Mercedes-Benz EQS SUV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ วิ่งไกล 660 กม.

เผยโฉม Mercedes-Benz EQS SUV รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์พรีเมียม 7 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ เบื้องต้นมี 3 รุ่นย่อย กับ 2 ขุมพลังให้เลือก 355-536 แรงม้า พร้อมระยะทางวิ่งไกลสูงสุด 507-660 กม.

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Mercedes-Benz EQS SUV รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดใหญ่ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถหรู พัฒนาบนโมดูลาร์แพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EVA2 (Electric Vehicle Architecture) ร่วมกับ Mercedes-Benz EQS ตัวถังซีดาน แต่เพิ่มความสามารถในการบุกลุยด้วยตัวถังยกสูง พร้อมติดตั้งเบาะ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง มี 3 รุ่นย่อย 2 ขุมพลัง ระยะทางวิ่งสูงสุด 660 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง  

Mercedes-Benz EQS SUV ที่เป็นสไตล์ตัวถังครอสโอเวอร์เอสยูวียกสูง ยังคงใช้ภาษาออกแบบเดียวกับ Mercedes-Benz ตระกูล EQ รุ่นอื่น ๆ ซึ่งเน้นอากาศพลศาสตร์ด้วยพื้นผิวเรียบโล่งแบบ Smooth Body ด้านหน้าใช้กระจังหน้าแบบปิดขนาดใหญ่ ช่องดักอากาศด้านล่างมี Shutter แบบเปิด-ปิดได้ และใต้พื้นรถปิดเรียบลดการต้านของกระแสลม รวมถึงการวางตำแหน่งห้องโดยสารขยับไปด้านหน้าลักษณะเดียวกับ Mercedes-Benz EQS

ส่วนมิติตัวถังของ Mercedes-Benz EQS SUV จัดเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดใหญ่สุดของตระกูลไฟฟ้า EQ ด้วยความยาว 5,125 มม. กว้าง 1,959 มม. (ไม่รวมกระจกมองข้าง) สูง 1,718 มม. และฐานล้อยาวมากถึง 3,210 มม.

สำหรับภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz EQS SUV แทบจะเหมือนกับ Mersedes-Benz EQS Sedan โดยเฉพาะแผงหน้าปัดที่ติดตั้งจอ MBUX Hyperscreen ทรงฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ มาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่ และจอผู้โดยสาร ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอกลางแบบ OLED มีขนาด 17.7 นิ้ว มีระบบ MBUX V.2 สำหรับควบคุมฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของรถเกือบทั้งหมด

ทั้งนี้ Mercedes-Benz EQS SUV จะติดตั้งเบาะแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนังแท้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเบาะ 3 แถว 6 และ 7 ที่นั่ง อยู่ในรายการออปชั่น แต่ส่วนอื่น ๆ จะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ MB-Tex และพลาสติกแบบ Soft-Touch คอนโซลกลาง ที่เท้าแขนแผงประตูตกแต่งด้วยไม้แท้ฝังอะลูมิเนียม พร้อมแสงสีจากไฟ Ambient Light ส่วนระบบเสียงไฮเอนด์มาจาก Burmester เจ้าเดิม 

ด้านพละกำลังของ Mercedes-Benz EQS SUV จะมีให้เลือก 2 แบบ สำหรับ 3 รุ่นย่อย ได้แก่
 

• Mercedes-Benz EQS SUV 580 4MATIC จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 536 แรงม้า และแรงบิด 858 นิวตันเมตร รองรับ Fast Charging (DC) กำลังไฟสูงสุด 200 kW โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ภายในเวลา 30 นาที ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุด 507-613 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (WLTP)
   
• Mercedes-Benz EQS SUV 450 4MATIC จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 355 แรงม้า และแรงบิด 800 นิวตันเมตร รองรับ Fast Charging (DC) กำลังไฟสูงสุด 200 kW โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ภายในเวลา 30 นาที ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุด 507-613 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (WLTP)
   
• Mercedes-Benz EQS SUV 450 จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง กำลังสูงสุด 355 แรงม้า และแรงบิด 568 นิวตันเมตร รองรับ Fast Charging (DC) กำลังไฟสูงสุด 200 kW โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ภายในเวลา 30 นาที หรือชาร์จไฟเพียง 15 นาที จะวิ่งได้ไกลถึง 250 กม. ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุด 536-660 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (WLTP)

ในส่วนของเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz EQS SUV จะติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบสปริงลม AIRMATIC แบบแปรผัน มีระบบเลี้ยว 4 ล้อ โดยล้อหลังจะบิดตัวได้สูงสุด 4.5 องศา เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น (และสามารถอัปเดตผ่าน OTA เป็น 10 องศาได้) เพื่อเพิ่มความคล่องตัว 

นอกจากนี้ยังติดตั้งชุดระบบช่วยขับขี่ Driving Assistance Package ระบบ Evasive Steering Assist ช่วยหักพวงมาลัยหลีกเลี่ยงจากสถานการณ์ที่ระบบวิเคราะห์ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ระบบ Active Blind Spot Assist เตือนจุดอับสายตาด้วยภาพ พร้อมระบบช่วยเหลือหากผู้ขับขี่เพิกเฉย รวมถึงระบบหลีกเลี่ยงการชนในทางแยก Active Brake Assist with cross-traffic function เป็นต้น

ถ้าตราบใดที่ BMW ยังไม่มีการเปิดตัว BMW iX7 ในเร็ว ๆ นี้ ทางเลือกอื่นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่คล้ายกับ Mercedes-Benz EQS SUV ก็เห็นจะมีแค่ Tesla Model X ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดใกล้เคียงกัน และรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นในสหรัฐฯ ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3.37 ล้านบาท กับ BMW iX รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหญ่สุดของรถตระกูล i ที่วางจำหน่ายในไทยไปก่อนแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้น 5,999,000 บาท

แต่อย่างไรก็ตาม Mercedes-Benz EQS SUV ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายในตอนนี้ และคงจะมีการแจ้งอีกครั้งก่อนเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศช่วงปลายปีนี้นั่นเอง