ขอขอบคุณภาพประกอบจาก theepochtimes
บนท้องถนนรถช่างเยอะแยะมากมายต่างคนก็ต่างนิสัย บ้างรีบตลอดเวลาขับเร็วเกินกฎหมายกำหนดเสมอ บ้างก็ไม่มีมรรยาทช่วงคอสะพานก็มาเบียดแย่งเลนส์ บ้างก็ไม่เคยสนใจป้ายจราจรที่ให้ชะลอเพราะข้างหน้ามีแยก บ้างก็เปลี่ยนเลนปุบปับแม้แต่ไฟเลี้ยงยังไม่เปิด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร
แล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร ควรเตรียมตัวหรือรับมือแบบไหน วันนี้กระปุกคาร์จึงขอนำความรู้มาบอกต่อ
เรียกสติกลับมาให้เร็วที่สุด
เมื่อเกิดเหตุเป็นปรกติที่ทุกคนจะตกใจจนควบคุมสติไม่อยู่ ต้องพยายามตั้งสติเริ่มตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวท่านเองและผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วย
เรื่องนี้ต้องต้องระวังให้มากที่สุด หากกรณีที่รถจอดนิ่งอยู่กลางถนนก็อย่ารีบเปิดประตูออกรถออกมาเพราะอาจถูกเฉี่ยวชนซ้ำได้ และหากเป็นช่วงเวลากลางคืนควรหาสิ่งของที่สะท้อนแสงมาทำสัญลักษณ์เพื่อรถที่ผ่านมาสังเหตุเห็นได้ง่ายและไม่มีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
โทรแจ้งตำรวจ
โทรเลยที่ 191 แจ้งรายละเอียด สถานที่ เวลาให้ครบถ้วนเพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานและมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
หากมีคนเจ็บแล้วไม่ช่วยเหลือ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าคนที่ถูกชนบาดเจ็บสาหัสหรือตายต้องจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
หาผู้ที่เห็นเหตุการณ์แถวนั้นเป็นพยานควรติดต่อขอเบอร์และถ่ายรูปพยานไว้ด้วย และถ่ายรูปที่เกิดเหตุไว้ให้มากที่สุดทั้งรถเราและคู่กรณี
เตรียมเอกสารให้พร้อมอย่าง สำเนารายการจดทะเบียนรถ, สำเนากรมธรรม์ประกันภัย, สำเนาบัตรประชาชน และใบอนุญาตขับรถพร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดโดยประกัน นำหลักฐานที่เราเก็บได้ทั้งหมดให้ประกันเพื่อเจรจากับคู่กรณีให้ หากไม่มีประกันเราต้องเจรจาเอง
จากข้อแนะนำเหล่านี้ท่านก็สามารถผ่านปัญหาที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก อีกหนึ่งที่ควรจำขึ้นใจไม่ว่าผิดหรือถูกก็ควรรอตำรวจมาเพื่อตรวจสอบก่อน
หากท่านออกมาจากที่เกิดเหตุก่อนอาจผิดกฎหมายจราจรทางบก มาตรา 78 (ที่มีข้อความท่อนหนึ่งระบุไว้ว่า "ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หลบหนีไป หรือไม่แสดงตัว ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่เกิดเหตุ ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำผิด") ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รู้แบบนี้แล้วอย่าหนีเลยดีกว่าครับ