พอพูดถึงการออกเที่ยวก็มักจะเน้นกันที่การเตรียมรถเป็นส่วนใหญ่ แต่คราวนี้อยากจะให้นึกถึงเวลากลับจากเที่ยวมั่ง เพราะรถคงจะสกปรกเลอะเทอะจากการเดินทาง โดยเฉพาะพวกที่เอารถไปเที่ยวแถวชายทะเลจะมีคราบของไอเกลือจับ ซึ่งจับตัวอยู่ตามซอกมุมและผิวสี หากปล่อยทิ้งไว้นานนัก มันสามารถทำให้รถเกิดสนิม หรืออย่างน้อยก็ทำลายผิวสีให้หมองมัวเสียหายได้ เช่นเดียวกับคราบสกปรกก็ไม่ควรปล่อยให้มันเกาะอยู่บนผิวสีนานนัก เราควรรีบทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกับการทำรถให้สะอาดกันดีกว่า
สมัยนี้ชักจะหาคนล้างรถเองลำบาก คงเป็นด้วยสถานที่ไม่อำนวยสำหรับผู้อาศัยตามคอนโดหรือมัวแต่วุ่นกับการทำงานและสภาพการจราจร พอกลับมาถึงบ้าน ก็เพลียจนหมดเรี่ยวหมดแรงมาล้างรถครั้นถึงวันหยุดก็อยากพักผ่อนนอนเฉย ๆ หรือออกไปเที่ยวพักสมองมากกว่า เช่นเดียวกันกับเวลาที่กลับจากการท่องเที่ยวเดินทาง อยากพักผ่อนแทนที่จะมาวุ่นวายกับการล้างทำความสะอาดรถ ด้วยเหตุนี้พวกสถานล้างรถต่าง ๆ ปัจจุบันจึงมีลูกค้าค่อนข้างคับคั่ง ซึ่งนอกจากจะใช้แรงงานคนในการล้างแล้ว ยังมีการใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติอีกด้วย แม้ความสะอาดเกลี้ยงเกลาจะสู้คนล้างไม่ได้ แถมค่าล้างรถยังค่อนข้างแพงกว่า แต่ก็สะดวกและรวดเร็วกว่า
ในกรณีที่ต้องการใช้บริการของเครื่องล้างรถแบบอัตโนมัติ ถ้าเป็นไปได้อยากแนะนำให้คบกับเครื่องล้างที่ใช้แรงดันน้ำฉีดมากกว่า เพราะพวกที่ใช้แปรงขัดอาจทำให้สีรถเป็นรอย หากขนแปรงชำรุดเสื่อมสภาพหรือมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ที่ขนแปรง โดยเฉพาะพวกรถสีเข้ม อย่างสีน้ำเงิน สีดำ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเวลาสีเป็นรอยแล้ว จะเห็นได้ง่ายกว่าสีอื่น
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดรอยด่างของสี จึงไม่สมควรล้างรถในขณะที่ฝากระโปรงห้องเครื่องยังร้อนอยู่ หรือในทันทีหลังจากจอดรถ ตากแดดเอาไว้เป็นเวลานาน และหากรถสกปรกจากการขับเดินทางเวลากลางคืน มีพวกซากแมลงติดอยู่ตามกระจกหน้า ฝากระโปรง หน้ากระจังและกันชน ควรจัดการล้างเจ้าซากแมลงเหล่านี้ออกก่อน โดยใช้น้ำฉีดให้เปียกเกิดการอ่อนตัวหรือคราบเมือกต่าง ๆ เริ่มละลาย ต่อจากนั้นใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด
ถ้ามีความประสงค์ในการใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติ ก่อนอื่นควรตรวจสอบดังต่อไปนี้
เครื่องล้างรถนั้นมีความสามารถใช้ได้กับขนาดของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความกว้าง ความยาว หรือความสูงของตัวรถก็ตาม ควรตรวจเช็กและระมัดระวังส่วนประกอบของรถจะเกิดการเสียหาย อย่างพวกเสาอากาศ หรือสปอยเลอร์ต่าง ๆ เป็นต้น อาจโผล่ยื่นออกมาแล้วโดนแปรงปัดทำให้เกิดการชำรุดแตกหักได้ อย่างไรก็ตามหากยังไม่แน่ใจให้สอบถามพูดคุยกับพนักงานคุมเครื่องล้างรถก่อนดีกว่า พวกกลไกที่ใช้ในการเคลื่อนรถผ่านเครื่องล้างอัตโนมัติ ต้องไม่ทำความเสียหายให้กับยางและล้อ ยิ่งพวกรถที่ไม่อยู่ในพิกัดมาตรฐาน อย่างรถโหลดเตี้ยใส่ยางใหญ่อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ ควรดูให้แน่ใจเพราะเครื่องอาจทำให้ชอบยางเป็นแผล ซึ่งมีสิทธิ์เกิดการระเบิดได้ภายหลัง หรือขอบกระทะล้อแม็กสวย ๆ แพง ๆ อาจเป็นริ้วรอยเสียโฉม เครื่องล้างรถอัตโนมัติแบบที่ใช้แปรง ควรจะเป็นพวกที่มีแรงกดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และใช้น้ำฉีดในปริมาณที่มากพอ การล้างด้วยเครื่องล้างรถอัตโนมัติ มันจะทำความสะอาดได้เฉพาะผิวภายนอกของรถเท่านั้น หลังจากล้างรถแล้วเราจึงต้องทำความสะอาดด้วยมือซ้ำอีกที ในจุดที่เครื่องล้างรถอัตโนมัติเข้าไม่ถึง อย่างตามขอบบันไดประตู บานพับเสากลาง และแนวของขอบฝากระโปรงเพื่อให้สะอาดและแห้ง ส่วนใหญ่ตามสถานบริการล้างรถ มักนิยมใช้เครื่องฉีดน้ำหรือเครื่องล้างรถที่มีแรงดันสูง เพราะสามารถทำความสะอาดได้ดีและเร็ว แต่การล้างทำความสะอาดรถด้วยน้ำแรงดันสูงเหล่านี้ ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่าเครื่องอยู่ห่างจากผิวหน้าตัวถังเพียงพอ ทั้งนี้เนื่องจากการล้างรถด้วยการฉีดน้ำที่มีแรงดันสูงในระยะใกล้เกินไป อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการชำรุดเสียหาย ตัวถังอาจบุบยุบเป็นรอย "ลักยิ้ม" หรือมักเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหน้าของสีตัวถังรถเกิดการสึกกร่อนทีละน้อย เกิดอาการสีด้านไม่เงางามเท่าที่ควร นอกจากนี้แล้วน้ำแรงดันสูงอาจแทรกซึม เข้าไปในชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถ และทำให้รถเกิดความผิดปกติได้ในระยะยาวรถที่มีเซ็นเซอร์วัดปริมาน้ำฝน
เหล่าบรรดารถรุ่นใหม่หรือพวกรถที่มีราคาแพง มักจะมีเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝนติดมาด้วย ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดการทำงานของที่ปัดน้ำฝนโดยอัตโนมัติ ทั้งการเปิด การปิด และการหน่วงเวลาในการปัดให้ช้าหรือเร็วตามการตกของฝนว่าเบาหรือหนักประการใด โดยคนขับไม่ต้องไปวุ่นวายให้เสียสมาธิในการขับรถ
พวกรถที่มีระบบเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝนใช้ ควรจะขยันทำความสะอาดกระจกหน้ารถบ่อยหน่อย เพราะสิ่งสกปรก ซากแมลงที่เกาะอยู่ หรือแม้แต่คราบแชมพูล้างรถ ตลอดจนพวกแว็กซ์ต่าง ๆ อาจเป็นตัวการทำให้เซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝนทำงานผิดพลาดได้
ในการล้างรถควรปิดสวิทช์เซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝนก่อน โดยเฉพาะการล้างรถด้วยเครื่องอัตโนมัติ มิฉะนั้นที่ปัดน้ำฝนอาจทำงานเองโดยไม่ได้สั่ง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
การทำความสะอาดไฟหน้ารถ
