ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังคงเป็นเรื่องราวที่วงการรถยนต์ทั่วโลกให้ความสนใจ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เข้มแข็งก็ได้เล็งเห็นว่า หากลำพังแต่ละค่ายต่างแยกกันพัฒนานวัตกรรมของตนเอง อาจไม่สามารถไปถึงเป้าหมายนั้นได้จริง ๆ พวกเขาจึงรวมตัวกันเพื่อพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เว็บไซต์ข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย ของสิงคโปร์รายงานว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 8 ค่าย ประกอบด้วย โตโยต้า (Toyota) ฮอนด้า (Honda) นิสสัน (Nissan) ซูซูกิ (Suzuki) มาสด้า (Mazda) มิตซูบิชิ (Mitsubishi) ไดฮัทสุ (Daihatsu) และฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี (Fuji Heavy Industry) ผู้ผลิต ซูบารุ (Subaru) ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยวาเซดะ ผุดโครงการใหญ่เพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
เครื่องยนต์ดังกล่าวจะเปิดตัวภายในปี 2020 โดยตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดค่าไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลลงให้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากระดับมาตรฐานในปี 2010 โดยค่ายรถยนต์ทั้ง 8 จะนำเทคโนโลยีที่คิดค้นได้นี้ไปประยุกต์ใช้ในรถยนต์ของตนเองและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้พวกเขาตามทันค่ายรถยนต์ยุโรปที่เร่งพัฒนาในด้านนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเข้มข้นของปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลกในปัจจุบัน
ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเคยครองความเป็นหนึ่งเรื่องการผลิตรถยนต์ปล่อยไอเสียต่ำและประหยัดพลังงาน แต่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมันทั้งบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และโฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ก็มีแนวโน้มจะแซงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม สะอาด และประหยัดพลังงานไม่แพ้เครื่องยนต์เบนซิน ทางญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับเทคโนโลยีดีเซลเพื่อไล่ตามยักษ์จากเมืองเบียร์ให้ทันด้วย
