เปิดตัว BMW 3 Series 2023 ใหม่ปรับโฉม และยังคงเป็นรถพรีเมียมขนาดคอมแพกต์ของ BMW ที่รอดพ้นจากเทรนด์กระจังหน้าโอเวอร์ไซซ์กับไฟหน้าแยกส่วน ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท ในเยอรมนี คาดไทยจะอัปเดตตามปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า BMW 3 Series 2023 (G20) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ปรับดีไซน์ภายนอก-ภายในใหม่ ทั้งตัวถัง 4 ประตู ซีดาน และ 5 ประตู ทัวริ่ง (สเตชันแวกอน) สวนทางกับรุ่นใหญ่อย่าง All-new BMW 7 Series 2023 ซึ่งรถชุด 3 Series นี้จะยังไม่ใช้เอกลักษณ์กระจังหน้า Kidney Grille ขนาดโอเวอร์ไซซ์ กับคลัสเตอร์ไฟหน้าแยกส่วนตามกระแสนิยม และลดทอนรายละเอียดลงจนกลายเป็นรถยนต์พรีเมียมขนาดคอมแพกต์ที่มินิมอลขึ้นเล็กน้อย อาจเพราะ BMW 3 Series 2023 ยังคงเป็นรุ่นสำคัญสำหรับตลาดแมสที่มีฐานลูกค้าทั่วโลก และไม่ใช่จังหวะเปลี่ยนโฉม ทำให้การปรับดีไซน์ของรถพรีเมียมคอมแพกต์รุ่นนี้ เป็นไปอย่างระมัดระวังสูงสุดในแบบที่เรียกว่าบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น โดยมีแค่ชุดโคมไฟหน้าใหม่ทรงแคบลง ไร้รอยหยักคล้าย BMW M3 ชุดกันชนหน้า-หลังใหม่ รวมถึงมีแพ็กเกจตกแต่งให้เลือกเพิ่มอย่าง M Sport Pro เป็นครั้งแรก และรอดพ้นจากการใช้กระจังหน้าทรงตั้งขนาดมหึมา รวมถึงชุดไฟหน้าแยกส่วน ทำให้โดยรวมเปลี่ยนแปลงจากเดิมไม่มากนัก สำหรับภายในห้องโดยสารของ BMW 3 Series 2023 มีการเปลี่ยนแปลงหลักคือชุดแผงหน้าปัดใหม่ที่ติดตั้งจอมอนิเตอร์โค้ง (BMW Curved Display) ขนาดใหญ่แบบลอยตัว โดยแบ่งเป็นจอสื่อสารข้อมูลสถานะตัวรถกับผู้ขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 14.9 นิ้ว ความละเอียดสูงรวมอยู่ในกรอบเดียวกันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงการลดจำนวนปุ่มแป้นควบคุมต่าง ๆ ลง ตลอดจนคันเกียร์ไฟฟ้าบนคอนโซลกลางแบบดั้งเดิมถูกปรับให้เหลือแค่ปุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ทางด้านขุมพลัง BMW 3 Series 2023 จะมีให้เลือกต่างกันขึ้นอยู่กับภูมิภาค โดยจะมีทั้งขุมพลังเบนซินและดีเซลที่ใช้เทคโนโลยี TwinPower Turbo รวมถึงการนำเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ามาเสริมกำลังและอัตราสิ้นเปลืองอย่าง Mild Hybrid (ในเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ กับเครื่องยนต์ดีเซล) รวมถึง Plug-in Hybrid ซึ่ง BMW 3 Series 2023 จะมีพละกำลังเริ่มต้นตั้งแต่ 150 แรงม้า ไปจนถึง 374 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ ใน BMW 3 Series 2023 นอกจากจะมีการอัปเดตระบบปฏิบัติการสำหรับ BMW iDrive เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด OS8 แล้ว ยังรองรับ eSIM ที่รองรับระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 5G เพื่อสามารถเช็กสถานะการชาร์จไฟของตัวรถจากระยะไกลด้วยสมาร์ตโฟนได้ (ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด) รวมถึงรองรับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ผ่าน OTA ได้ ส่วนระบบความปลอดภัยมีการปรับให้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ BMW 3 Series 2023 ในทุกรุ่น ประกอบด้วย ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าพร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน, ระบบควบคุมความเร็วที่ช่วยเบรกได้, ระบบแจ้งเตือนพื้นที่ควบคุมความเร็วและห้ามแซง, ระบบเตือนออกนอกช่องทางจราจรและช่วยดึงกลับอัตโนมัติ ขณะที่ระบบเตือนการเปลี่ยนช่องทางจราจร, ระบบแสดงข้อมูลขับขี่บนกระจกบังลมหน้า HUD, ระบบรักษาช่องทางจราจร, ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน ซึ่งสามารถเร่งและหยุดรถตามรถคันหน้า ลดควาามเร็วตามป้ายสัญญาณจราจร และระบบตรวจสอบการจราจรหน้าแน่น จะอยู่ในรายการออปชั่น BMW 3 Series 2023 เริ่มเปิดให้สั่งจองเป็นที่เรียบร้อยแล้วบางตลาด เช่น ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งแต่ละภูมิภาคจะมีเครื่องยนต์รวมถึงระดับการตกแต่งให้เลือกแตกต่างกันออกไป โดยในเยอรมนี BMW 3 Seres 2023 ราคาจะมี ดังนี้ เครื่องยนต์เบนซิน BMW 318i ราคาเริ่มต้น 43,900 ยูโร (1.6 ล้านบาท) BMW 320i ราคาเริ่มต้น 49,000 ยูโร (1.79 ล้านบาท) BMW 320i xDrive ราคาเริ่มต้น 51,500 ยูโร (1.88 ล้านบาท) BMW 330i ราคาเริ่มต้น 53,600 ยูโร (1.96 ล้านบาท) BMW 330i xDrive ราคาเริ่มต้น 56,100 ยูโร (2.05 ล้านบาท) BMW M340i xDrive ราคาเริ่มต้น 71,300 ยูโร (2.6 ล้านบาท) เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด BMW 320e ราคาเริ่มต้น 52,300 ยูโร (1.91 ล้านบาท) BMW 330e ราคาเริ่มต้น 58,300 ยูโร (2.13 ล้านบาท) BMW 330e xDrive ราคาเริ่มต้น 60,800 ยูโร (2.22 ล้านบาท) เครื่องยนต์ดีเซล BMW 318d ราคาเริ่มต้น 48,400 ยูโร (1.77 ล้านบาท) BMW 320d ราคาเริ่มต้น 52,200 ยูโร (1.9 ล้านบาท) BMW 320d xDrive ราคาเริ่มต้น 54,700 ยูโร (2 ล้านบาท) BMW 330d ราคาเริ่มต้น 58,300 ยูโร (2.23 ล้านบาท) BMW 330d xDrive ราคาเริ่มต้น 60,800 ยูโร (2.2 ล้านบาท) BMW M340d xDrive ราคาเริ่มต้น 71,300 ยูโร (2.6 ล้านบาท) ทันทีที่ New BMW 3 Series 2023 เปิดตัวในไทย ซึ่งอาจจะเป็นปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า คงต้องเจอกับ All-new Mercedes-Benz C-Class 2022 รถยนต์ซีดานขนาดคอมแพกต์ในกลุ่มพรีเมียมแบรนด์ ที่เปิดตัวไปแล้วในงาน Motor Show 2022 โดยเบื้องต้นยังมีเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 2 ระดับการตกแต่ง ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท รวมถึง Audi จะมี Audi A4 มีแค่เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 2.599 ล้านบาท เพียงรุ่นเดียว และ Volvo S60 พรีเมียมซีดานขนาดคอมแพกต์จากสวีเดน ที่เน้นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : bmwgroup.com
แสดงความคิดเห็น