5 เรื่องอยากเล่า หลังได้ลองขับ รถยนต์ไฟฟ้าลอยน้ำ Fomm One

ทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าลอยน้ำ Fomm one หลังเป็นกระแสมาไม่น้อยกว่า 4 ปี วันนี้ความพร้อมของ Fomm one รถยนต์ไฟฟ้าลอยน้ำ เริ่มผลิตในไทย พร้อมจำหน่ายที่ 6.64 แสนบาท

รถยนต์ไฟฟ้าลอยน้ำ FOMM Concept One ถูกเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2557 นับกว่า 4 ปี ณ เวลาประกาศชัดเจนเลยว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะถูกผลิตเพื่อคนไทย ประกายไอเดียจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ในบ้านเรา

นายฮิเดโอะ สุรุคามิ ประธานบริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จำกัด เคยกล่าวไว้ว่า พวกเขาตระหนักถึงปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รถยนต์จำนวนมากเสียหาย (โรงงานผลิตรถยนต์ก็ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะฮอนด้าที่ต้องทำลายรถยนต์ใหม่ที่โดนน้ำท่วมในสต็อกจำนวนมาก)

ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทจะผลิต ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนซึ่งสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้อากาศช่วย จึงปิดผนึกระบบดังกล่าวให้กันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังออกแบบให้รถลอยน้ำเพื่อสามารถป้องกันความเสียหายภายในตัวรถ หมดกังวลแม้น้ำท่วมสูงแค่ไหน 

นี่คือจุดกำเนิดของ Fomm One

รถยนต์ไฟฟ้าต้องมีกำลังพิกัด (Rated Power) ของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 15 กิโลวัตต์ (ประมาณ 20 แรงม้า) และสามารถขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 90 กม./ชม. ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30 นาที หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่น้ำหนักรวม 450-600 กก. ต้องวิ่งได้ต่อเนื่อง 45 กม./ชม. ไม่ต่ำกว่า 30 นาที เช่นกัน 

เป็นการปลดล็อกให้ FOMM One ได้มีอนาคตในประเทศไทยอีกครั้ง ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

งานถูกจัดขึ้นที่ สนามโกคาร์ต มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ (แดนเนรมิตรเก่า) เป็นการเปิดตัว ให้สัมผัส และทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าลอยน้ำ  FOMM One ซึ่ง Kapook car ก็ได้รับเชิญให้ไปสัมผัสและทดลองขับสองรอบสนาม พร้อมดูการทดสอบลอยน้ำ จึงเรียบเรียงสรุปมาให้อ่านกันเป็น 5 ข้อที่อยากเล่าเกี่ยวกับ Fomm One ในครั้งนี้

ด่านแรกเป็นการทดสอบผ่านทางแคบที่ระยะกว้างเพียง 1.7 เมตร เราสามารถบังคับ กะระยะรถได้ไม่ยาก ด้วยกระจกหน้าที่ใหญ่มากให้ทัศนวิสัยดี การเร่งเครื่องเป็นแป้นใช้นิ้วเกี่ยวดึงที่บริเวณคันบังคับ พวงมาลัยมีดีไซน์คล้ายจอยเกม

ข้อติคือพวงมาลัยหนัก... หนักจริง หากให้เทียบก็ประมาณพวงมาลัยไฮดรอลิก หรือการเซตน้ำหนักพวงมาลัยแบบรถกระบะ 

ด้วยความที่ทุกอย่างไม่เหมือนรถยนต์ปรกติที่เราขับกัน เวลาเลี้ยว นิ้วมักจะหลุดจากแป้นคันเร่ง ทุกคนที่ได้ทดสอบก็ต้องลองจูนเข้าหารถกันก่อนในรอบแรก ถึงจะเริ่มชินในรอบต่อ ๆ ไป

หากไปไล่ดูสเปกจะเห็นได้ว่ามอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ที่ 0-170 รอบต่อนาที หากดึงคันเร่งเต็ม ๆ มีล้อหมุนฟรีกับพื้นถนน เร่งช่วงโค้งจะมีเสียงเอี๊ยดและพุ่ง ให้เห็นภาพชัด ๆ กระบะ 1 ตัน เครื่องดีเซลในบ้านเรามีแรงบิดกันอยู่ที่ราว ๆ 300-350 นิวตันเมตร ที่แบกน้ำหนักรถกว่า 1.2 ตัน

แต่น้ำหนักของ FOMM One เมื่อรวมแบตเตอรี่แล้วเพียง 630 กก. เท่านั้น สามารถเร่ง 0-60 กม./ชม. ชนะมอเตอร์ไซค์ 150 ซี.ซี. ได้ไม่ยาก แต่ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ก็ 80 กม./ชม. เท่านั้น

จุดนี้ทำมาเพื่อซัพพอร์ตกับแรงบิดที่สูง แค่ปล่อยนิ้วออกจากแป้นคันเร่ง ความเร็วจะลด ลดลงเร็วมาก เหมือนเหยียบเบรกในรถยนต์แบบปรกติ ในการทดสอบทุกการเข้าโค้งไม่ต้องกดเบรก เพียงแค่ปล่อยนิ้วนี่แหละ 

หนึ่งในด่านทดสอบเบรก ให้ระยะประมาณ 500 เมตร เร่งให้สุด (ได้ราว ๆ 50 กม./ชม.) ถึงจุดแล้วปล่อยคันเร่ง พร้อมกดเบรกให้สุด ระยะหยุดประมาณ 3 เมตรเท่านั้น

ตัวผู้ทดสอบสูงราว 176 ซม. ได้ทดสอบการนั่งโดยสารด้านหลังมา เข่าชนเบาะหน้าแบบดันเบาะเลย และก็อยากบอกว่า FOMM One ไม่เหมาะกับผู้ใหญ่นั่งโดยสารอย่างเด็ดขาด ให้ภาพเล่าเรื่องเลย

ในการทดสอบสิ่งที่ทุกคนสนใจมากที่สุด คือการโชว์ทดสอบลอยน้ำ ลงบ่อจำลองความลึก 1.4 เมตร สามารถลอยได้จริงและสามารถขับขณะลอยน้ำได้ด้วยอย่างช้า ๆ โดยใช้ล้อหมุนตะกุยใต้น้ำเหมือนหางเสือ เพื่อการประคับประคองผ่านทางน้ำนิ่ง หากเป็นทางน้ำไหลก็คอนเฟิร์มว่าไม่สามารถสู้แรงน้ำได้

ถึงแม้จะกันน้ำและลอยตัวได้ แต่คือการกันจากด้านล่าง ค่อย ๆ หย่อนตัวลงในน้ำ หากมีน้ำเข้าภายใน (จากด้านบนหรือหน้าต่าง) และยังคงมีโอกาสรั่วได้ไม่ต่างจากรถยนต์ทั่วไป

จากที่ได้สัมผัสมาทั้งหมดก็ต้องบอกตรง ๆ ยังแอบหนักใจกับราคาจำหน่ายที่สูงถึง 664,000 บาทไม่น้อย ถึงแม้ เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จะตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นรถทางเลือก ใช้ขับขี่ไปห้างสรรพสินค้าหรือไปต่อขนส่งมวลชน รถไฟฟ้าก็ตาม ส่วนข้อดีที่ทางผู้ผลิตกล่าวถึงมากที่สุดคือเรื่องการบำรุงรักษาที่ต่ำมาก ๆ เฉลี่ย 5 ปี เพียง 24,155 บาท เท่านั้นครับ