ไขข้อสงสัย รถแจ้งจอดคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรทำไมถึงต้องแจ้งจอด พร้อมขั้นตอนการดำเนินการ และถ้าหากจะนำรถที่แจ้งจอดกลับมาใช้งานอีกต้องทำยังไงบ้าง
รถแจ้งจอด คืออะไร ใครที่สงสัยเราจะพาไปทำความรู้จักกับรถแจ้งจอดกันว่าเป็นอย่างไร เพราะเหตุใดทำไมถึงต้องแจ้งจอด และสามารถทำได้ทั้งรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เลยหรือไม่ พร้อมขั้นตอนการดำเนินการกับกรมการขนส่งทางบกสำหรับผู้ที่ต้องการแจ้งจอดรถ รวมถึงนำรถแจ้งจอดมาจดทะเบียนใหม่ต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน
รถแจ้งจอดคืออะไร
รถแจ้งจอด คือ การแจ้งไม่ใช้รถ หรือหยุดใช้รถ เช่น รถเสียรอซ่อมแซม รถสะสมรอฟื้นฟูสภาพ รวมไปถึงรถที่ไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลานาน เพื่อจะได้ไม่ต้องต่อภาษีประจำปี แต่ยังสามารถนำทะเบียนรถกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งการดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถจะแยกเป็น 2 กรณี ได้แก่
-
การแจ้งไม่ใช้รถชั่วคราว ยื่น 1 ครั้ง จอดได้ 2 ปี ซึ่งการแจ้งจอดกรณีนี้สามารถนำรถหรือทะเบียนรถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เช่น รอซ่อมแซม เพื่อนำรถกลับมาใช้อีก
-
การแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป เมื่อไม่ต้องการใช้รถหรือทะเบียนอีก เช่น รถหาย รถเสียไม่อยากซ่อม รถเก่าเลิกใช้งาน กรณีนี้หากจะนำรถมาใช้ต้องจดทะเบียนใหม่เท่านั้น
รถแจ้งจอดต้องทำยังไง
ถ้าต้องการยื่นแจ้งจอดรถทั้ง การแจ้งไม่ใช้รถชั่วคราว หรือ การแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป สามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ พร้อมเอกสารดังนี้
-
เล่มทะเบียนรถ
-
สำเนาบัตรประชาชน
-
แผ่นป้ายทะเบียนรถ
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการแจ้งไม่ใช้รถจะมีค่าธรรมเนียม 25 บาท/คัน
รถแจ้งจอด จดทะเบียนใหม่ต้องทำยังไง
กรณีการแจ้งไม่ใช้ตลอดไปไว้ และอยากนำรถกลับมาใช้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเอามาใช้ต่อเอง หรือขายต่อให้บุคคลอื่น จะต้องนำรถไปจดทะเบียนใหม่ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โดยใช้เอกสารดังนี้
-
เล่มทะเบียนรถ
-
บัตรประจำประชาชนเจ้าของรถ
-
พ.ร.บ.
ส่วนค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนรถใหม่ มีดังนี้
-
ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
-
ค่าเล่มทะเบียนรถ 100 บาท
-
ป้ายทะเบียนรถ ป้ายละ 100 บาท
-
ค่าธรรมเนียมอัตราภาษีประจำปีของรถแต่ละประเภท
-
ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพ รถยนต์ 50 บาท รถมอเตอร์ไซค์ 10 บาท
ดังนั้น หากใครที่มีเหตุให้ไม่ได้ใช้งานรถเป็นระยะเวลานาน โดยไม่แจ้งจอด และทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน เมื่อครบกำหนด 3 ปี ทะเบียนรถนั้นจะไม่สามารถใช้ได้อีก ซึ่งหากจะใช้รถต้องแจ้งขอทะเบียนรถใหม่เท่านั้น ในที่นี้ควรไปดำเนินการแจ้งจอดรถชั่วคราวให้เรียบร้อย หรือในกรณีที่ป้ายทะเบียนรถหายก็จะต้องดำเนินการของป้ายใหม่ด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน่ารู้รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : oic.or.th