้ายกำหนดต้องทำตาม เช่น ห้ามเลี้ยวขวา
- เครื่องหมายจราจร ป้ายเตือน มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีดำ จะเป็นป้ายแจ้งเตือนว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า
- เครื่องหมายจราจร ป้ายแนะนำ เป็นป้ายที่แนะนำการเดินทางต่าง ๆ อาทิ ทางลัด ป้ายบอกระยะทาง เป็นต้น
3. เครื่องหมายจราจรอื่น ๆ
- เครื่องหมายจราจร เครื่องหมายบนพื้นทางและขอบทางเท้า
เครื่องหมายจราจร ประเภทป้ายบังคับ 1 และรูปภาพเครื่องหมายจราจร
แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. ป้ายบังคับที่แสดงความหมายตามรูปแบบและลักษณะที่กำหนด
2. ป้ายบังคับที่แสดงด้วยข้อความ และ/หรือสัญลักษณ์
1. "หยุด"
ความหมาย รถทุกชนิดต้องหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เคลื่อนรถต่อไปได้ด้วยความระมัดระวัง
2. "ให้ทาง"
ความหมาย รถทุกชนิดต้องระมัดระวังและให้ทางแก่รถและคนเดินเท้าในทางขวางหน้าผ่านไป ก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรที่บริเวณทางแยกนั้นแล้ว จึงให้เคลื่อนรถต่อไปได้ด้วยความระมัดระวัง
3. "ให้รถสวนทางมาก่อน"
4. "ห้ามแซง"
ความหมาย ห้ามมิให้ขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
5. "ห้ามเข้า"
ความหมาย ห้ามมิให้รถทุกชนิดเข้าไปในทางที่ติดตั้งป้าย
6. "ห้ามกลับรถไปทางขวา"
7. "ห้ามกลับรถไปทางซ้าย"
ความหมาย ห้ามมิให้กลับรถไปทางซ้ายไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
8. "ห้ามเลี้ยวซ้าย"
ความหมาย ห้ามมิให้เลี้ยวรถไปทางซ้าย
9. "ห้ามเลี้ยวขวา"
10. "ห้ามรถยนต์"
ความหมาย ห้ามรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
11. "ห้ามรถบรรทุก"
ความหมาย ห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
12. "ห้ามรถจักรยานยนต์"
ความหมาย ห้ามรถจักรยานยนต์ผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
13. "ห้ามรถยนต์สามล้อ"
ความหมาย ห้ามรถยนต์สามล้อผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
14. "ห้ามรถสามล้อ"
ความหมาย ห้ามรถสามล้อผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
15. "ห้ามรถจักรยาน"
ความหมาย ห้ามรถจักรยานผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
16. "ห้ามล้อเลื่อนลากเข็น"
ความหมาย ห้ามล้อเลื่อนลากเข็นผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
17. "ห้ามรถยนต์ที่ใช้ในการเกษตร"
ความหมาย ห้ามรถยนต์ที่ใช้ในการเกษตรทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
18. "ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์"
ความหมาย ห้ามรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
19. "ห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ รถจักรยานยนต์"
20. "ห้ามใช้เสียง"
ความหมาย ห้ามมิให้ใช้เสียงสัญญาณหรือทำให้เกิดเสียงที่ก่อการรบกวนด้วยประการใด ๆ ในเขตที่ติดตั้งป้าย
21. "ห้ามคน"
22. "ห้ามจอดรถ"
ความหมาย ห้ามมิให้จอดรถทุกชนิดระหว่างแนวนั้น เว้นแต่การรับ-ส่งคน หรือสิ่งของชั่วขณะ ซึ่งต้องกระทำโดยมิชักช้า
23. "ห้ามหยุดรถ"
ความหมาย ห้ามมิให้หยุดรถหรือจอดรถทุกชนิดตรงแนวนั้นเป็นอันขาด
24. "หยุดตรวจ"
ความหมาย ให้ผู้ขับรถหยุดรถที่ป้ายนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจและเคลื่อนรถต่อไปได้เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจแล้วเท่านั้น
25. "จำกัดความเร็ว"
ความหมาย ห้ามมิให้ผู้ขับรถทุกชนิดใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนดเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามจำนวนตัวเลขในแผ่นป้ายนั้น ๆ ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย จนกว่าจะพ้นที่สุดระยะที่จำกัดความเร็วนั้น
26. "ห้ามรถหนักเกินกำหนด"
