เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dmarge.com
ถ้าพูดถึงบริษัทรถยนต์ตรากังหันสีฟ้าอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงหนึ่งในสุดยอดผู้ผลิตยานยนต์สมรรถนะดีเยี่ยม ดีไซน์เร้าใจ ซึ่งถือเป็นรถในฝันของใครหลายคนเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าค่ายรถจากประเทศเยอรมนีเริ่มผลิตรถยนต์มาเกือบร้อยปีแล้ว และได้สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่เป็นต้นแบบของรถยนต์ทั่วโลกออกมาเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ดังนั้นกระปุกดอทคอมเลยขออาสาพาคุณ ย้อนไปดูบรรดายอดรถที่คัดมาแล้วว่าคลาสสิกที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยูจากเว็บไซต์ dmarge.com มาให้ได้ชมกันแล้วครับ
BMW 3/15 รุ่นปี 1928
นี่คือรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์ สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1927 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 797 ซีซี กำลัง 15 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 3 สปีด ซึ่งสิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้อยู่ในความสนใจคงอยู่ที่ดีไซน์การออกแบบของตัวรถที่ดูสวยงามเตะตาคนที่ผ่านมาพบเห็นนั่นเอง และแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความคลาสสิกของมันก็ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจคนไม่เสื่อมคลาย
BMW 328 Mille Miglia รุ่นปี 1939
เป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นรถที่ชนะรายการ Mille Miglia ซึ่งเป็นการแข่งขันด้วยระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตร โดยรถรุ่นนี้พกพาเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี กำลัง 80 แรงม้า ตัวถังอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา และมีความเร็วสูงถึง 150 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเร็วมากในยุคนั้นเลยทีเดียว
BMW 328 Roadster รุ่นปี 1940
บีเอ็มดับเบิลยูคันนี้เป็นรถรุ่นเดียวกับรถข้างต้นที่เพิ่งกล่าวถึงไป แต่ได้ทำการปรับดีไซน์ภายนอกใหม่ เพิ่มความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่สมัยนั้นนิยมรถฝากระโปรงเรียบ และสีสันสดใสเข้าไป ทำให้ BMW 328 Roadster รุ่นปี 1940 ดูมีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกอง
BMW 501 Barockengel รุ่นปี 1952
รถหรูรุ่นแรก ๆ จากบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี กำลัง 65 แรงม้า ซึ่งต่อมายังมีการเพิ่มรุ่นคูเป้และเปิดประทุนเข้าไปอีกด้วย โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 3,200 ซีซี แรงถึง 160 แรงม้าเลยทีเดียว
BMW Isetta รุ่นปี 1952
รถยนต์คันจิ๋วรูปทรงคล้ายไข่ที่ได้ฉายาว่า Bubble Car ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู เป็นรถเครื่องยนต์สูบเดียว มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 250 ไปจนถึง 600 ซีซี และจำหน่ายในเยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส, สเปน, เบลเยียม และบราซิลเท่านั้น โดยขายได้เป็นจำนวนทั้งหมดราว 161,728 คัน
BMW 507 รุ่นปี 1956
สปอร์ตโรดสเตอร์คันงามมีรุ่นนี้ วางเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,000 ซีซี กำลัง 150 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 4 สปีด ซึ่งคนรักรถหลายคนต่างพากันหลงใหลในความงามของมัน แต่น่าเสียดายที่ตั้งราคาสูงไปนิดในสมัยนั้น จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก โดยผลิตจำหน่ายเพียง 252 คันเท่านั้น
BMW 2000 รุ่นปี 1966
มีอีกชื่อหนึ่งว่า บีเอ็มดับเบิลยู นิว คลาส (BMW New Class) เป็นรถขนาดคอมแพกต์ซีดานที่ช่วยกู้สถานะทางการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู และกลายเป็นต้นแบบของสปอร์ตซีดานทุกรุ่นตั้งแต่นั้นมา โดยนิว คลาส พกพาเครื่องยนต์ขนาด 1,500-2,000 ซีซี ที่พร้อมจะพาผู้โดยสารทะยานไปถึงจุดหมายไปด้วยความราบรื่น
BMW M1 รุ่นปี 1978
รู้จักกันในนามของตัวถัง E26 เป็นรุ่นที่บีเอ็มดับเบิลยูร่วมมือกับแลมโบกินี่ (Lamborghini) เพื่อสร้างรถแข่งและผลิตรถสปอร์ตสำหรับจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย โดยเครื่องยนต์รุ่นสูงสุดนั้นมีกำลังสูงถึง 850 แรงม้าเลยทีเดียว
BMW 323i รุ่นปี 1978
รุ่นนี้มีรหัสตัวถังคือ E31 เป็นต้นตระกูลของซีรีส์ 3 เป็นรถคอมแพกต์ของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งยังคงพัฒนาต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดย 323i ถือเป็นรุ่นที่แรงสุดในยุคนั้น โดยมีกำลังมากถึง 143 แรงม้า
BMW 528i รุ่นปี 1981
รุ่นที่ 2 ของบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 5 รหัสตัวถัง E28 เป็นรถขนาดกลางของค่ายที่ได้รับความนิยมมาตลอด และในรุ่น 528i นี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,800 ซีซี พร้อมดีไซน์ภายในสุดเนี้ยบทำให้รถรุ่นนี้แรงและหรูได้ใจไม่น้อย
BMW 750iL รุ่นปี 1987
ซีรีส์ 7 นับเป็นบีเอ็มดับเบิลยูที่หรูที่สุดของค่าย โดยในรุ่นปี 1986 บีเอ็มดับเบิลยูได้ส่งซีรีส์ 7 รหัส E32 ซึ่งใช้เวลาพัฒนาจากรุ่นก่อนถึง 7 ปี โดยในรุ่น 750iL คือรุ่นสูงสุดของซีรีส์นี้ ภายในครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ แม้กระทั่งกล่องเก็บความเย็น พร้อมเครื่องยนต์ขนาดยักษ์ 5,000 ซีซี กำลัง 300 แรงม้า
สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยูทั้ง 11 คันนี้ ถือเป็นแรงบันดาลใจของบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่อ ๆ มาในปัจจุบันอย่างชัดเจน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์จากค่ายรถกังหันสีฟ้านั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้ใคร แถมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีระดับหัวแถวของแต่ละยุค จึงไม่แปลกที่หลายคนก็อยากเป็นเจ้าของยนตรกรรมจากค่ายนี้สักครั้งในชีวิตเลยล่ะครับ