Test Drive Mitsubishi Triton 2016 ตัวตนชัดเจน กับความสามารถมากขึ้น

          Test Drive Mitsubishi Triton 2016 หลังจากมีการปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4WD เทสต์ไดรฟ์ ไทรทัน 2016 เพิ่มความสามารถอย่างชัดเจน

          ย้อนกลับไปเพียงปีเศษ ๆ ได้มีการเปิดตัวกระบะรุ่นใหม่ Mitsubishi Triton เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ก็ถือเป็นกระบะเจเนอเรชั่นใหม่เปิดตัวลำดับที่สอง และเข้าตามเทรนด์เครื่องยนต์ Downsize ความจุกระบอกสูบ 2.4 ลิตร ที่ยังให้กำลังที่ดีแต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น


          เมื่อขึ้นพุทธศักราชใหม่ 2559 เกณฑ์ภาษีสรรพสามิตที่รอบังคับใช้มานานถึง 3 ปีก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มของรถกระบะถ้าปล่อยไอเสียไม่เกิน 200 กรัม/กม. จะได้ภาษีเท่าเดิม แต่ในรุ่นตอนครึ่ง (Spacecab) จะถูกปรับแน่นอนอย่างน้อย 2%

          แต่ทั้งหมดที่เล่ามาเพราะ มิตซูบิชิ ไทรทัน 2016 (Mitsubishi Triton 2016) ปรับราคาลดลงในหลายรุ่น ส่วนรุ่นที่ปรับราคาเพิ่มเพียงนิด แต่คุณจะได้รับการปรับปรุงห้องโดยสารใหม่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบ Super Select 4WD–II


          และในการเทสต์ไดรฟ์ครั้งนี้ มิตซูบิชิ ประเทศไทย ก็เหมือนเป็นการแนะนำให้รู้จัก Mitsubishi Triton 2016 เพราะเป็นการออกสื่อแบบเต็ม ๆ ครั้งแรก หลังจากมีการปรับปรุงช่วงเดือนมกราคม 2559


          ทริปนี้เลือกใช้เส้นทาง ปทุมธานี - สระบุรี - นครนายก - ปราจีนบุรี ระยะทางรวมกว่า 211 กม. มีการลุยเส้นทางธรรมชาติเล็กน้อย เพื่อทดสอบระบบ Super Select 4WD–II และช่วงล่างที่มีการปรับปรุงเล็กน้อย จึงนำรุ่น Plus (ยกสูง) และ 4x4 ในตัวถังตอนครึ่งและสี่ประตู (Spacecab และ Double Cab)

          สำหรับดีไซน์ภายนอกของ มิตซูบิชิ ไทรทัน 2016 (Mitsubishi Triton 2016) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังขอยืนยันคำเดิม ดีไซน์นี้ไม่รักก็เกลียดกันไป


          มองที่ห้องโดยสาร เราจึงขอวางรูปเปรียบเทียบให้ชัด ๆ กับพวงมาลัยใหม่ 4 ก้าน (แบบปาเจโร่) ช่วยให้ดีไซน์ภายในห้องโดยสารดูดีขึ้นมากกกก ฟีเจอร์ใหม่อย่างระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ช่วยเพิ่มฟีลลิ่งการขับให้สนุกขึ้น และการควบคุมได้มากกว่า มีการเพิ่มช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลต์ 2 จุด

          ด้านเครื่องยนต์ MIVEC CLEAN DIESEL รหัส 4N15 เครื่องยนต์ดีเซล 2,442 ซี.ซี. คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

          ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม วาล์วแปรผัน MIVEC, เทอร์โบแปรผัน  (VG Turbo), เสื้อสูบและฝาสูบอะลูมิเนียมอัลลอย ทำให้น้ำหนักเครื่องเบา ระบายความร้อนดี และปลอกสูบแบบเหล็กกล้าช่วยให้เครื่องยนต์ทนทาน เอกลักษณ์ในเครื่องยนต์ของมิตซูบิชิ ทั้งหมดนี้ก็ทำให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน ทนทาน และมีกำลังดีไม่ต่างจากเครื่อง 3.0 ลิตรเดิม