ความหมาย ห้ามมิให้รถทุกชนิดที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดหรือเมื่อรวมน้ำหนักรถกับน้ำหนักบรรทุก เกินกว่าที่กำหนดไว้เป็น "ตัน" ตามจำนวนเลขในเครื่องหมายนั้น ๆ เข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
27. "ห้ามรถกว้างเกินกำหนด"
ความหมาย ห้ามมิให้รถทุกชนิดที่มีขนาดกว้างเกินกำหนดเป็น "เมตร" ตามจำนวนเลขในเครื่องหมายนั้น เข้าไปในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
28. "ห้ามรถสูงเกินกำหนด"
ความหมาย ห้ามมิให้รถทุกชนิดที่มีความสูงของรถรวมทั้งของที่บรรทุกเกินกว่ากำหนดเป็น "เมตร" ตามจำนวนเลขในเครื่องหมาย เข้าไปในเขตทางหรืออุโมงค์ที่ติดตั้งป้าย
29. "ให้เดินรถทางเดียวไปข้างหน้า"
ความหมาย ให้ขับรถตรงไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนด
30. "ทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย"
31. "ทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา"
32. "ให้ชิดซ้าย"
33. "ให้ชิดขวา"
ความหมาย ให้ขับรถผ่านไปทางขวาของป้าย
34. "ให้เลี้ยวซ้าย"
ความหมาย ให้ขับรถเลี้ยวไปทางซ้ายแต่ทางเดียว
35. "ให้เลี้ยวขวา"
ความหมาย ให้ขับรถเลี้ยวไปทางขวาแต่ทางเดียว
36. "ให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา"
37. "ให้ไปทางซ้ายหรือทางขวา"
38. "วงเวียน"
ความหมาย ให้รถทุกชนิดเดินวนทางซ้ายของวงเวียน และรถที่เริ่มจะเข้าสู่ทางร่วมบริเวณวงเวียนต้องหยุดให้สิทธิแก่รถที่แล่นอยู่ในทางรอบวงเวียนไปก่อน ห้ามขับรถแทรกหรือตัดหน้ารถที่อยู่ในทางรอบบริเวณวงเวียน
39. "สุดเขตบังคับ"
ความหมาย พ้นสุดระยะที่บังคับตามความหมายของป้ายบังคับที่ติดตั้งไว้ก่อน
เครื่องหมายจราจร ประเภทป้ายบังคับ 2 และรูปภาพเครื่องหมายจราจร
1. ให้รถตรงไป
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถตรงไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนด เป็นทางเดินรถทางเดียวเท่านั้น ห้ามมิให้ไปทางซ้ายหรือไปทางขวา
2. ทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย
หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางบังคับให้เดินรถทางเดียวไปทางซ้ายเท่านั้น
3. ทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา
หมายความว่า ทางข้างหน้าเป็นทางบังคับให้เดินรถทางเดียวไปทางขวาเท่านั้น ห้ามมิให้ขับรถไปทางซ้าย
4. ให้ชิดซ้าย
หมายความว่า ให้ขับรถไปทางด้านซ้ายของเครื่องหมาย
5. ให้ชิดขวา
หมายความว่า ให้ขับรถไปทางด้านขวาของเครื่องหมาย
6. ให้ไปทางซ้ายหรือทางขวา
หมายความว่า ให้ขับรถผ่านไปทางด้านซ้ายหรือทางด้านขวาของป้าย
7. ให้เลี้ยวซ้าย
หมายความว่า ให้ขับรถเลี้ยวไปทางซ้ายแต่ทางเดียว
8. ให้เลี้ยวขวา
หมายความว่า ให้ขับรถเลี้ยวไปทางขวาแต่ทางเดียว
9. ให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
หมายความว่า ให้ขับรถไปทางซ้ายหรือไปทางขวา
10. ให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถตรงไปหรือเลี้ยวไปทางซ้ายเท่านั้น
11. ให้ตรงไปหรือเลี้ยวขวา
หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องขับรถตรงไปหรือเลี้ยวไปทางขวาเท่านั้น
12. วงเวียน
หมายความว่า ให้รถทุกชนิดเดินวนทางซ้ายของวงเวียน และรถที่เริ่มจะเข้าสู่ทางร่วมบริเวณวงเวียนต้องหยุด ให้สิทธิแก่รถที่แล่นอยู่ในทางรอบวงเวียนไปก่อน ห้ามขับรถแทรกหรือตัดหน้ารถที่อยู่ในทางรอบบริเวณวงเวียน
13. ช่องเดินรถประจำทาง
หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่องเดินรถประจำทาง
14. ช่องเดินรถมวลชน
หมายความว่า ช่องเดินรถที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้เป็นช่องเดินรถมวลชน และให้ใช้ได้เฉพาะรถที่มีจำนวนคนบนรถไม่น้อยกว่าตัวเลขที่ระบุในป้าย
15. ช่องเดินรถจักรยานยนต์
16. ช่องเดินรถจักรยาน
17. เฉพาะคนเดิน
หมายความว่า บริเวณที่ติดตั้งป้ายเป็นบริเวณที่กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะคนเดินเท้าเท่านั้น
18. ความเร็วขั้นต่ำ
หมายความว่า บริเวณที่ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่าที่กำหนดเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามจำนวนตัวเลขที่ระบุในป้าย
เครื่องหมายจราจร ประเภทเตือน
แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1. ป้ายเตือนตามรูปแบบและลักษณะที่กำหนด
2. ป้ายเตือนที่แสดงด้วยข้อความ และ/หรือสัญลักษณ์
3. ป้ายเตือนในงานก่อสร้างต่าง ๆ
1. "ทางโค้งซ้าย"
2. "ทางโค้งขวา"
ความหมาย ทางข้างหน้าโค้งไปทางขวา ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดินรถชิดด้านขวาด้วยความระมัดระวัง
3. "ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้าโค้งรัศมีแคบไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
4. "ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวา"
5. "ทางโค้งรัศมีแคบเริ่มซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้าโค้งรัศมีแคบไปทางซ้ายแล้วกลับ ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดินรถชิดด้านขวาด้วยความระมัดระวัง
6. "ทางโค้งรัศมีแคบเริ่มขวา"
7. "ทางคดเคี้ยวเริ่มซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยวโดยเริ่มไปทางซ้าย ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควร และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
8. "ทางคดเคี้ยวเริ่มขวา"
9. "ทางเอกตัดกัน"
10. "ทางเอกตัดกันรูปตัววาย"
11. "ทางโทแยกทางเอกทางซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีทางแยกไปทางซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
12. "ทางโทแยกทางเอกทางขวา"
13. "ทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มซ้าย"
14. "ทางโทแยกทางเอกเยื้องกันเริ่มขวา"
15. "ทางโทเชื่อมทางเอกจากซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเชื่อมด้านซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
16. "ทางโทเชื่อมทางเอกจากขวา"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเชื่อมด้านขวา ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
17. "วงเวียนข้างหน้า"
18. "ทางแคบลงทั้งสองด้าน"
ความหมาย ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่านทั้งสองด้าน ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ขณะที่รถผ่านทางแคบ ผู้ขับรถจะต้องระมัดระวังมิให้รถชนหรือเสียดสีกัน
19. "ทางแคบด้านซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้าด้านซ้ายแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ผู้ขับรถต้องขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
20. "ทางแคบด้านขวา"
ความหมาย ทางข้างหน้าด้านขวาแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ผู้ขับรถต้องขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
21. "สะพานแคบ"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ รถเดินหลีกกันไม่ได้
ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายจากรถที่จะสวนมาจากอีกฝ่ายหนึ่งของสะพาน ถ้ามีป้ายอื่นติดตั้งอยู่ ก็ให้ปฏิบัติตามป้ายนั้น
ๆ ด้วย
22. "ทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและไม่มีเครื่องกั้นทาง ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และสังเกตดูรถไฟทั้งทางขวาและทางซ้าย ถ้ามีรถไฟกำลังจะผ่านมาให้หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอคอยจนกว่ารถไฟนั้นผ่านพ้นไปและปลอดภัยแล้ว จึงเคลื่อนรถต่อไปได้ ห้ามมิให้ขับรถตัดหน้ารถไฟในระยะที่อาจจะเกิดอันตรายได้เป็นอันขาด
23. "ทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง"
ความหมาย หน้าที่กั้นทาง หรือมีเครื่องกั้นทางปิดกั้น ถ้ามีรถข้างหน้าหยุดรออยู่ก่อน ก็ให้หยุดรถถัดต่อมาตามลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทางแล้วให้รถที่หยุดรอเคลื่อนที่ตามกันได้
24. "ทางขึ้นลาดชัน"
