Suzuki Wagon R 2022 ราคาเริ่มที่ 2.33 แสนบาท แฮตช์แบ็กขนาดเล็ก 5 ประตู ในอินเดีย

Suzuki Wagon R 2022 ใหม่ รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู เน้นใช้งานในเมือง มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 และ 1.2 ลิตร ในราคาเริ่มเพียง 539,500 รูปี หรือราว 2.33 แสนบาท 

Maruti Suzuki ในประเทศอินเดีย ได้เปิดตัว Suzuki Wagon R 2022 (ซูซูกิ แวกอน อาร์) รถในสไตล์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่พร้อมอัปเกรด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภาพนอกที่ปรับให้ดูสปอร์ตขึ้น ขุมพลังที่มีความประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเดิม และมีการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG ในเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เคาะราคาจำหน่ายเริ่มที่ 539,500-710,000 รูปี หรือราว 2.33-3.06 แสนบาท

Suzuki Wagon R 2022 เป็นรถขนาด A segment แบบ 5 ประตู ที่ถูกพัฒนามาเพื่อคนในประเทศอินเดียโดยเฉพาะ สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Heartect เหมือนกับในรุ่น Suzuki Swift หรือ Suzuki Baleno มีขนาดยาว 3,655  มม., กว้าง 1,620 มม. และสูง 1,675 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,435 มม. มาพร้อมวงเลี้ยวที่แคบสั้นเพียง 4.7 เมตร 

ในด้านรูปลักษณ์กระจังหน้ามีความคล้ายกับ Suzuki XL7 ตกแต่งด้วยโครเมียมที่ดูเข้ม ดุดัน​ ดีไซน์ด้านในเป็นแบบรังผึ้งสีดำ ขนาบข้างทั้งสองฝั่งด้วยชุดไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์แบบทรงสูง กันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่มาพร้อมช่องรับลมรูปตัว U คว่ำ ที่วางอยู่เต็มพื้นที่ในส่วนกันชนหน้า รับกับชุดไฟตัดหมอกทรงกลม ฝากระจกมองข้างสีเดียวกับหลังคามาพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับด้วยไฟฟ้า ชุดไฟท้ายเป็นแบบแนวตั้ง ด้านข้างตัวรถมาพร้อมเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมกับออกแบบให้หลังคาเป็นแบบลอยตัว โดยที่เสา A ด้านหน้าไปจนถึงเสา C ด้านท้าย และหลังคาจะเป็นสีดำ รับกับล้ออัลลอยสีดำขนาด 14 นิ้ว 

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งแบบสีทูโทน ดูเรียบง่าย ระบบความบันเทิง SmartPlay พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว รองรับ Apple Car play, Android Auto และ Bluetooth พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง 3 ก้าน เบาะนั่งทรงสปอร์ต หัวพนักพิงเป็นชุดเดียวกับตัวเบาะ เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารตอนหน้ามาพร้อมถาดรองเก็บของใต้เบาะนั่ง กระจกมองหลังปรับแสงได้ เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60:40 

Suzuki Wagon R 2022 จะมีขุมพลังเครื่องยนต์ DualJet ให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์ K10C DualJet 1.0 ลิตร ให้กำลัง 66 แรงม้า แรงบิดสูงุสุด 89 นิวตันเมตร ที่เป็นบล็อกเดียวกับที่อยู่บนตัว Suzuki Celerio 2022 และเครื่องยนต์เบนซิน K12N Dual Jet ขนาด 1.2 ลิตร ที่ให้กำลัง 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่มีอยู่ใน Suzuki Baleno และ Suzuki  Swift นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่สามารถใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG ที่ถูกติดตั้งมาจากโรงงาน มากับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ให้กำลัง 65 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 89 นิวตันเมตร เมื่อใช้น้ำมันเบนซิน แต่ถ้าปรับมาใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG จะมีกำลังอยู่ที่ 55 แรงม้า และมีแรงบิดสูงุสด 82 นิวตันเมตร โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์ จะมีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และกระปุกเกียร์ AMT 

ด้านเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของ Suzuki Wagon R ใหม่ จะได้รับถุงลมนิรภัยคู่, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD), ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า, ระบบแจ้งเตือนความเร็วสูง และเซ็นเซอร์จอดรถด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น, ระบบ Hill-Hold Assist ในรุ่น AGS และระบบ Start Stop System (ISS) ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เป็นต้น

Suzuki Wagon R 2022 จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศอินเดีย มีให้เลือก 9 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มที่ 539,500-710,000 รูปี หรือคิดเป็นเงินอยู่ที่ประมาณ 2.33-3.06 แสนบาท

Suzuki Wagon R 2022 มีสีตัวถึงให้เลือกทั้งหมด 8 สี ทั้งแบบสีทูโทนและโมโนโทน ได้แก่ สีขาว Superior White, สีเงิน Silky Silver, สีเทา Magma Grey, สีแดง Gallant Red, สีน้ำตาล Nutmeg Brown, สีฟ้า Poolside Blue, สีแดงหลังคาดำ Roof : Midnight Black  Body : Gallant Red และสีเทาหลังคาดำ Roof : Midnight Black  Body : Magma Grey 

Suzuki Wagon R 2022 จะเป็นรถแฮตช์แบ็กขนาดเล็ก 5 ประตู ที่มีวางจำหน่ายในเฉพาะประเทศอินเดีย โดยคู่เปรียบเทียบหลัก ๆ ก็จะเป็นรถในขนาด A-segment แบบเดียวกัน อาทิ Hyundai Santro จากเกาหลี ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.1 ลิตร 69 แรงม้า พ่วงด้วยเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถเติมก๊าซธรรมชาติ CNG เหมือนกับ Suzuki Wagon R นอกจากนั้น ก็จะมีรถเจ้าถิ่นอย่าง Tata Tiago รถขนาดเล็กที่พกขุมพลังเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ให้กำลัง 87 แรงม้า แต่น่าเสียดายที่รถขนาดเล็กรูปร่างหน้าตาน่ารักทั้ง 3 รุ่นนี้ ไม่มีแผนจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่ง ณ ตอนนี้ ก็จะมีเพียง Suzuki Celerio รถ Eco Car เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ที่เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปในอินเดียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนบ้านเราจะนำเข้ามาเมื่อไหร่ก็ต้องติดตามกันให้ดี คาดว่าไม่นานเกินรอ 

ขอบคุณภาพจาก : marutisuzuki.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : marutisuzuki.com, autocarindia.com, indianautosblog.com