รถยนต์อย่าง ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) ถือว่าเป็นรถระดับโกลบอลอีกรุ่น เพราะทำตลาดในตัวถังแบบเดียวกันในหลายประเทศ อาจมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และชุดเกียร์ นอกจากนี้แต่ละประเทศก็ยังใช้ชื่อทางการตลาดที่แตกต่างกัน เช่น ญี่ปุ่น เป็น ฮอนด้า เกรซ (Honda Grace) ที่แอฟริกาใต้ใช้ชื่อ ฮอนด้า บัลลาด (Honda Ballade) และอย่างประเทศจีนมีการร่วมทุนกับค่ายของจีน พัฒนาต่อโผล่มาอีกหลายรุ่น และหลายชื่อเรียกเช่นกัน
ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) ในญี่ปุ่นจะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมไปถึงใช้พลังงานทางเลือกอย่างระบบไฮบริด
ดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด "Solid Wing Face" เน้นรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย หรูหรามีระดับ ด้วยกระจังหน้าแบบแพลทินัม และไฟหน้า 4 ดวงแบบ LED
เราจึงนำภาพมาเทียบกันให้เห็นชัด ๆ ว่า ฮอนด้า ซิตี้ ไฮบริด (Honda City Hybrid ) จากญี่ปุ่น เทียบกับ ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) ไทยเหมือนและแตกต่างกันตรงไหนบ้าง
ด้านหน้า
ชุดโคมไฟหน้าดีไซน์เดียวกัน ญี่ปุ่นเป็นหลอด LED ไทยเป็นหลอดฮาโลเจน ความควบการกระจายแสงด้วยรีเฟลกเตอร์เหมือนกัน
ด้านข้าง
ด้านท้าย
เพียงจุดเดียวที่แตกต่างคือชุดไฟท้าย (ไม่นับสปอยเลอร์)
ส่องต่อที่ภายในห้องโดยสาร ขอบอกเลยว่าชุดฐานเกียร์ล้ำกว่าพอสมควร แถมยังมีแอร์สำหรับเบาะแถวหลังให้ด้วย
ภายในห้องโดยสารด้านหน้า และชุดคอนโซล
ชุดเรือนไมล์
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันมีลูกเล่นเยอะตามสเปค รวมไปถึงชุดเรื่องไมล์ที่ญี่ปุ่นจะใช้จอ TFT ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
ชุดฐานเกียร์
ฮอนด้า ซิตี้ ไฮบริด (Honda City Hybrid) เริ่มจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริด SPORT HYBRID Intelligent Dual Clutch Drive (i-DCD) แบบ Atkinson Cycle DOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ Dual Clutch ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ที่มีระบบควบคุมการทำงานแบบอัจฉริยะ (IPU) พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันสูงถึง 34.4 กม/ ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08mode ของประเทศญี่ปุ่น)
ซึ่งทีมกระปุกคาร์ก็ได้มีโอกาสทดสอบขับระยะสั้น ๆ ขอเล่าสู่กันฟังตามนี้ ในช่วงหยุดนิ่งและออกตัว รถเงียบในแบบฉบับไฮบริด ชอบสุดเป็นเรื่องฟีลลิ่งพวงมาลัยสมูทลื่นดี ระยะฟรีน้อย ทำให้การบังคับเลี้ยวไปดั่งใจเอามาก ๆ
ช่วงล่างจะแข็งกว่า ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) ของไทย เฟิร์มดีในจุดนี้ ชุดเกียร์ที่เป็น Intelligent Dual Clutch Drive (i-DCD) เมื่อกดคิกดาวน์รอบเครื่องจะพุ่งไปแตะประมาณ 5 พันรอบอย่างรวดเร็ว รถก็จะพุ่งแบบกระชากในทันที
แตกต่างกับของไทยที่เมื่อคิกดาวน์รถจะเร่งไปสักหน่อยแล้ว เข็มรอบเครื่องจะขึ้นช้ากว่า พุ่งเหมือนกันแต่แรงกระชากน้อยกว่า ด้านกำลังเครื่องยนต์ได้ทดสอบขึ้นทางชันประมาณ 45 องศาปล่อยให้รอบเดินเบาส่งกำลัง รถหยุดนิ่งและมีถอยเล็กน้อย
เทคโนโลยีความปลอดภัย ก็ไม่แตกต่างจากไทยมากนักเช่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย (G-CON) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ทั้งหมดเป็นการทดสอบสั้น ๆ พอให้รู้จักกัน ซึ่งมีเวลาประมาณ 10 นาที เท่านั้น แม้ฮอนด้าจะไม่บอกอะไรถึงจุดประสงค์ที่นำ ฮอนด้า ซิตี้ ไฮบริด (Honda City Hybrid) มาให้สื่อมวลชนมาให้ทดสอบ แต่หลังจากที่เข้าฟังแผนการ "แผนการ ฮอนด้า 2030 ฮอนด้าไทยรับลูก เตรียมคลอดรถไฮบริด พร้อมหลักบริหาร 3 เก็น" เริ่มเห็นความเชื่อมโยงกันบ้างไหมครับ...
สุดท้ายที่อยากบอกต่อ ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) เริ่มจำหน่ายในไทย 23 มกราคม 2557 ถึงเวลานี้ (พฤศจิกายน 2560) Life Cycle ของรถยนต์นั่ง จะทำตลาดประมาณ 5 ปี เท่ากับว่าเหลือเวลาประมาณ 2 ปี เราจะพบความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของรถ ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) อีกครั้งหนึ่ง