รถรุ่นใหม่เกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรถราคาถูก หรือมีราคาแพงพอ ๆ กับคฤหาสน์พร้อมที่ดินก็ตาม มักนิยมใช้ครอบไฟหน้าเป็นพลาสติกแทนกระจกทั้งนี้สืบเนื่องมาจากพวกครอบไฟหน้าพลาสติคจะมีน้ำหนักเบากว่ากระจก และสามารถทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย พลาสติคพวกนี้มีความยืดหยุ่นสูงจึงไม่แตกง่าย และมีความทนทานต่อการขีดข่วนได้เยอะพอสมควร อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ทนทานมากเท่าไหร่นัก การล้างทำความสะอาดจึงควรใส่ใจกันบ้าง
ห้ามขัดถูทำความสะอาดกระจกไฟหน้าเวลาแห้ง หรือใช้น้ำยา และสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการกัดกร่อน กรณีที่มีสิ่งสกปรก ซากแมลง หรือร่องรอยอื่น ๆ ติดอยู่ที่ฝาครอบไฟหน้า ให้ใช้แชมพูล้างรถขจัดสิ่งเหล่านี้ออก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ถ้าเป็นไปได้หลังจากล้างทำความสะอาดรถแล้ว น่าจะนำรถไปขับใช้งานซักพักก่อน ไม่ควรจอดรถเก็บเอาไว้ เพื่อให้น้ำตามซอกมุมตัวถังระเหยไป ไม่ตกค้างเป็นความชื้นอันทำให้เกิดการถามหาของสนิม นอกจากนี้การขับรถหลังล้าง จะเป็นการไล่ความชื้นออกจากระบบเบรก ผ้าเบรกไม่อมความชื้นเอาไว้ และจานเบรกจะได้ไม่เป็นสนิม
การดูแลรักษาสีรถ
พวกคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถในระยะยาวจะสร้างความเสียหายให้กับผิวสี เราสามารถแก้ไขได้โดยการล้างรถอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่ใช้งานหรือขับท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณที่มีมลพิษในบรรยากาศสูง เช่นแถบโรงงานอุตสาหกรรม บริเวณชายทะเล หรือเกิดการเปรอะเปื้อนจากสารธรรมชาติ พวกยางไม้ ละอองเกสร และแม้กระทั่งขี้นก ด้วยเหตุนี้เราจึงควรชำระล้างสารที่ตกค้างออกโดยเร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวสีรถเกิดความเสียหาย เป็นรอยด่าง ซีดจาง สีด้าน หรือหลุดลอกออกมา
พวกสิ่งสกปรกบนพื้นผิวสีนั้นบางอย่างจะสังเกตได้ไม่ยาก จึงควรล้างเศษสิ่งสกปรกนั้นออกโดยเร็ว อาจใช้พวกน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาขจัดคราบน้ำมัน หรือแม้แต่พวกสเปรย์กันความชื้น ก็สามารถทำความสะอาดพวกเศษยางมะตอย คราบน้ำมัน จาระบี หรือกาวจากสติ๊กเกอร์ได้ดี ต่อจากนั้นก็ล้างทำความสะอาดรถ และถ้ามีผลิตภัณฑ์ประเภทถนอมและบำรุงรักษาสี ก็ควรใช้กับบริเวณนั้นด้วย
การรักษาผิวสี
สำหรับการขัดเงาผิวสีควรจะเลือกใช้พวกผลิตภัณฑ์ Carnauba ซึ่งมักจะมีชื่อพิมพ์ไว้ที่ภาชนะบรรจุ หรือพวกแว็กซ์สังเคราะห์เท่านั้น เพราะไม่มีสารกัดผิวสีให้เสียหาย สัญญาณที่บอกให้เราทราบได้ว่าผิวสีของรถได้รับการป้องกันอย่างดีแล้วนั้น ให้สังเกตว่าน้ำจะไม่จับตัวเป็นหยดขนาดใหญ่ และน้ำจะไหลผ่านผิวสีในทันที
หลังจากการขับรถเดินทางท่องเที่ยวหรือการใช้งานประจำวันก็ดีผิวสีอาจได้รับความเสียหายจากเศษหินกระเด็นมากระทบ ถ้าเป็นรถที่มีสีกระป๋องเล็ก ๆ ติดมาให้ ก็ใช้สีนั้นแต้มลงบนส่วนที่กะเทาะเป็นรอย หรือหากเป็นรถที่ไม่มีสีติดมาด้วยให้ใช้พวกแล็กเกอร์หรือยาทาเล็บสีใสแต้มก็ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นสนิมขึ้นในจุดนั้น
