เอกสารโอนรถใช้อะไรบ้าง โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ มีขั้นตอนอย่างไร

เอกสารโอนรถต้องใช้อะไรบ้าง วิธีการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ โอนรถมอเตอร์ไซค์ ซื้อ-ขายโอนรถมือสอง โอนลอย ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร มาดูกัน

เอกสารโอนรถ

รถยนต์ คือ ทรัพย์สินหรือสิ่งของที่หลายคนมีในยุคปัจจุบันเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย รวมไปถึงเรตราคาของรถที่มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น แต่การจะเป็นเจ้าของได้นั้น นอกจากจะมีเงินแล้วจะต้องมีการจดทะเบียนครอบครองเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องด้วย

สำหรับการซื้อรถยนต์มือหนึ่งอาจไม่ได้มีปัญหายุ่งยากอะไรในขั้นตอนเกี่ยวกับเอกสารโอนรถ เพราะส่วนใหญ่ทางไฟแนนซ์หรือศูนย์บริการจะเป็นฝ่ายดำเนินการให้ทุกอย่าง สำหรับคนที่ซื้อ-ขายรถมือสองอาจจะต้องยุ่งยากกันสักนิด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ หรือยานพาหนะอื่น ๆ เพราะต้องมีขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์หรือโอนเปลี่ยนจากชื่อผู้ครอบครองคนเดิมไปยังผู้ครอบครองคนใหม่ หรืออีกกรณีหนึ่งที่จะต้องมีการโอนรถก็คือ การได้รับรถยนต์เป็นมรดกตกทอด สาเหตุเพราะเจ้าของเก่าเสียชีวิต จำเป็นต้องเปลี่ยนเจ้าของใหม่ 

การโอนรถมีกี่แบบ

ปัจจุบันการโอนรถมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ การโอนรถหรือโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนตรง และการโอนรถหรือโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนลอย 

  • โอนรถหรือโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนตรง คือ การที่ผู้ขายกับผู้ซื้อรถจะต้องเดินทางไปทำการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ต่อหน้านายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกที่รถคันนั้นจดทะเบียนอยู่

  • โอนรถหรือโอนกรรมสิทธิ์รถแบบโอนลอย คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่ผู้ขายอาจไม่สะดวกที่จะเดินทางไปโอนรถที่กรมการขนส่งทางบก จึงได้ดำเนินการทำเอกสารการโอนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยยังไม่ใส่ชื่อผู้รับโอนเข้าไป วิธีการนี้มีข้อดีคือ ผู้ขายจะได้รับเงินทันทีที่ทำเอกสารโอนลอยเสร็จ แต่ข้อเสียก็คือ หากผู้ซื้อยังไม่ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้เรียบร้อยและนำรถไปใช้จนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ต่อภาษี ผู้ขายที่ยังคงมีชื่อเป็นเจ้าของรถอยู่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั่นเอง

สำหรับการโอนรถแต่ละแบบจะต้องมีการเตรียมเอกสารหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้มาแนะนำ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

เอกสารที่ใช้ในการโอนรถ
มีอะไรบ้าง

เอกสารที่ใช้ในการโอนรถ หรือโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ทั้งแบบโอนตรง โอนลอย หรือโอนมรดก ส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แตกต่างกันเพียงเอกสารบางอย่างเท่านั้น

1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสมุดจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของเก่าและเจ้าของใหม่ กรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม (กรณีโอนตรงและโอนลอย)

3. สัญญาซื้อ-ขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี

4. สำเนาใบมรณบัตรเจ้าของรถ และคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกหรือพินัยกรรมพร้อมสำเนา (กรณีโอนรับมรดก)

5. แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งกรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียนร้อยแล้ว

6. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ (กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง)

นอกจากนี้ยังมีอีกกรณี นั่นก็คือการโอนรถข้ามจังหวัด ซึ่งจะต้องเตรียมสำเนาทะเบียนบ้านของทั้งตัวผู้โอนและผู้รับเพิ่มเติม

โอนรถมีขั้นตอน
การดำเนินการอย่างไร

1. นำรถเข้ารับการตรวจสอบที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)

2. ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระค่าธรรมเนียมที่งานทะเบียนรถ

3. รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน

4. รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้ายทะเบียนรถ

เอกสารโอนรถ

โอนรถเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร

1. ค่าธรรมเนียมในการโอนรถ 100 บาท

2. ค่าคำขอโอนรถ 5 บาท

3. ค่าเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ (กรณีเปลี่ยนทะเบียน) 200 บาท

4. ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียนรถ (กรณีขาด ชำรุด) 100 บาท

5. ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อการประเมินราคารถยนต์ 100,000 บาท

ทั้งนี้ การโอนรถยนต์ โอนรถมอเตอร์ไซค์ หรือโอนกรรมสิทธิ์รถทุกชนิด สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่มีชื่อและที่อยู่ของผู้โอนแจ้งใช้รถไว้ปรากฏอยู่เท่านั้น ส่วนผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถดำเนินการที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนั้น ๆ ได้เลย และหลังจากโอนรถแล้วจะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท)

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอกสารโอนรถใช้อะไรบ้าง โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ มีขั้นตอนอย่างไร อัปเดตล่าสุด 28 มีนาคม 2566 เวลา 11:43:16 41,981 อ่าน
TOP
x close