Mercedes Benz CLS Coupe ราคา เปิดตัว Mercedes CLS Shooting Brake หรูหราสวยงาม ไฟหน้า Multibeam LED แรงและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เริ่ม 4,490,000 บาท
4 กันยายน 2557
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
เปิดตัวยนตรกรรมหรูรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับ เมอร์เซเดส
เบนซ์ ซีแอลเอส คูเป้ (Mercedes Benz CLS Coupe) สปอร์ตหรู 4
ประตูโฉมใหม่และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส ชู้ตติ้ง เบรก (Mercedes Benz CLS
Shooting Brake) สปอร์ต 5 ประตู เอนกประสงค์กว่าเดิม
โฉมภายนอกของทั้งสองเรียกได้ว่าปรับปรุงใหม่เพิ่มความทันสมัยกว่าเดิม เส้นสายภายนอกเน้นความสวยงามพริ้วไหวตั้งแต่หน้าจรดท้าย ลงตัวกับรูปทรงเน้นความสปอร์ตอันเป็นจุดเด่นของรุ่นซีแอลเอส คลาส ด้านหน้าของรถใช้ดีไซน์แสดงความสปอร์ตตั้งแต่กระจังหน้าลายเพชรแบบใหม่และชิ้นกันชนที่สวยงาม ด้านข้างใช้เส้นต่อเนื่องจากด้านหน้าไปด้านหลังจรดที่ไฟท้ายรูปใบไม้สวยงาม สวมล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว รุ่น Coupe ออกแบบเสาหลังให้ลาดลงต่อเนื่อง ส่วนรุ่น Shooting Brake นำหลังคาและเสาหลังยกสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ใช้งานได้ประโยชน์มากขึ้น
จุดเด่นของทั้ง Mercedes Benz CLS ทั้งรุ่น Coupe และ Shooting Brake อยู่ที่การนำไฟหน้ารุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Multibeam LED มาใช้ เป็นระบบไฟส่องสว่างจากหลอดไฟ LED จำนวน 24 หลอด ส่องสว่างแยกกันได้อย่างอิสระ ทำงานร่วมกับกล้องอินฟราเรดตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ตัวไฟสามารถกำหนดทิศทาง ความสูง และระยะของแสงได้อย่างแม่นยำ เพื่อลดแสงที่สองไปรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทาง ทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนร่วมกัน แถมยังส่องสว่างได้ชัดเจนกว่าเดิม ไฟหน้าระบบดังกล่าวมีในรุ่น CLS Coupe AMG Premium และ CLS Shooting Brake AMG Premium
ภายในของรถใช้ดีไซน์ที่หรูหรา ผสานความสปอร์ตอันลงตัวของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นฐานแบน หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธนอกจากนี้สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้แต่รถต้องไม่เคลื่อนที่ พร้อมปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง รุ่น Coupe มาพร้อมเบาะนั่งจำนวน 4 ที่นั่ง ส่วนรุ่น Shooting Brake มี 5 ที่นั่ง สามารถพับได้ทั้งหมดหรือแบบ 1/3 หรือ 2/3
ระบบขับเคลื่อนทุกรุ่นได้เครื่องยนต์ CDI เบนซินเทอร์โบคู่ ขนาด 2,143 ซีซี ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 7GTronic 7 สปีด รุ่น Coupe มีความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 7.5 วินาที ส่วนรุ่น Shooting Brake ทำได้ 7.8 วินาที ด้านความเร็วสูงสุด Coupe เร็วกว่าเล็กน้อยที่ 242 กม./ชม. ส่วน Shooting Brake ทำได้ 235 กม./ชม. อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย Coupe ทำได้ 15.6 กม/ลิตร ส่วน Shooting Brake ได้ 15.9 กม./ลิตร
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยยังคงจัดมาให้เต็ม ๆ โดยมีทั้งถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ระบบเบรก ABS BAS ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมระบบควบคุมความเร็ว Speedtronic และระบบตัววัดพร้อมเตือนเมื่อผู้ขับเกิดอาการเหนื่อยล้า
ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังและสีชุดแต่งภายในได้อย่างอิสระ โดยมีสีตัวถังให้เลือกมากถึง 11 สี เป็นสีพิเศษของรุ่นถึง 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาลด้าน สีขาว และสีแดง ภายในเลือกสีเบาะนั่งได้ถึง 7 สี มีสีพิเศษจาก Designo ถึง 2 สี ได้แก่สีทูโทนน้ำตาล-เบจและสีทูโทนแดง-ดำ พร้อมกับเลือกลายไม้ได้ถึง 5 ลาย
Mercedes Benz CLS Class มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- CLS 250 CDI Coupe Exclusive ราคา 4,490,000 บาท
- CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 4,990,000 บาท
- CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5,090,000 บาท
โดยจะพร้อมส่งมอบรถภายในเดือนตุลาคมนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้แล้วที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ
โฉมภายนอกของทั้งสองเรียกได้ว่าปรับปรุงใหม่เพิ่มความทันสมัยกว่าเดิม เส้นสายภายนอกเน้นความสวยงามพริ้วไหวตั้งแต่หน้าจรดท้าย ลงตัวกับรูปทรงเน้นความสปอร์ตอันเป็นจุดเด่นของรุ่นซีแอลเอส คลาส ด้านหน้าของรถใช้ดีไซน์แสดงความสปอร์ตตั้งแต่กระจังหน้าลายเพชรแบบใหม่และชิ้นกันชนที่สวยงาม ด้านข้างใช้เส้นต่อเนื่องจากด้านหน้าไปด้านหลังจรดที่ไฟท้ายรูปใบไม้สวยงาม สวมล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว รุ่น Coupe ออกแบบเสาหลังให้ลาดลงต่อเนื่อง ส่วนรุ่น Shooting Brake นำหลังคาและเสาหลังยกสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ใช้งานได้ประโยชน์มากขึ้น
จุดเด่นของทั้ง Mercedes Benz CLS ทั้งรุ่น Coupe และ Shooting Brake อยู่ที่การนำไฟหน้ารุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Multibeam LED มาใช้ เป็นระบบไฟส่องสว่างจากหลอดไฟ LED จำนวน 24 หลอด ส่องสว่างแยกกันได้อย่างอิสระ ทำงานร่วมกับกล้องอินฟราเรดตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ตัวไฟสามารถกำหนดทิศทาง ความสูง และระยะของแสงได้อย่างแม่นยำ เพื่อลดแสงที่สองไปรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทาง ทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนร่วมกัน แถมยังส่องสว่างได้ชัดเจนกว่าเดิม ไฟหน้าระบบดังกล่าวมีในรุ่น CLS Coupe AMG Premium และ CLS Shooting Brake AMG Premium
ภายในของรถใช้ดีไซน์ที่หรูหรา ผสานความสปอร์ตอันลงตัวของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นฐานแบน หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธนอกจากนี้สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้แต่รถต้องไม่เคลื่อนที่ พร้อมปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง รุ่น Coupe มาพร้อมเบาะนั่งจำนวน 4 ที่นั่ง ส่วนรุ่น Shooting Brake มี 5 ที่นั่ง สามารถพับได้ทั้งหมดหรือแบบ 1/3 หรือ 2/3
ระบบขับเคลื่อนทุกรุ่นได้เครื่องยนต์ CDI เบนซินเทอร์โบคู่ ขนาด 2,143 ซีซี ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 7GTronic 7 สปีด รุ่น Coupe มีความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 7.5 วินาที ส่วนรุ่น Shooting Brake ทำได้ 7.8 วินาที ด้านความเร็วสูงสุด Coupe เร็วกว่าเล็กน้อยที่ 242 กม./ชม. ส่วน Shooting Brake ทำได้ 235 กม./ชม. อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย Coupe ทำได้ 15.6 กม/ลิตร ส่วน Shooting Brake ได้ 15.9 กม./ลิตร
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยยังคงจัดมาให้เต็ม ๆ โดยมีทั้งถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ระบบเบรก ABS BAS ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมระบบควบคุมความเร็ว Speedtronic และระบบตัววัดพร้อมเตือนเมื่อผู้ขับเกิดอาการเหนื่อยล้า
ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังและสีชุดแต่งภายในได้อย่างอิสระ โดยมีสีตัวถังให้เลือกมากถึง 11 สี เป็นสีพิเศษของรุ่นถึง 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาลด้าน สีขาว และสีแดง ภายในเลือกสีเบาะนั่งได้ถึง 7 สี มีสีพิเศษจาก Designo ถึง 2 สี ได้แก่สีทูโทนน้ำตาล-เบจและสีทูโทนแดง-ดำ พร้อมกับเลือกลายไม้ได้ถึง 5 ลาย
Mercedes Benz CLS Class มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- CLS 250 CDI Coupe Exclusive ราคา 4,490,000 บาท
- CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 4,990,000 บาท
- CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5,090,000 บาท
โดยจะพร้อมส่งมอบรถภายในเดือนตุลาคมนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้แล้วที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