ความหมาย ทางข้างหน้าเป็นทางลาดชันขึ้นเขาหรือขึ้นเนิน สันเขา หรือสันเนิน อาจกำบังสายตาไม่ให้มองเห็นรถที่สวนมา ให้ขับรถให้ช้าลง และเดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก กับให้ระมัดระวังอันตรายจากรถที่สวนทางมา
25. "ทางลงลาดชัน"
ความหมาย ทางข้างหน้าเป็นทางลาดลงเขาหรือลงเนิน ให้ขับรถให้ช้าลง เดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก และผู้ขับรถไม่ควรปลดเกียร์หรือดับเครื่องยนต์เป็นอันขาดในกรณีที่เป็นทางลงเขา หรือเนินที่ชันมาก ให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อความปลอดภัย
26. "เตือนรถกระโดด"
ความหมาย ทางข้างหน้าเปลี่ยนระดับอย่างกะทันหัน เช่น บริเวณคอสะพาน ทางข้ามท่อระบายน้ำ และสันชะลอความเร็ว เป็นต้น ให้ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง
27. "ผิวทางขรุขระ"
ความหมาย ทางข้างหน้าขรุขระมาก มีหลุม มีบ่อ หรือเป็นสันติดต่อกัน ให้ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง
28. "ทางลื่น"
29. "ผิวทางร่วน"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีวัสดุผิวทางหลุดกระเด็น เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงให้ขับให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายอันอาจเกิดจากวัสดุผิวทาง
30. "สะพานเปิดได้"
ความหมาย ทางข้างหน้าจะต้องผ่านสะพานที่สามารถเปิดให้เรือลอด ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังในการหยุดรถ เมื่อเจ้าหน้าที่จะปิดกั้นทางเพื่อเปิดสะพานให้เรือผ่านเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อรถข้างหน้าและรถข้างหลัง
31. "ทางร่วม"
32. "ทางคู่ข้างหน้า"
ความหมาย ทางข้างหน้าเป็นทางคู่มีเกาะหรือสิ่งอื่นใดแบ่งการจราจรออกเป็นสองทาง ไปทางหนึ่ง มาทางหนึ่ง ให้ขับรถชิดไปทางด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
33. "สิ้นสุดทางคู่"
ความหมาย ทางข้างหน้าเป็นทางร่วมที่ไม่มีเกาะหรือสิ่งอื่นใดแบ่งการจราจร ให้ขับรถช้าลงและชิดด้านซ้ายของทาง และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
34. "จุดกลับรถ"
35. "สัญญาณจราจร"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีสัญญาณไฟจราจร ให้ขับรถช้าลง และพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร
36. "หยุดข้างหน้า"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีเครื่องหมายหยุดติดตั้งอยู่ ให้ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันทีเมื่อขับรถถึงป้ายหยุด
37. "ระวังคนข้ามถนน"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีทางสำหรับคนข้ามถนนหรือมีหมู่บ้านราษฎรอยู่ข้างทาง ซึ่งมีคนเดินข้ามไป-มาอยู่เสมอ ให้ขับรถให้ช้าลงพอสมควรและระมัดระวังคนข้ามถนน ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามถนนให้หยุดรถให้คนเดินข้ามถนนไปได้โดยปลอดภัย
38. "ระวังคนข้ามถนน"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีโรงเรียนตั้งอยู่ข้างทาง ให้ขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังอุบัติเหตุซึ่งอาจจะเกิดขึ้นแก่เด็กนักเรียน ถ้ามีเด็กนักเรียนกำลังเดินข้ามถนนให้หยุดรถให้เด็กนักเรียนข้ามถนนไปได้โดยปลอดภัย ถ้าเป็นเวลาที่โรงเรียนกำลังสอน ให้งดใช้เสียงสัญญาณ และห้ามทำให้เกิดเสียงรบกวนด้วยประการใด ๆ
39. "ระวังสัตว์"
ความหมาย ทางข้างหน้าอาจมีสัตว์ข้ามทาง ให้ขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ
40. "ระวังอันตราย"
41. "เขตห้ามแซง"
42. "เครื่องหมายลูกศรคู่"
ความหมาย มีเกาะหรือสิ่งกีดขวางอยู่กลางทางจราจร ยวดยานสามารถผ่านไปได้ทั้งทางซ้ายและทางขวาของป้าย
43. "อุบัติเหตุข้างหน้า"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น อาจมียวดยานหรือสิ่งอื่นกีดขวางทางจราจร
44. "ทางเบี่ยงซ้าย"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีการก่อสร้างทางหลวง การจราจรจะต้องเปลี่ยนแนวทางไปใช้ทางเบี่ยงหรือทางชั่วคราวทางด้านซ้าย