หากพบว่าบริเวณใดของตัวรถเริ่มเป็นสนิมหรือมีรอยปูดของสีเกิดขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้หรือรอให้เป็นมากแล้วทำทีเดียว เพราะจุดที่เราเห็นว่าเล็กน้อยนั้น เมื่อขูดสีออกพื้นตัวถังอาจจะเป็นรอยมากแล้วก็ได้ หากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นรอยใหญ่ อาจหายความว่าพื้นผิวตัวถังถูกกัดกินเป็นบริเวณกว้าง การซ่อมแซมต้องใช้วิธีตัดเหล็กส่วนนั้นออกแล้วดีขึ้นใหม่ นอกจากจะเสียค่าซ่อมพงขึ้นแล้วเรายังเสียตัวถังของเดิมไป และไม่แน่ว่าส่วนที่ดีขึ้นใหม่จะเข้ารูปหรือเปล่า และเท่าที่เจอส่วนใหญ่ช่างเค้ามักจะใช้วิธีประเหล็กทับลงไปเลยแล้วค่อยใช้ไฟเป่าและใช้ค้อนแต่งให้เข้ารูป แบบนี้แน่นอนว่าอีกไม่นานสนิมก็ย่อมลุกลามเกิดขึ้นอีกจากสนิมของตัวถังเก่า
การดูแลและรักษาส่วนอื่น
กระทะล้อพวกกระทะล้อแม็กที่เห็นกันนั้น ก็มีการพ่นสีและเคลือบแล็กเกอร์ เช่นเดียวกับสีรถเหมือนกัน หากต้องการให้กระทะล้อดูใหม่และสดใสอยู่เสมอก็ควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดด้วย โดยใช้แชมพูล้างรถในการทำความสะอาด ไม่ควรใช้ผงซักฟอกในการล้างอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะไปกัดสีและแล็กเกอร์ที่เคลือบไว้ให้เกิดการเสียหายได้ สิ่งสกปรกจะเกาะได้ง่ายขึ้นและล้างทำความสะอาดได้ลำบากกว่าเดิม นอกจากนี้การัดถูก็ไม่ควรใช้แปรงแข็งน่าจะใช้พวกฟองน้ำชิ้นบาง ๆ มากกว่าและหลังจากล้างทำความสะอาดแล้วควรใช้ผ้าเช็ดให้แห้งด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้มันแห้งเอง เพราะเวลาวิ่งจะมีฝุ่นจากพื้นปลิวมาเกาะกับคราบน้ำ ต่อจากนั้นก็ถูกเหวี่ยงไปรวมตัวตามซอกมุม เมื่อแห้งแล้วจะเป็นรอยสกปรก นอกจากนี้ยังทำความสะอาดยากอีกต่างหาก
ชิ้นส่วนโครเมียมในส่วนของตัวรถจะมีชิ้นส่วนที่เป็นโครเมียมอยู่หลายจุด เช่นหน้ากระจัง มือจับเปิดประตู คิ้วขอบกระจก คิ้วตัวถัง หรือกันชน ซึ่งสมัยนี้มักนิยมใช้คิ้วพลาสติคชุบโครเมียมมากกว่า เป็นโลหะชุบโครเมียม ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการทำความสะอาดเพราะความคงทนมีน้อยกว่า ในการทำความสะอาดส่วนที่เป็นโครเมียมไม่ควรใช้แชมพูล้างรถที่เข้มข้นจนเกินไปนัก ควรจะผสมน้ำมาก ๆ ให้มันเจือจาง
กระจกรถการทำความสะอาดกระจกรถนั้น ให้ล้างเหมือนกับการล้างสีรถทั่วไป แต่หลังจากนั้นแล้วอาจใช้พวกน้ำยาเช็ดกระจกทำความสะอาดซ้ำอีกครั้งก็ได้ แต่ห้ามใช้สารทำความสะอาดหรือครีมขัดเงาที่มีผงแป้งบนกระจก ส่วนบางท่านอาจนิยมเคลือบสารป้องกันฝ้าหรือน้ำฝนบนกระจก ก็ต้องดูผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และดูคู่มือในการใช้ให้ดี นอกจากนี้ควรระวังการใช้น้ำยาอาจจะมีผลกับยางขอบกระจกหรือยางใบปัดน้ำฝนด้วย
งานนี้ยังไม่จบเพราะเพียงแค่จัดการภายนอกรถเท่านั้น ยังไม่ได้ดูแลและทำความสะอาดภายในเลย เอาไว้คราวหน้าค่อยมาว่ากัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือยานยนต์
ปีที่ 46 เล่มที่ 577 มิถุนายน 2557
