Mazda เปิดไทม์ไลน์ขุมพลังในอนาคต ปี 2035 ได้เจอรถไฟฟ้าไร้คนขับ​

mazda

          Mazda วางแผนอนาคตด้านขุมพลัง Zoom-Zoom จะมีทั้ง SKYACTIV-X, Rotary Range Extender,​ Mild Hybrid, Plug-in Hybrid ไปจนถึง All-Electric Battery แต่จะไม่มี Fuel-Cell และในปี 2035 รถ Mazda จะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติ

           Mazda ได้ประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางของรูปแบบขุมพลังแห่งอนาคตระยะยาวในงานประชุม Frankfurt Tech Forum 2017 ซึ่งจัดขึ้นในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ว่านับจากนี้รถยนต์รุ่นใหม่ของ Mazda มีแผนที่จะ Zoom-Zoom ไปข้างหน้าได้อย่างไร โดยเครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังไม่หายไปจากสารระบบในทันที แต่สิ่งเดียวที่ Mazda หันหลังให้คือเทคโนโลยี Fuel-Cell

mazda

          ปี 2019- Mazda จะนำเทคโนโลยี Mild Hybrid (หลักการน่าจะเหมือนหรือคล้ายกับของ Honda) เพื่อช่วยในเรื่องของความประหยัดในรถยนต์โมเดลหลัก (เป็นไปได้หรือไม่ว่า Mazda  ไม่เลือกใช้ Full Hybrid ทั้งที่ทำได้สบายมากเพราะมี Toyota เป็นพาร์ทเนอร์อยู่แล้ว แต่รอให้ราคาแบตเตอรี่ต่ำลงก่อน) และ Mazda ก็จะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนด้วย (All-electric battery vehicle หรือ BEV) โดยมีเครื่องยนต์โรตารี่ให้เลือกติดตั้งเป็นออปชั่นเสริมในฐานะ Range Extender เพื่อขยายระยะทางวิ่ง ซึ่งน่าจะพร้อมเปิดตัวในปีหน้า (เปิดตัวก่อนในปี 2018 และเริ่มจำหน่ายปี 2019)

mazda

          นอกจากนี้ในปี 2019 Mazda ยังจะแนะนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซินไร้หัวเทียน (SCCI) ภายใต้ชื่อ SKYACTIV-X ซึ่งให้แรงบิดเหนือกว่าเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G (ที่ขนาดความจุเท่ากัน) ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ (นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลย) ตามแนวคิด จินบะ-อิไต ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ก็ยังไม่ตายและกำลังพัฒนาเจเนอเรชั่นใหม่โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในปี 2020

          เช่นเดียวกับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Mazda ก็กำลังหมกหมุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก โดยระบบดังกล่าว (ไม่แน่ใจว่าเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวลใด) จะเริ่มออกวิ่งทดสอบในปี 2020 และตั้งเป้าว่าจะติดตั้งในรถยนต์ทุกคันที่วางจำหน่ายให้ทันภายในปี 2025

          ไม่เพียงแต่ขุมพลังเท่านั้น ตอนนี้ Mazda ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เป็นหลัก (human-centered concept) โดยแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นล่าสุดที่จะนำไปใช้กับรถยนต์ Mazda รุ่นใหม่ในอนาคต จะให้ทั้งความสบายขับขี่ได้อย่างไม่เหนื่อยล้า ให้การตอบสนองที่ว่องไว เฉียบคม ภายใต้ความสมดุลตามแนวคิด จินบะ-อิไต เช่นกัน (จินบะ-อิไต คือ ศิลปะการทรงตัวบนหลังม้า อันเป็นเทคนิคขั้นสูงที่จำเป็นของนักรบชาวญี่ปุ่น ลองนึกภาพว่าการทรงตัวเพื่อยิงธนูใส่ศัตรูได้อย่างแม่นยำจากบนหลังม้าได้นั้นจะต้องอาศัยความนิ่งขนาดไหน นั่นคือที่มาของปรัชญาการออกแบบรถ Mazda) โดยแพลตฟอร์มใหม่จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลายส่วนดังนี้

