เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์สื่อสารแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและกิจกรรมความบันเทิงมากมาย หรือพูดให้ถูกก็คือกลายมาเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว แต่หากใช้ไม่ถูกกาลเทศะโทรศัพท์มือถือก็อาจจะเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เสี่ยงอันตรายจนถึงแก่ชีวิตเลยก็เป็นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ขับขี่รถยนต์ หลายคนอาจจะเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะต้องใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถไปด้วย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง นำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน
บางคนอาจจะไม่เชื่อว่าการใช้โทรศัพท์มือถือทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ทั้งนี้มีผลการวิจัยจากสถิติอุบัติเหตุของประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2011 จากกรมการขนส่งสหรัฐฯ, มหาวิทยาลัยยูทาห์ รวมถึงเว็บไซต์ themdjd.com ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายของ Michael Barszcz ออกมายืนยันแล้วว่า 1 ใน 4 ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากโทรศัพท์มือถือและการพิมพ์ข้อความระหว่างขับรถ ซึ่งอันตรายกว่าการเมาแล้วขับถึง 6 เท่าเลยทีเดียว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวขณะขับขี่รถส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ มีปฏิกิริยาในการตอบสนองที่ช้าลง
โดยผู้ที่ขับรถและคุยโทรศัพท์ไปด้วยเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ 1.3 เท่า ขณะที่ผู้ที่ขับรถและพิมพ์หรืออ่านข้อความทางมือถือเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติถึง 23% เลยทีเดียว โดยการพิมพ์ข้อความบนมือถือจะต้องละสายตาจากถนนเฉลี่ย 4.6 วินาที ซึ่งถ้าหากวิ่งด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเท่ากับการปิดตาขณะขับรถเป็นระยะทาง 100 เมตร และที่น่าตกใจคือ ในแต่ละปีเกิดอุบัติเหตุรถชนกันอันเนื่องมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือถึง 1.6 ล้านครั้ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่าครึ่งล้านคน และคร่าชีวิตคนอเมริกันไปกว่า 6,000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 28% ของจำนวนอุบัติเหตุทั้งหมด
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่าในกลุ่มผู้ที่ขับขี่ที่มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 18-29 ปี เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมการส่งข้อความขณะขับขี่สูงถึง 68% รวมไปถึงพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การท่องเว็บ 48%, ล็อกอินเข้าใช้งานโซเชียลมีเดีย 37% และอัพเดทข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย 33%
และเพื่อให้ทุกคนขับขี่รถยนต์ได้อย่างปลอดภัย วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ
1. ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิดโทรศัพท์เลยได้ยิ่งดี
2. ควรใช้วอยซ์เมลรับสายแทนขณะที่คุณกำลังขับรถ
3. ถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ควรจะจอดข้างทางให้เรียบร้อยก่อนจึงค่อยโทรศัพท์
4. ควรใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรี ทั้งสมอลทอล์กและบลูทูธ หรือเปิดลำโพงแทน
5. กรณีที่มีการส่งข้อความหรือแชท ควรอ่านหรือเขียนข้อความต่อเมื่อหยุดรถแล้ว หรือจอดติดสัญญาณไฟแดงเท่านั้น
เห็นไหมคะว่าข้อแนะนำเหล่านี้เพื่อน ๆ สามารถนำไปปฏิบัติตามกันได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าปัจจุบันพฤติกรรมการติดโทรศัพท์และสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ แต่ถ้าหากฝึกจนเป็นนิสัย เชื่อว่าไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถทำได้ เพราะนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุไม่เพียงแต่ตัวเราเองเท่านั้น ยังรวมถึงคนรอบข้างอีกด้วยค่ะ
