BYD Seal 2024 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานขนาดกลางดีไซน์สปอร์ต มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย กำลัง 204-530 แรงม้า ระยะทางวิ่ง 510-650 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคาเริ่มต้น 1,325,000 บาท BYD Seal 2024 (บีวายดี ซีล 2024) ปัจจุบันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2023ที่มีตัวถังซีดาน 4 ประตู ขนาดกลาง 5 ที่นั่ง ดีไซน์สปอร์ต ภายในห้องโดยสารเป็นแบบ Smart Cockpit รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและสามารถสั่งงานได้ด้วยเสียงภาษาไทย แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย โดยมีรุ่นพื้นฐานคือ Dynamic ตามด้วยรุ่น Premium ที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด 650 กิโลเมตร และ AWD Performance กำลังแรงสุด 530 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี BYD Seal 2024 มาในสไตล์ตัวถังสปอร์ตซีดานแนวหลังคาโค้งลาดแบบรถคูเป้ มิติตัวถังมีความยาว 4,800 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง อุปกรณ์มารตรฐานมีไฟส่องสว่างรอบคันเป็นแบบ LED หลังคากระจกขนาดใหญ่แบบตายตัว ฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า มือจับประตูแบบ Popo-out ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้นล้ออัลลอยรุ่น Dynamic จะมีขนาด 18 นิ้ว และเพิ่มเป็นขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น Premium และ AWD Performance ภายในห้องโดยสาร BYD Seal 2024 จะเป็นแบบ Smart Cockpit โดยมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว สำหรับผู้ขับขี่ และมีจอมัลติฟังก์ชันกลางขนาด 15.6 นิ้ว สามารถหมุนเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอนได้ด้วยไฟฟ้า รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto (ไร้สาย) แสดงผลเป็นเมนูภาษาไทย รวมถึงสามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย ส่วนระบบแอร์เป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวา พร้อมระบบฟอกอากาศ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ระบบเสียงใช้ลำโพงของ Dynaudio จำนวน 12 ตัว และมีไฟ Ambient Light สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ขณะที่การตกแต่งรุ่น Dynamic จะได้เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ แต่รุ่น Premium และ AWD Performance จะหุ้มหนังแบบเจาะรู มีระบบระบายอากาศ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านระบบขับเคลื่อนของ BYD Seal 2024 แบ่งออกเป็น 3 ระดับพละกำลัง 2 ระบบขับเคลื่อน ดังนี้ BYD Seal รุ่น Dynamic มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 61.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่ง 510 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) BYD Seal รุ่น Premium มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่ง 650 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) BYD Seal รุ่น AWD Performance มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 530 แรงม้า และแรงบิด 670 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่ง 580 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) BYD Seal 2024 จะมีถุงลมนิรภัย 9 จุด, ระบบควบคุมการทรงตัวและลื่นไถล, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา, จุดยึดเบาะนั่งเด็กเล็ก ISOFIX, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ รวมถึงระบบช่วยขับขี่ เช่น ระบบแจ้งเตือนการชน ระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร เตือนเมื่อเปลี่ยนช่องทาง และช่วยป้องกันรถออกนอกช่องทาง, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบเตือนการจราจรขณะถอยพร้อมช่วยเบรก ตลอดจนระบบควบคุมความเร็วแปรผันที่มีฟังก์ชันหยุดและออกตัวตามรถคันหน้า เป็นต้น BYD Seal 2024 มีสีตัวถังภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ได้แก่ สีขาว Horizon White สีดำ Quantum Black สีเทา Spaqce Grey (เฉพาะรุ่น Premium และ AWD Performance) สีฟ้า Velocity Blue (เฉพาะรุ่น AWD Performance) ราคาจำหน่ายของ BYD Seal 2024 ทั้ง 3 รุ่นย่อยมี ดังนี้ BYD Seal รุ่น Dynamic ราคา 1,325,000 บาท BYD Seal รุ่น Premium ราคา 1,449,000 บาท BYD Seal รุ่น AWD Performance ราคา 1,599,000 บาท ถึง BYD Seal 2023 จะยังไม่ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยตอนนี้ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่ารุ่นที่สมน้ำสมเนื้อทั้งขนาด สไตล์ตัวถัง รวมถึงมีกำหนดเปิดตัวปีหน้าในฐานะรถใหม่ 2023 โดยมีการพรางตัวทดสอบกันแล้ว คือ ORA Grand Cat 2023 ที่พละกำลังใกล้เคียงกันในระดับ 200 แรงม้าขึ้นไป และระยะทางวิ่งเกิน 500 กิโลเมตร แถมราคาเริ่มต้นในจีนก็ยังไล่เลี่ยกันมากด้วย ขอบคุณข้อมูลจาก : reverautomotive.com
แสดงความคิดเห็น