เปิดตัวครั้งแรกในไทยแล้ว All-new Toyota Corolla Altis 2019 ราคาขายเริ่มต้น 829,000 บาท ด้วยรูปโฉมที่สปอร์ตกว่าเดิมบนแพลตฟอร์มใหม่ TNGA ของ Toyota กับสองทางเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและแบบไฮบริด พร้อมกับออปชั่นจัดเต็มโดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว The All-New Corolla Altis หนึ่งในรถยนต์ซับคอมแพกต์ที่มีผู้ติดตามรอชมมากที่สุด เมื่อวันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 ที่ จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮ้าส์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยนี่คือ Model Flagship ของค่าย โตโยต้า ในปีนี้ สำหรับ All-new โตโยต้า อัลติส 2019 เปิดตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ “Make A New High - ข้ามสู่ขีดสุดที่เหนือกว่า” เปลี่ยนแปลงจากโฉมก่อนหน้านี้ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแข็งแรงและทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ โตโยต้า ระบุว่าการออกแบบคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก ทำให้ภายในห้องโดยสารกว้าง พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2509 All-new Toyota Corolla Altis 2019 คือรถยนต์ โคโรลล่า รุ่นที่ 12 ที่ยอดเยี่ยมพอสำหรับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในกลุ่มนี้ได้เลยทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับ All-new Toyota Corolla Altis 2019 ก็คือการมาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอัตราการเร่งที่ดีขึ้น และสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุด รวมถึงแพลตฟอร์มหรือสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Platform) ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ และนอกจากนี้ All-new Toyota Corolla Altis 2019 ยังติดตั้ง Toyota Safety Sense เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยแบบเดียวกับที่มีใน Toyota Camry และ Toyota C-HR อีกด้วย “ในโคโรลล่า อัลติส รุ่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 23 กิโลเมตรต่อลิตร” มร.ซึงาตะ ระบุ ขณะที่แนวคิดหลักในการพัฒนา All-new Toyota Corolla Altis 2019 ถูกวางแผนให้มี 5 จุดขายหลัก ได้แก่ 1. ด้านการออกแบบ - ภายนอกออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ให้ความหนักแน่น ส่วนการออกแบบภายในมีแนวคิด “Clean & Wide” ตัวรถกว้าง พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ 2. ด้านประสิทธิภาพของการขับขี่ - แพลตฟอร์มใหม่ TNGA ที่ช่วยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวมลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone เพิ่มความนุ่มนวลในขณะโดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงและการสั่นสะเทือนในตำแหน่งต่าง ๆ 3. ระบบ ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 - ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ระบบ Full hybrid system ถูกนำมาไว้ในรถยนต์ในตลาด C-Segment ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ 4. ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า 4.1. ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) ซึ่งประกอบด้วย ● ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) ● ระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ● ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ● ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) 4.2. ระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) เสริมโครงสร้างด้านหน้า เพื่อช่วยถ่ายเทแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ โครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวนช่วยลดการยุบตัวจากการชน รวมทั้งมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง 4.3. Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่เพิ่มระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range ซึ่งสามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้าและระบบ Lane Tracing Assist ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้ในขณะเข้าโค้ง 5. ระบบการเชื่อมต่อ - สะดวกสบายไปกับ Apple CarPlay และ T-Connect Telematics เพื่อช่วยให้ไม่พลาดในทุกการเชื่อมต่อ ทุกที่ และทุกเวลา สำหรับ All-new Toyota Corolla Altis 2019 มีจำหน่าย 6 รุ่นย่อย และมีให้เลือก 7 สีคือ White Pearl* Phantom Brown Super White II Attitude Black Mica Silver Metallic Red Mica Metallic รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด Hybrid High เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท*** Hybrid Mid เกียร์อัตโนมัติ ราคา 989,000 บาท*** Hybrid Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท*** (*สำหรับสีพิเศษ White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid และเครื่องยนต์ 1.8 GR-Sport เพิ่ม 10,000 บาท) รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 GR-Sport** เกียร์อัตโนมัติ ราคา 999,000 บาท*** 1.6G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 869,000 บาท*** Limo เกียร์อัตโนมัติ ราคา 829,000 บาท*** (**มี 3 สี White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica) ***ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดสำหรับเครื่องยนต์เบนซินสำหรับรุ่นไฮบริด • เครื่องยนต์ 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และเกียร์ E-CVT ขีดสุดแห่งพลังขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น สำหรับรุ่น GR SPORT • เครื่องยนต์ 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift ขีดสุดแห่งความแรง ด้วยอัตราเร่งเต็มพลังตอบสนองได้ดั่งใจ เพื่อการขับขี่ที่เต็มประสิทธิภาพ สำหรับรุ่น 1.6G • เครื่องยนต์ 1ZR-FBE ขนาด 1.6 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift ให้คุณมั่นใจกับการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ อุปกรณ์ภายนอก ไฟหน้า LED Projector เปิด-ปิด อัตโนมัติ ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ไฟท้าย LED Rear Lamps ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) สามารถปลดล็อกประตูได้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์ภายใน Head Up Display หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Push Start ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ Optitron Meter with Multi Information Display 7” มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 7 นิ้ว Touchscreen 8” support Apple CarPlay with Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigator รองรับ T-CONNECT Automatic Air Conditioning System ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Nanoe ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบเพื่อขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค Auto Folding Mirror กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ Wireless Charger แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย EC Mirror กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ Auto Brake Hold ระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ และ Electric Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้า Rear Air Conditioning ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง Rear Sunshade ม่านบังแดดที่กระจกหลัง สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (TNGA) BODY RIGIDITY เพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง พร้อมเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot welding) ช่วงรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน LOWER CENTER OF GRAVITY ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัวและการเข้าโค้งดีขึ้น DOUBLE WISHBONE SUSPENSION ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม GOOD HANDLING พวงมาลัยมีการปรับจูนใหม่ ตอบสนองแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้การควบคุมรถง่าย เป็นไปอย่างมั่นใจ EXCELLENT VISIBILITY ออกแบบตัวรถให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ลดจุดอับสายตา ระบบความปลอดภัย Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่งทุกรุ่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย สำหรับ All-New Corolla Altis จะเปิดตัวพร้อมกันอีกครั้งที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 62 เป็นต้นไป ข้อมูลจาก toyota.co.th
แสดงความคิดเห็น