สอบใบขับขี่รถยนต์ เตรียมตัวอย่างไร สอบท่าไหนบ้าง

          แนะนำขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์ สอบใบขับขี่รถยนต์ใช้อะไรบ้าง ท่าสอบ 3 ด่านเป็นยังไง เตรียมตัวก่อนไปสอบจริงจะได้ไม่ลำบาก

          สำหรับคนที่ต้องการขับรถยนต์จำเป็นต้อง สอบใบขับขี่รถยนต์ และได้รับใบขับขี่จากกรมการขนส่งทางบกเสียก่อน เพื่อเป็นการวัดระดับว่าคุณพร้อมแล้วสำหรับการใช้ท้องถนนร่วมกับผู้อื่น หากคนขับไม่มีใบขับขี่จะถือว่าผิดกฏหมายทุกกรณีและต้องได้รับบทลงโทษตามพระราชบัญญัติรถยนต์

          ทั้งนี้ การสอบใบขับขี่จะต้องทำตามขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้ และเตรียมเอกสารมาให้ครบถ้วน ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีสอบใบขับขี่รถยนต์มาแนะนำ เพื่อให้ทุกคนได้รู้กันก่อนและช่วยลดอาการตื่นสนามได้


จองคิวเพื่อเข้ารับการอบรม


          ปัจจุบันทางกรมการขนส่งทางบกได้มีการเปิดให้จองคิวอบรมใบขับขี่เพื่อสอบใบขับขี่ล่วงหน้าได้แล้ว ซึ่งจะมีการจองผ่านระบบอนไลน์ที่แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue (บางแห่งบังคับใช้แบบนี้เท่านั้น) หรือจองผ่านโทรศัพท์โดยตรง สามารถดูวิธีการจองที่นี้ได้เลย หรือจะอบรมใบขับขี่ออนไลน์มาก่อนก็ได้

ขั้นตอนและวิธี จองคิวทำใบขับขี่ 


เอกสารใช้สอบใบขับขี่รถยนต์


          - บัตรประชาชนตัวจริง
          - สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
          - ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
          - ใบรับรองการอบรม (กรณีผู้ทำการอบรมนอกกรมขนส่ง)

สอบใบขับขี่รถยนต์

เริ่มแรกการทดสอบสมรรถนะร่างกาย


          - ทดสอบตาบอดสี (เขียว-เหลือง-แดง)
          - ทดสอบสายตาทางลึก
          - ทดสอบสายตาทางกว้าง
          - ทดสอบการตอบสนองของเท้า

เข้ารับการอบรม 5 ชั่วโมง


          นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 กรมการขนส่งทางบก ได้มีการปรับเพิ่มชั่วโมงการอบรมสำหรับสอบใบขับขี่จาก 4 ชั่วโมงเป็น 5 ชั่วโมง โดยเสริมเนื้อหาเกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัย กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ประมาท มีความระมัดระวังมากขึ้น และสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติใช้ได้จริง


ข้อสอบใบขับขี่


          ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้มีการปรับปรุงเนื้อหาข้อสอบปรนัยใหม่ให้เป็นเชิงวิเคราะห์มากขึ้น เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและเหตุการณ์ฉุกเฉินในการขับขี่ ส่วนป้ายจราจรจะถูกลดลงเหลือแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

          โดยจะทำการสุ่มข้อสอบจำนวน 50 ข้อ มีให้เลือก ก-ง ซึ่งผู้เข้าสอบต้องทำให้ได้ร้อยละ 90 ของข้อสอบทั้งหมด หรือ 45 ข้อนั่นเอง และหากสอบไม่ผ่านเกณฑ์ ขั้นตอนทั้งหมดจะถูกหยุดลงและให้กลับมาสอบใหม่วันหลัง กำหนดเวลาไว้ไม่เกิน 90 วัน

ท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ กำหนดไว้ให้ 3 ด่าน ดังนี้


1. ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง


          ให้ขับรถในช่องเดินรถที่ระยะ 12 เมตร เดินหน้า 1 ครั้ง และถอยหลัง 1 ครั้ง โดยต้องไม่ขับชนหรือเบียดเสาหลัก ที่ตั้งวางเรียงกันทั้งซ้ายและขวา และอย่าให้เครื่องยนต์ดับในขณะทดสอบอยู่

สอบใบขับขี่รถยนต์

2. ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า


          ด้านซ้ายของตัวรถต้องจอดขนาน และห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 ซม. โดยจอดให้ล้อหน้าและหลัง ล้อทับเส้นสีที่กำหนด กันชนหน้ารถต้องไม่เกินจุดหยุดรถข้างทางและห่างจากเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร

สอบใบขับขี่รถยนต์

3. ขับรถถอยเข้าซอง


          ให้ขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่ชนหรือเบียดเสาในพื้นที่ที่กำหนด ตัวรถต้องขนานกับขอบทางหรือเสาหลักด้านซ้าย กระจกข้างต้องไม่ล้ำออกมาเกินเส้นที่กำหนด

          ด่านนี้มือใหม่มักจะสอบตกมากที่สุด ควรทดสอบฝึกฝนก่อนมาสอบ สำหรับรถที่มีกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง จะถูกเอาเทปกาวปิดทับ เพื่อได้ใช้ทักษะการขับรถเท่านั้น

แนะนำวิธี ถอยรถเข้าซอง พร้อมภาพเข้าใจง่าย มือใหม่ก็ไม่พลาด

สอบใบขับขี่รถยนต์

ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร


          ผู้ที่ขอรับใบขับขี่ใหม่จะต้องเสียค่าบริการดังนี้ ค่าคำขอ 5 บาท, ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท รวมทั้งสิ้น 205 บาท

          ค่าบริการขอรับใบขับขี่รถยนต์แบบ 5 ปี ค่าคำขอ 5 บาท, ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล 500 บาท รวมทั้งสิ้น 205 บาท

          สำหรับผู้ที่ต้องการ ต่อใบขับขี่ จะคิดค่าบริการเท่ากันตามประเภทที่ต่อ ส่วนคนที่ขาดต่อเกิน 1 - 3 ปีขึ้นไป จะต้องจองคิวเพื่อเข้ารับการอบรมและสอบปรนัยใหม่

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สอบใบขับขี่รถยนต์ เตรียมตัวอย่างไร สอบท่าไหนบ้าง อัปเดตล่าสุด 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16:02:46 804,739 อ่าน
TOP
x close