MG5 Electric 2022 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สเตชั่นแวกอน รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในยุโรป เพิ่มทางเลือกด้วยแบตเตอรี่ Long Range ขนาดใหญ่ 61.1 kWh สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 400 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
MG ในยุโรป รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว ส่งรถรุ่นใหม่ออกมาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ทั้ง MG ZS EV 2022 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ SUV 5 ที่นั่ง ที่ควงคู่มากับ MG Marvel R Electric 2021 SUV ขนาดใหญ่ และ MG5 Electric 2022 หรือที่รู้จักกันในบ้านเราคือรุ่น MG EP รถยนต์ไฟฟ้าตัวถังสเตชั่นแวกอน โดยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หน้าจรดท้าย มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีให้เลือก 2 ขนาด ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลกว่า 400 กม.
MG5 Electric 2022 ดีไซน์ภายนอก
MG 5 Electric 2022 มากับมิติตัวถังความยาว 4,544 มม. กว้าง 1,818 มม. สูง 1,521 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,665 มม. พร้อมกับได้มีการปรับดีไซน์ด้านหน้าให้ดูโมเดิร์นกว่ารุ่นที่ผ่านมา เริ่มจากกระจังหน้าแบบปิดทึบ ตรงกลางเป็นช่องเสียบประจุชาร์จไฟ ในส่วนโลโก้ MG ถูกย้ายขึ้นไปอยู่ที่ฝากระโปรงหน้า ชุดไฟหน้า LED ทรงเรียวยาวที่มีถึง 80 ดวง พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ในส่วนกันชนหน้าถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ด้านข้างตัวถังยังมาในรูปแบบเดิม ปรับเปลี่ยนในส่วนล้ออัลลอยลายมีขนาด 16-17 นิ้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย นอกจากนั้นยังเพิ่มแร็คหลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 75 กก.
ด้านท้ายปรับเปลี่ยนลุคจากเดิมใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟท้ายขนาดใหญ่ ด้านในเป็นรูปตัว Y ที่มาในแนวนอนเชื่อมต่อให้ดูยาวถึงกันทั้ง 2 ฝั่งด้วยเส้นโครเมียมที่ประตูท้าย กันชนท้ายขนาดใหญ่ติดตั้งไฟทับทิมที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยม เติมลุคให้ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยสปอยเลอร์ หลังคาด้านท้ายมาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3
MG5 Electric 2022 ดีไซน์ภายใน
MG5 Electric 2022 ตกแต่งในแบบสีทูโทนที่ทาง MG เรียกว่า EcoBLUE พร้อมกับยังคงยึดจุดเด่นในเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง มาพร้อมกับเทคโนโลยี EV ล้ำสมัย แผงแดชบอร์ดบริเวณช่องแอร์ตกแต่งด้วยแถบสีฟ้า เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถพลังงงานไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันรูปแบบเดิม หน้าจอแสดงข้อมูลปรับเปลี่ยนใหม่เป็นแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ IPS HD แบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว ที่เอียงทำมุมให้หันเข้าหาผู้ขับขี่ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto มาพร้อมระบบ MG i-SMART เวอร์ชั่นใหม่ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารให้เข้ากับรถยนต์ สามารถสั่งการด้วยเสียง ระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติพร้อมตัวกรอง PM2.5
คอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัว ลดการใช้ปุ่มควบคุมต่าง ๆ มีเพียงที่ปรับเปลี่ยนเกียร์ที่เป็นแบบหมุน ในส่วนที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความกว้างขวางถึง 479 ลิตร สามารถขยายได้ถึง 1,367 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง
MG5 Electric 2022 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ด้านพละกำลังของ MG5 Electric 2022 จะมีพละกำลังให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน เริ่มจากในรุ่น Comfort ที่มากับแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate 50.3 kWh จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 130 kW หรือ 174 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็มจะวิ่งไกลสูงสุด 320 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ในด้านอัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใน 8.5 วินาที
ในรุ่น Luxury จะมากับแบตเตอรี่ Lithium Nickel Manganese Cobalt ขนาด 61.1 kWh ให้ระยะทางถึง 400 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าระดับความแรง 154 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ในด้านอัตราเร่งจาก 0-100 กม. ทำได้ 8.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสูดทั้ง 2 ขุมพลัง จะเท่ากันที่ 185 กม./ชม. นอกจากนี้ MG5 Electric 2022 ยังมีพละกำลังในการลากจูงอยู่ที่ 500 กก.
MG ZS EV 2022 ยังมากับระบบชาร์จเร็วที่ติดตั้งระบบ AC fast charging แบบ 3 เฟส ขนาด 11 kW ที่จะให้กำลังไฟฟ้าขนาด 30-80% ในเวลาเพียง 30 นาที ส่วนถ้าชาร์จไฟ AC ขนาด 7kW จะชาร์จเต็มในเวลา 9 ชม. และสามารถปล่อยกระแสไฟเพื่อชาร์จไฟอุปกรณ์ด้านนอกได้อีกด้วย
MG5 Electric 2022 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
MG5 Electric 2022 ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัย MG Pilot เต็มรูปแบบเหมือนรุ่นที่ผ่านมา เช่น ระบบควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ และปรับความเร็วอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และกล้อง 360 องศารอบคัน
ด้านราคาของทาง MG ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขออกมา เพียงแต่บอกว่าจะมีราคาที่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท และจะเริ่มลงโชว์รูมอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ส่วนในบ้านเรา MG EP 2021 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สเตชั่นแวกอนนั้นเพิ่งได้รับการเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2020 ในเวอร์ชั่นใหม่นี้คาดว่าคงต้องรอไปอีกสักระยะหนึ่ง
ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยมีอีกหลายคันที่น่าสนใจ ทั้ง ORA Good Cat จาก GWM ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ หรือจะเป็นพี่ใหญ่อย่าง Nissan Leaf และรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศเกาหลี อย่าง Kia Soul EV และ Hyundai Ioniq Electric ก็จัดว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้ทุกคัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mgmotor.eu
