Toyota Camry โฉมใหม่ เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับ Toyota Camry ที่เพิ่งเปิดตัวในสิงคโปร์ Toyota Camry (โตโยต้า แคมรี่) โฉมใหม่ พร้อมเปิดตัวในไทยวันที่ 10 ตุลาคม นี้ ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 นับตั้งแต่ Toyota Camry เริ่มทำตลาดในไทยแทนที่ Toyota Corona โดยโฉมใหม่นี้จะยังใช้แพลตฟอร์มและอาศัยปรับปรุงโครงสร้างตัวถังหลักของโฉมก่อนหน้า ส่วนดีไซน์คาดว่าจะเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับที่จำหน่ายในสิงคโปร์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปล่าสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคม สเปกเป็นอย่างไรลองไปดูกัน โดยรวมแล้ว Toyota Camry โฉมใหม่ จะคล้ายกับโฉมปัจจุบันที่ยังจำหน่ายในไทย ซึ่งยังพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดิม รวมถึงโครงสร้างตัวถังเดิมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความแตกต่าง และเอกลักษณ์ใหม่ของ Toyota คือ ด้านหน้าสไตล์ Hammerhead Shark แนวเสา C ออกแบบให้ดูบางลงด้วยขอบหน้าต่างที่เพิ่มความลาดเอียงมากกว่าเดิม ขณะที่ชุดไฟท้ายใหม่เปลี่ยนเป็นทรง C-Shaped และแคบลง ช่วยเพิ่มความเป็นสปอร์ตและโมเดิร์นมากขึ้น ส่วนมิติตัวถังมีความยาว 4,920 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,455 มม. ความยาวฐานล้อ 2,825 มม. ให้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ส่วนภายในมีการออกแบบคอนโซลหน้าใหม่ ด้วยการจัดวางที่เป็นระเบียบ ตรงไปตรงมา และลดความหวือหวาลง จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้ว ถูกฝังบนแผงคอนโซลในตำแหน่งที่ต่ำลง รองรับการสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงสามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย เบาะหุ้มด้วยหนังแท้ ในสิงคโปร์จะมีเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าและระบบอุ่นเบาะมาให้ เบาะหลังมีจอควบคุมอุปกรณ์บริเวณที่เท้าแขนกลาง ระบบแอร์อัตโนมัติแยกปรับ 3 โซน (หน้า 2 หลัง 1) หลังคากระจกพาโนรามิก ระบบเสียง JBL ลำโพง 9 ตัว Toyota Camry โฉมใหม่ ตามสเปกในสิงคโปร์ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 227 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในส่วนของระบบความปลอดภัยเวอร์ชั่นสิงคโปร์ มาพร้อม Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า, ระบบรักษาความเร็วแปรผัน, ระบบช่วยให้รถวิ่งอยู่ในช่องทาง, ระบบเตือนออกนอกช่องทาง, ไฟสูงปรับอัตโนมัติ และระบบช่วยเบรกขณะจอดเมื่อเจอสิ่งกีดขวางไม่ว่าจะเป็นวัตถุ รถ หรือคนเดินถนน นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น ระบบเตือนจุดอับสายตา, กล้องแสดงภาพรอบคัน, ระบบอ่านป้ายจราจร, ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล และถุงลมนิรภัย 8 จุด เป็นต้น แน่นอนว่าคู่ปรับสำคัญคงหนีไม่พ้น Honda Accord โฉมล่าสุดที่เปิดตัวในไทยไปก่อน พร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ทั้งหมดในทุกรุ่นย่อย ซึ่งทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ที่ 25 กิโลเมตร/ลิตร กับราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท BYD Sealion 6 รถอเนกประสงค์ PHEV วิ่งไฟฟ้าได้ 95 กม. ราคาเริ่ม 939,900 บาท MG ZS Hybrid+ 196 แรงม้า เปิดตัวใน UK ลุ้นเข้าไทยปลายปี Xpeng G6 รถ Crossover SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ราคาเริ่ม 1,439,000 บาท MINI Aceman SE รถ Crossover ไฟฟ้า ราคา 1,999,000 บาท ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : toyota.com.sg
แสดงความคิดเห็น