          - เบาะนั่ง : ออกแบบใหม่ให้รองรับกระดูกเชิงกรานในตำแหน่ง S-curve ตามสรีระธรรมชาติ และจุดยึดต่าง ๆ จะถูกเสริมความแข็งแกร่งและสามารถถ่ายทอดการตอบสนองของตัวถังรถไปที่กระดูกเชิงกรานของผู้ขับขี่โดยตรง โดยโครงสร้างของเบาะนั่งจะกระจายน้ำหนักของผู้ขับได้เป็นอย่างดี

mazda

mazda

          - ตัวถัง : สามารถถ่ายทอดการรับรู้ไปยังผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วโดยเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยเฟรมแนวเส้นทแยงมุม (โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งทนต่อการบิดตัวเป็นหัวใจหลักที่สำคัญและส่งผลต่อการขับขี่มาก ความเข้าใจว่าแค่ระบบกันสะเทือนดีแล้วจะพอ นั่นไม่ใช่เลย)

mazdamazda

          - แชสซีส์ : ออกแบบระบบรองรับและกันสะเทือนใหม่ให้สอดคล้องกับโครงสร้างเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดยทุกส่วนจะทำงานสอดประสานกันและกระจายแรงกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น

          - เทคโนโลยีลดเสียง การสั่นสะเทือนและความกระด้าง (NVH หรือ Noise Vibration and Harshness)

          สรุปคือ รถยนต์ Mazda ที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ จะเป็นรถที่ขับสนุก ให้การตอบสนองที่ว่องไว เฉียบคม แต่ให้ความสบายในการเดินทางไม่แข็งกระด้าง (นุ่ม แน่น แต่ไม่ย้วย) ไม่เมื่อยล้ากับการจัดการกับเสียง แรงสั่นสะเทือน รวมถึงความกระด้างต่าง ๆ โดยที่รถไม่ถูกตัดการรับรู้ในการขับขี่ออกไปอย่างสิ้นเชิง (คือจะยังรับรู้ทุกการเคลื่อนไหว ไม่ใช่ล่องลอยแบบ โนสน โนแคร์ อย่าง Lexus รุ่นใหญ่ ซึ่งรายนี้เขาตั้งใจตัดออกให้เกลี้ยง เน้น Ride Quality เพราะคิดต่างกัน เราแค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ และแนวคิด Mazda จะใกล้กับ BMW มากกว่าคือเน้น Handling แต่ไม่หยาบกระด้าง)

mazda

          ปี 2021- รถยนต์ Plug-in Hybrid จะเข้ามาเป็น Line-up ใหม่ ของ Mazda ทั้งนี้ที่ Mazda ตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ก่อนรถยนต์ Plug-in Hybrid เพราะน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและดูยิ่งใหญ่อลังแกรนด์ต่อภาพลักษณ์ของ Mazda มากกว่า ด้วยจุดขายที่ไม่เหมือนใครอย่าง Range Extender ที่เป็นเครื่องยนต์โรตารี่ในตำนาน

          ปี 2035- หรืออีก 18 ปี หลังจากนี้ Mazda มีเป้าหมายให้รถยนต์ของตนเองนั้นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติ นั่นหมายความว่ารถ Mazda จะเป็นยานยนต์ไร้คนขับอย่างสมบูรณ์แบบ

          นึกไม่ออกเลยว่าถึงตอนนั้นแล้วนิยาม Zoom-Zoom จะยังมีความอย่างไรกับ Mazda อีก และเราจะมี AI เป็นพลขับหัวใจสปอร์ตอย่างนั้นหรือ...โอ้ววว ไม่นะ

ภาพจาก Mazda

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Mazda เปิดไทม์ไลน์ขุมพลังในอนาคต ปี 2035 ได้เจอรถไฟฟ้าไร้คนขับ​ อัปเดตล่าสุด 15 กันยายน 2560 เวลา 17:23:20 7,764 อ่าน
TOP
x close