สรรพสามิต แจงกรณีชาวอ่างทองโวย รถคันแรกห้ามตาย





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

            ชาวอ่างทองโวย ถูกกรมสรรพสามิตทวงเงินรถคันแรก พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 หลังสามียื่นใช้สิทธิ์แต่เสียชีวิต ชี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ห้ามโอน-ห้ามขาย ขณะที่ฝ่ายกฎหมาย ระบุ สิทธิ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นมรดก ดังนั้น คนที่ได้รับสิทธิ์คืนเงิน ต้องห้ามตาย
      
            วันนี้ (20 มีนาคม) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายบุญส่ง สุนทรนันท์ อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นางสาวพัชรี สุนทรนันท์ อายุ 30 ปี บุตรสาว ชาวอ่างทอง ได้เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากถูกกรมสรรพสามิตทวงเงินคืนจากโครงการรถคันแรกพร้อมดอกเบี้ย

            ทั้งนี้ นางสาวพัชรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 สามีของตนคือ นายเดี่ยว อยู่ยืน อายุ 34 ปี ได้ยื่นใช้สิทธิ์รถคันแรกของรัฐบาล ในการซื้อรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน มาร์ช โดยเช่าซื้อกับธนาคารไทยพาณิชย์ และทำการจดทะเบียนหมายเลข กค-8911 อ่างทอง แต่สามีของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม และตนได้เป็นผู้จัดการมรดก จึงได้นำหลักฐานการเสียชีวิตของสามีไปแจ้งเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์คันนี้ต่อไป และไม่ได้มีความประสงค์ที่จะขายต่อหรือโอนแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ได้ พร้อมบอกว่ายังไม่ให้ตนทำอะไร และขอส่งหนังสือไปหารือกับทางกรมสรรพสามิตก่อน

            ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ทางกรมสรรพสามิตได้โอนเงินตามโครงการเข้ามาบัญชีของตนจำนวน  60,511 บาท หลังได้รับเงินตนจึงเอาไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจัดงานศพของสามีจนหมด จนกระทั่งต้นเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ทางกรมสรรพสามิต จ.อ่างทอง ได้แจ้งถึงข้อหารือก่อนหน้านี้ โดยออกเป็นหนังสือราชการ ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 มีใจความว่า "กรณีของนายเดี่ยว เสียชีวิต ก่อนได้รับเงินตามสิทธิ์นั้นถือว่าสิทธิ์ของผู้ตายสิ้นสุดลง จึงไม่ได้รับสิทธิ์และสิทธิ์นั้นไม่ถือเป็นทรัพย์มรดก เมื่อสิทธิ์สิ้นสุดลงจึงขอให้ทายาทโดยชอบธรรมของผู้เสียชีวิตนำใบมรณบัตรมายื่นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อขอทำการยกเลิกสิทธิ์ในระบบ"

            นางพัชรี กล่าวว่า แต่ในส่วนของตนนั้น ซึ่งรับเงินมาแล้วก็ต้องนำเงินดังกล่าวใช้คืนกรมสรรพสามิต พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีด้วย ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าตนไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ที่ระบุว่า "ห้ามขายโอนก่อนครบ 5 ปี" ซึ่งไม่ได้มีการระบุว่า "ห้ามตาย" อีกทั้งตนก็ไม่มีเงินใช้คืนด้วย จึงมาขอเรียกร้องความเป็นธรรมดังกล่าว

            ขณะที่ นายสมชาย ศรีประทุมรัตน์ รองสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า นายเดี่ยวเสียชีวิตเป็นเรื่องเหตุสุดวิสัย และสิ่งที่ต้องพิจารณาคือสิทธิ์รถคันแรกนั้น เป็นมรดกหรือไม่ จึงได้หารือไปทางกรมสรรพสามิต และฝ่ายกฎหมายตีความว่าสิทธิ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นมรดกแต่อย่างใด ดังนั้น คนที่ได้รับสิทธิ์คืนเงินรถคันแรก คือ "ห้ามตาย" ซึ่งตนได้ไปตรวจสอบบัญชีพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกเบิกออกไปหมดแล้ว จึงทวงถามทายาทให้นำเงินมาคืนกรมสรรพสามิต แต่เมื่อทางทายาทใช้เงินไปแล้ว และไม่มีเงินคือให้ ในส่วนนี้ตนก็จะรายงานให้กรมสรรพสามิตรับทราบและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

            อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ยืนยันว่า กรณีนี้ทางภรรยาของผู้เสียชีวิตไม่จำเป็นต้องนำเงินมาคืนกับกรมสรรพสามิต เพราะรถคันนี้ไม่ได้ผิดเงื่อนไข คือไม่ได้ขายไปก่อน 5 ปี


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรรพสามิต แจงกรณีชาวอ่างทองโวย รถคันแรกห้ามตาย อัปเดตล่าสุด 20 มีนาคม 2556 เวลา 13:49:56 1,763 อ่าน
TOP
x close