45. "ทางเบี่ยงขวา"
46. "เครื่องจักรกำลังทำงาน"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ข้างทาง และล้ำเข้ามาในผิวจราจร หรือใกล้ผิวจราจรเป็นครั้งคราว
47. "คนทำงาน"
ความหมาย ทางข้างหน้ามีคนงานกำลังทำงานอยู่บนผิวจราจรหรือใกล้ชิดกับผิวจราจร
48. "สำรวจทาง"
เครื่องหมายจราจร ประเภทเครื่องหมายบนพื้นทาง
1. เส้นแบ่งทิศทางจราจรปกติ (เป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 200 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 200 เซนติเมตร)
ความหมาย ให้ขับรถในด้านซ้ายเลี้ยวขวาหรือแซงหน้ารถคันอื่นได้เมื่อปลอดภัย
2. เส้นแบ่งทิศทางจราจรเตือน (เป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 300 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 100 เซนติเมตร)
3. เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร)
4. เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่ (เส้นประคู่เส้นทึบ)
(เป็นเส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ขนานไปกับเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง
10 เซนติเมตร ยาว 200 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 200 เซนติเมตร
เส้นทั้งสองมีระยะห่างกัน 15 เซนติเมตร)
5. เส้นแบ่งทิศทางจราจรคู่ (เส้นทึบคู่เส้นประ)
(เป็นเส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ขนานไปกับเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง
10 เซนติเมตร ยาว 200 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 200 เซนติเมตร
เส้นทั้งสองมีระยะห่างกัน 15 เซนติเมตร)
6. เส้นแบ่งทิศทางจราจร ห้ามแซงคู่ (เส้นทึบคู่) (เป็นเส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ขนานกัน มีระยะห่างระหว่างเส้น 15 เซนติเมตร)
7. เส้นแบ่งช่องเดินรถปกติ (เป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 300 เซนติเมตร )
8. เครื่องหมาย "เส้นแบ่งช่องเดินรถเตือน" หมายความว่า เส้นแบ่งช่องเดินรถประเภทเตือนเป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 300 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 100 เซนติเมตร
9. เส้นแบ่งช่องเดินรถห้ามแซง (เป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร)
10. เส้นขอบทาง (เส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 60 เซนติเมตร)
11. เส้นแบ่งเดินรถประจำทาง (เส้นทึบสีเหลืองขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร)
12. เส้นแบ่งภายในช่องเดินรถประจำทาง
13. เส้นแบ่งช่องเดินรถประจำทางสามารถข้ามผ่านได้ (เส้นทึบสีเหลือง ขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 30 เซนติเมตร)
14. จุดเริ่มต้นช่องเดินรถประจำทาง
15. เส้นแนวหยุด (เส้นขวางถนน เป็นเส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร)
16. เส้นให้ทาง (เส้นขวางถนน เป็นเส้นประสีขาว ขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร เว้นช่องห่าง 30 เซนติเมตร)
17. เส้นทแยงสำหรับทางแยก (เป็นเส้นทึบสีเหลืองขนาดกว้าง
15 เซนติเมตร ลากทแยงตัดกันทำมุม 45 องศา ห่างกัน 200 เซนติเมตร
ภายในกรอบเส้นทึบสีเหลือง ขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร )
เครื่องหมายจราจร ประเภทเครื่องหมายลูกศรบนพื้น
1. ลูกศรตรงไป
2. ลูกศรเลี้ยวซ้าย
3. ลูกศรเลี้ยวขวา
4. ลูกศรเลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา
5. ลูกศรตรงไป หรือเลี้ยวซ้าย
ความหมาย ผู้ขับในช่องที่มีลูกศรนี้ต้องขับตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย ห้ามขับเลี้ยวไปทางขวา
6. ลูกศรตรงไป หรือเลี้ยวขวา
7. ลูกศรตรงไปและเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา
8. ลูกศรเลี้ยวกลับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : khiansapolice.com, dlt.go.th