          มาถึงช่วงล่าง และระบบ Super Select 4WD II ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งมีความพิเศษคือ เป็นการรวมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part time กับ Full Time ไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็น 4 ล้อ (4H) หรือเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดได้ง่ายขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า


          ใครที่ติดตามรถยนต์ของ มิตซูบิชิ ก็คงคุ้น ๆ กันบ้าง ใช่แล้ว.. นี่เป็นระบบของ Mitsubishi Pajero sport 2016

          แต่มีการเพิ่มระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ASC ที่ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวเมื่อรถเสียสมดุล ป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถลออกนอกเส้นทางกับ ATC  ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) เพื่อใช้กับเส้นทางที่ชันมาก ๆ ในแบบออฟโรด

          ในช่วงทดสอบ Mitsubishi Triton 2016 ก็จัดหนักโชว์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ จำลองอุปสรรคให้ล้อของรถ 3 ล้อปล่อยฟรีบนโรลบาร์ แสดงให้เห็นว่าการส่งกำลังของระบบขับเคลื่อนที่ถ่ายกำลังล้อฟรีไปเพียง 1 ล้อ ก็สามารถผ่านอุปสรรคได้ และขับวนเสา แสดงถึงวงเลี้ยวที่แคบของรถ


          ต่อจากนั้นก็วิ่งทางออฟโรดเพื่อทดสอบการการใช้งานจริงอีกครั้ง ก็ผ่านไปได้แบบราบรื่นตลอดเส้นทาง และในช่วงขากลับผู้เขียนจึงมีโอกาสได้ทดสอบขับ Mitsubishi Triton 2016 แบบฟรีรันเต็ม ๆ จนถึงสำนักงานใหญ่ของมิตซูบิชิ ที่ปทุมธานี

สรุปส่วนตัวจากผู้ทดสอบ


          Mitsubishi Triton 2016 ยังคงความดีงาม น่าใช้ไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นปีที่แล้ว เครื่องมีกำลังดี คล่องตัว ห้องโดยสารกว้าง ส่วนช่วงล่างก็ไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนอะไร พูดได้ว่า "ไม่รู้จะติอะไร" เหมือนเดิม

          หากมองด้านดีไซน์เป็นเรื่องของส่วนบุคคลล้วน ๆ ชอบหรือไม่ คุณตัดสินใจกันเอง หากว่ากันตรง ๆ โฉมนี้คือการฟิวชั่น Triton + Pajero Sport หยิบส่วนดีมาใช้ร่วมกัน ทั้งดีไซน์ภายในห้องโดยสารและระบบขับเคลื่อน

         
          แต่ที่ทำให้ต้องมองกันจริง ๆ คือเรื่องราคาของรถที่ปรับใหม่ จนกระบะเจ้าอื่นต้องมองค้อน เราแอบหยิบสมุดบำรุงรักษารถมาดู ก็มีการขยายเช็กระยะฟรีค่าแรงในการบำรุงรักษารถ 5 ปี หรือ 100,000 กม.

          ในการอธิบายข้อมูลระบบความปลอดภัย Passive อย่างถุงลมนิรภัยก็ได้เพิ่มเป็น 7 จุดในรุ่นท็อป และมีการปรับค่าอะไหล่ให้ถูกลง แก้ปัญหาที่ร่ำลือว่ามิตซูบิชิอะไหล่แพง

          หากใน Mitsubishi Triton 2015 มีนิยามว่า "เปลี่ยน..ทุกความเชื่อ" ผมว่าในรุ่นปี 2016 "ให้มากกว่า..หากคุณเชื่อ" ชัดเจนในตัวตน เรื่องทำราคาสู้และให้ออปชั่นเหนือกว่าครับ