“เอ.พี.ฮอนด้า” ผู้บุกเบิกและผู้นำแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เดินหน้าผลักดันศึกโมโตจีพีในประเทศไทยสู่ความสำเร็จ โดยประกาศจับมือการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในการสนับสนุนการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ที่จะเปิดสนามดวลความเร็วกันที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562
นับเป็นความมุ่งมั่นสำหรับ เอ.พี.ฮอนด้า ที่จะสร้างสานความสำเร็จต่อไป หลังจากเข้ามาร่วมสนับสนุนการแข่งขันโมโตจีพีตั้งแต่เมื่อปีก่อน โดยปีนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้ายกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลกให้ได้
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวบนเวทีแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ 4 กันยายน 2562 ว่า “ปี 2018 ถือเป็นปีที่สุดยอดสำหรับการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทย และ เอ.พี. ฮอนด้าก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ในปี 2019 นี้จะเป็นปีที่ 2 ที่เราให้การสนับสนุนการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเราพร้อมที่จะเดินหน้าไปกับทาง กกท. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของภาครัฐ และสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เพื่อผลักดันให้การแข่งขัน โมโตจีพี ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ และยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะเจ้าภาพกีฬาระดับโลก”
ด้าน พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า “ความสำเร็จของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ นั้นเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากองค์กรของรัฐและเอกชน ที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาการจัดอีเวนต์ระดับโลกในเมืองไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยนั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“เอ.พี.ฮอนด้า ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยหลายโครงการโดยเฉพาะการสนับสนุนและผลักดันให้นักกีฬาไทย โลดแล่นในการแข่งขันระดับโลกอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ในศึก โมโตทู ซึ่งกำลังมีผลงานที่โดดเด่น เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างมาก”
นอกเหนือไปจากการสนับสนุนการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 แล้ว เอ.พี.ฮอนด้า ยังคงเดินหน้าต่อกับการสร้างนักกีฬาไทยให้ไปถึงระดับโลก กับกลุ่มนักแข่งจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ไม่ว่าจะเป็น “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยในโมโตทู และ 3 นักบิดดาวรุ่ง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี, “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ
“หนึ่งในเป้าหมายของเราคือการได้เห็นนักกีฬาไทย สร้างความสำเร็จให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตสู่สายตาชาวโลก ตามที่ เอ.พี.ฮอนด้า ได้ก่อตั้งโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ขึ้นมา เพื่อพัฒนานักบิดไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยมีเป้าหมายผลักดันให้มีนักแข่งชาวไทยไปแข่งขันในรายการระดับโลก “โมโตจีพี” ให้ได้ภายในปี 2025” มร.ชิเกโตะ คิมูระ ระบุ
สำหรับ สมเกียรติ จันทรา ปีนี้ได้ลงแข่งขันในโมโตทูแบบเต็มฤดูกาลภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย ภายใต้การสนับสนุนของ เอ.พี. ฮอนด้า โดยล่าสุดมีคะแนนสะสม 11 คะแนน รั้งอันดับ 21 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ และตั้งเป้าที่จะสร้างผลงานในโฮมเรซต่อหน้าแฟนชาวไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หลังจากเคยทำสุดยอดผลงานมาแล้วในปี 2018 จากการคว้าอันดับที่ 9 ในรุ่นโมโตทรีแม้ลงแข่งขันในฐานะนักบิดไวด์การ์ด
ส่วนอีก 3 นักแข่งดาวรุ่งของทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ธัชกร บัวศรี, วริทธิ์ ทองนพคุณ และ ปิยวัฒน์ ประทุมยศ กำลังเก็บคะแนนสะสมได้ต่อเนื่องในศึก เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019 โดย วริทธิ์ ทำคะแนนสะสมรั้งอันดับ 5, ธัชกร อันดับ 6 ส่วน ปิยะวัฒน์ อยู่อันดับ 7 ซึ่งในการแข่งขัน โฮมเรซที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นั้น 3 นักบิดชาวไทยตั้งเป้าคว้าแชมป์มาครองต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิดให้ได้
สำหรับศึก โมโตจีพี 2019 เดินทางมาถึงช่วงท้ายของฤดูกาล ด้วยการลุ้นคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 ของ “มาร์ค มาร์เกซ” นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังผ่านการแข่งขันไปทั้งสิ้น 12 สนาม โดยมีคะแนนนำห่างคู่แข่งอันดับ 2 ถึง 78 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันทั้งสิ้น 7 สนามในปีนี้
