เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ประกาศผลการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2559 ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์เติบโตมากกว่าเท่าตัว หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่อย่าง MG GS 1.5 ลิตร เทอร์โบ และการปรับโฉมเพิ่มรุ่นย่อยของ MG3 รถซับคอมแพกต์ที่มีสีสันและความโดดเด่นในตลาด พร้อมเตรียมแผนการขยายตลาดรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีรุ่นใหม่ในปี 2560 ทั้งนี้ MG GS รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดจองเฉพาะภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ด้วยจำนวน 260 คัน จากยอดจองรวมทุกรุ่นของ เอ็มจี ที่ 1,455 คัน
MG3 ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายที่มีสัดส่วนราว 70
เปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวมทุกรุ่น โดยปัจจุบัน เอ็มจี
มียอดขายรวมทุกรุ่นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมของปี 2559 อยู่ที่ 8,319
คัน ซึ่งนับเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 120 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ซึ่งทำได้เพียง 3,779 คัน
สำหรับแผนธุรกิจในปีหน้า
เอ็มจี เตรียมปรับเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นมากขึ้น
โดยมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
โดยมีความพร้อมในการนำเสนอทางเลือกใหม่ "รถอเนกประสงค์เอ็มพีวี"
สำหรับกลุ่มลูกค้าครอบครัว
"เอ็มจี
จะดึงเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จของ เอสเอไอซี มอเตอร์
มาสู่ตลาดยานยนต์ในประเทศไทย และเรามีความมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดเพิ่มเติม
โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป
ถึงแม้ตลาดรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
แต่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
หากสืบค้นรถยนต์ในเครือของ
saic motor ทั้งหมดก็จะพบ MPV อยู่ 2 รุ่นคือ Maxus V80
รุ่นใหญ่พร้อมดัดแปลงและ Maxus G10 ซึ่งดูแล้วเหมาะกับการใช้งานทั่วไป
ทำให้ Maxus G10 มีภาษีดีกว่าพอสมควรหาก MG ประเทศไทย เลือกมาปรับปรุง
แน่นอนเมื่อนำ Maxus G10 มาแปะแบรนด์ MG พร้อมใช้กลยุทธ์การตลาดที่ให้ความคุ้มค่าราคากับออปชั่น ในที่สุดกลุ่มรถ MPV ที่ Toyota Innova ทำตลาดอยู่รุ่นเดียวก็จะมีคู่แข่งแล้ว จะเกิดการพัฒนาอะไรขึ้นบ้างในรถกลุ่มนี้ รอติดตามกันให้ดีครับ
Maxus G10
Maxus G10
Maxus G10