เช็กหมายเลขทะเบียนรถว่าเป็นของใคร สามารถทำได้ในกรณีไหนบ้าง ยื่นเรื่องได้ที่ไหน ต้องใช้เอกสารอะไรประกอบ และมีขั้นตอนการดำเนินการยังไงให้ถูกต้อง
อยากเช็กหมายเลขทะเบียน หรือป้ายทะเบียนรถว่าเป็นของใคร เพื่อหาตัวเจ้าของไม่ว่าจะรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคล การเช็กทะเบียนออนไลน์ รวมถึงแอปพลิเคชันเช็กทะเบียนรถ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยื่นเรื่องตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่ เพื่อทำการพิจารณาได้บางกรณีเท่านั้น ส่วนขั้นตอนการดำเนินการต้องทำอย่างไร ใช้เอกสารและหลักฐานอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เช็กหมายเลขทะเบียนรถว่าเป็นของใครอย่างถูกต้องมีเงื่อนไขอย่างไร
กรณีที่จะสามารถขอยื่นเรื่องเช็กป้ายทะเบียนรถเพื่อหาเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถกับกรมการขนส่งทางบก รวมถึงสำนักงานขนส่งในแต่ละพื้นที่ได้ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง มีส่วนได้หรือเสียประโยชน์กับข้อมูลที่ขอตรวจสอบ เช่น นำไปประกอบการพิจารณาคดีความ แต่หากเป็นเหตุอื่น ๆ เช่น ชนแล้วหนี ตามหาเจ้าของรถ นายทะเบียนจะพิจารณาเป็นกรณีไป
เอกสารและหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นเช็กหมายเลขทะเบียนรถ
-
บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาลงลายมือชื่อ
-
หากเป็นนิติบุคคล ต้องใช้หนังสือรับรองนิติบุคคลฉบับจริง พร้อมสำเนาและแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม โดยลงนามให้ครบ รวมถึงประทับตรานิติบุคคลในเอกสารทุกฉบับ
-
บันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีจากสถานีตำรวจที่เกิดเหตุฉบับจริงและสำเนา พร้อมลงลายมือชื่อรับรอง
-
หลักฐานประกอบ เช่น คลิปจากกล้องติดรถ
ขั้นตอนการเช็กหมายเลขทะเบียนรถ
การยื่นขอเช็กป้ายทะเบียนรถจะมีขั้นตอนการดำเนินการคร่าว ๆ ดังนี้
-
รับคำขอ
-
ตรวจสอบหลักฐาน
-
พิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ
-
ชำระค่าธรรมเนียม (รถยนต์ 75 บาท รถมอเตอร์ไซค์ 35 บาท)
-
รับรองสำเนาข้อมูลทะเบียนรถ
เช็กหมายเลขทะเบียนรถโดยพลการมีความเสี่ยงและความผิดตามกฎหมาย
แม้ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหาย หรือใด ๆ ก็ตาม จะไม่สามารถเช็กป้ายทะเบียนรถเพื่อตามหาเจ้าของได้เองโดยใช้บริการรับเช็กประวัติทะเบียนรถออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันเช็กทะเบียนรถ ซึ่งมีความเสี่ยง อีกทั้งยังผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
เพราะปกติการขอตรวจสอบเช็กทะเบียนรถจะต้องใช้หลักฐาน เช่น ศาล ก็จะต้องมีหมายศาล หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องมีหนังสือนำส่งเรื่องจากหน่วยงาน รวมถึงกรณีทนายและประกัน ต้องมีหนังสือแต่งตั้ง พร้อมสำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ
ดังนั้น หากเป็นผู้เสียหาย เช่น ชนแล้วหนี หรืออื่น ๆ และต้องการเช็กป้ายทะเบียนรถ ควรดำเนินการอย่างถูกต้อง แม้อาจจะมีความยุ่งยาก แต่ปลอดภัยกว่าการใช้บริการแบบผิดกฎหมาย เช่น รับเช็กป้ายทะเบียนออนไลน์ แอปพลิเคชันเช็กทะเบียนรถ ซึ่งเราจะกลายเป็นผู้กระทำผิดด้วยทันที