8 เรื่องราวรถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนไม่รู้

รถยนต์ไฟฟ้า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก greencarreports.com

          ในขณะที่ทุกคนตื่นตัวเรื่องการดูแลสภาพแวดล้อม วงการรถยนต์เองก็พยายามผลักดันรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยรถยนต์พลังงานทางเลือกต่าง ๆ ได้ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเองก็เป็นที่สนใจของผู้บริโภคมากเช่นกัน โดยจากการรายงานในสหรัฐฯ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามียอดจำหน่ายไปกว่าแสนคันนับตั้งแต่การผลิตในเชิงพานิชย์เมื่อไม่กี่ปีก่อน ทำให้วันนี้กระปุกคาร์ขออินเทรนด์กระแสรักษ์โลกบ้างด้วยการนำเสนอข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนคาดไม่ถึงจากเว็บไซต์ www.greencarreports.com มานำเสนอชาวกระปุกถึงความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันกันครับ

          1.รถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันในขนาดเดียวกัน

    เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นเทคโนโลยีใหม่ ผู้พัฒนายังไม่ได้พัฒนาให้มันมีต้นทุนที่ถูกลงได้มากนัก ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงมีราคาสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเท่ากัน เช่น Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้าของนิสสันที่มีขนาดเท่ากับ Nissan Sentra แต่เจ้ารถไฟฟ้าดันมีราคาสูงกว่าถึง 13,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 386,000 บาทเลยทีเดียว
ค่าใช้จ่ายของพลังงานไฟฟ้าถูกกว่าน้ำมันเยอะ
          2.ค่าใช้จ่ายของพลังงานไฟฟ้าถูกกว่าน้ำมันเยอะ

          ในเวลาที่น้ำมันแตะ 40 บาท และขึ้นลงไปมาตามความผันผวนของตลาดนั้น คุณอาจต้องเติมน้ำมันถึง 800 บาทเพื่อวิ่งให้ได้ 200 กิโลเมตร แต่รถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้พลังงานไฟฟ้าที่คิดเป็นเงินแล้วไม่เกิน 70 บาท แต่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันมากเลยทีเดียว แถมยังมีแนวโน้มจะพัฒนาให้ใช้ไฟน้อยลงและวิ่งได้ไกลขึ้นอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นยังใช้เครื่องยนต์อยู่ด้วย

          3.รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นยังใช้เครื่องยนต์อยู่ด้วย

          ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน ๆ แต่รถยนต์ประเภท ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นหลักนั้น ยังคงมีเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนอยู่ เพราะผู้ผลิตรถยนต์มองเห็นว่า ไฟฟ้าอาจไม่เพียงพอในการใช้งานระยะทางไกลในตอนนี้ ดังนั้น จึงมีเครื่องยนต์ขนาดพอดี ๆ ติดรถไว้ อย่างน้อยก็ช่วยให้สามารถใช้น้ำมันขับเคลื่อนต่อไปได้ในยามฉุกเฉิน

รถยนต์ไฟฟ้าขับได้นุ่มกว่า

          4.รถยนต์ไฟฟ้าขับได้นุ่มกว่า

          รถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนได้สัมผัสมันแบบง่าย ๆ ก็คือ รถกอล์ฟ  ซึ่งเป็นการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด ส่งผลให้รถเงียบเพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเสียงการเร่งเครื่องยนต์ ไม่มีอาการกระชากในการเปลี่ยนเกียร์ และไม่มีการกระชากการออกตัว ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมจากนักขับมากมาย
         
ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อเพลิงหมด

          5.ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อเพลิงหมด

          คุณอาจจะกังวลเรื่องระยะทางที่เหลือว่าแบตเตอรี่จะเพียงพอสำหรับการกลับบ้านในวันนี้ไหม แต่จากประสบการณ์ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้น มักจะขับรถเป็นระยะทางน้อยกว่าที่คุณคิดทำให้เหลือไฟฟ้าวิ่งได้สบาย ๆ และคุณยังสามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ทุกวัน รวมถึงทุกที่ที่มีปลั๊กไฟอีกด้วย

ร้อนแล้วจะพังไหม

          6.ร้อนแล้วจะพังไหม

          ถึงแม้ว่าอุณหภูมิที่เหมาะกับแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ 21 องศาเซลเซียส แต่จากการทดสอบการวิ่งในสหรัฐฯ บนถนนทางหลวงที่มีอุณหภูมิผิวถนนสูงถึง 65 องศาเซลเซียสนั้นสามารถวิ่งได้ตามปกติ จึงหายห่วงเรื่องความทนทานไปได้ระดับหนึ่งในตอนนี้

โรงงานไฟฟ้าปล่อยไอเสียน้อยกว่ารถยนต์อีก

          7.โรงงานไฟฟ้าปล่อยไอเสียน้อยกว่ารถยนต์อีก

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะจากการศึกษาพบว่าหากนำโรงงานไฟฟ้าที่ปล่อยไอเสียไปเทียบค่าตามแบบของรถยนต์นั้น มันจะปล่อยไอเสียเพียงแค่ 25 mpg เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่ายอดแชมป์รถปล่อยไอเสียต่ำที่สุดอย่าง Toyota Prius ที่ปล่อยออกมาถึง 50 mpg

ไม่ต้องกลัวไฟช็อต ล้างรถ ลุยน้ำ ได้หมด

          8.ไม่ต้องกลัวไฟช็อต ล้างรถ ลุยน้ำ ได้หมด

          Chevrolet เคยเผยคลิปที่นำ Chevrolet Bolt รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสุดแรงมาวิ่งทดสอบบนพื้นน้ำที่เตรียมไว้ให้สูงเกือบครึ่งคันรถ ซึ่งผลก็คือ รถสามารถวิ่งได้ตามปกติ แถมยังไม่เกิดการลัดวงจรใด ๆ อีกด้วย


คลิป  The 2011 Chevy Volt Gets a Bath in the Water Trough โพสต์โดยคุณ Chevrolet สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

           เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ หวังว่าในอนาคตเราจะมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาเหมาะสมให้เลือกใช้กัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเงินของเราและโลกของเราด้วย แล้วคราวหน้ากระปุกคาร์จะนำสาระดี ๆ เกี่ยวกับรถยนต์มาฝากอีกแน่นอนครับ



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 เรื่องราวรถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนไม่รู้ อัปเดตล่าสุด 11 มิถุนายน 2556 เวลา 13:20:08 8,597 อ่าน
TOP
x close