เห็นทีว่ารถประเภทเอสยูวี (SUV) คันโตที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ซดน้ำมันราวกับถังรั่วจะกลายเป็นของสงวนสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มในอนาคตอันใกล้ไปเสียแล้ว
เพราะปัจจุบันค่ายรถยนต์ตัวท็อปของวงการล้วนหันมาอาศัยตัวช่วยอย่างเครื่องยนต์คลีนดีเซลหรือพลังงานจากไฟฟ้าเพื่อลบคำครหาว่าใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง อีกทั้งยังปล่อยมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อมเกินความจำเป็น และที่สำคัญยังทำตัวเป็นมิตรกับผู้เป็นเจ้าของด้วยอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นมาก
หนึ่งในนั้นก็คือ บีเอ็มดับเบิล เอ็กซ์ 5 เอ็กซ์ไดรฟ์ 40 อี (BMW X5 xDrive 40e) ที่มาเปิดตัวให้คนไทยได้สัมผัสกับรถเอสยูวีขุมพลังไฟฟ้าแบบ Plug-In ไฮบริด ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 230 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์ (113 แรงม้า) และแรงบิดในสภาวะรวม 450 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive
ให้สมรรถนะคล่องตัวในทุกโหมดการขับขี่ อีกทั้งยังวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร (โดยประมาณ) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 31.3 กม./ลิตร ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 76 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งค่าดังกล่าวทดสอบโดย BMW ภายใต้ความเร็วที่กำหนด ซึ่งหากนำมาใช้งานจริงอาจแตกต่างไปตามสภาพการใช้งาน
ส่วนการออกแบบภายนอกยังเหมือนกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามและให้อรรถประโยชน์ตามแบบรถในสายพันธุ์ X ด้านหน้ามีกระจังหน้าไตคู่ตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยูในรูปทรงที่แบนและกว้าง ช่วยสร้างบุคลิกปราดเปรียวและน่าเกรงขามให้กับตัวรถ กระจังหน้าไตคู่และไฟหน้าผสานเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างกลมกลืน
กันชนหน้าออกแบบให้มีช่องรับลมขนาดใหญ่ Air Curtain และ Air Breather แบบใหม่ที่ซุ้มล้อหน้าช่วยตอกย้ำความเป็นรถสปอร์ตพร้อมลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อย CO2 ทางด้านท้ายรถมีรูปทรงที่ลู่ลม โดย Air Blade ที่เสากระจกหลังช่วยให้รถดูกว้างกว่าเดิมและช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารของ BMW X5 xDrive 40e ยังคงแฝงไว้ด้วยความสง่างามน่าประทับใจด้วยการใช้เส้นสายแนวนอนและสันนูนช่วยเสริมความรู้สึกโอ่อ่าและวัสดุคุณภาพสูงรวมถึงผิวสัมผัสที่ดี
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกวัสดุหุ้มเบาะและสีสันได้หลากหลาย พร้อมทั้งไฟเรืองแสง Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในของ BMW X5 xDrive 40e ได้อย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญคือทัศนวิสัยของตำแหน่งเบาะนั่งคนขับและเบาะหน้าเป็นเบาะแบบปรับด้วยไฟฟ้ายกสูงตามแบบฉบับ BMW ในตระกูล X ช่วยให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าอย่างชัดเจนและยังนั่งสบายช่วยให้ขับขี่ได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
อุปกรณ์ควบคุมทั้งหมดติดตั้งโดยหันเข้าหาคนขับ รวมถึงปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะพร้อมระบบสัมผัส iDrive ใหม่พร้อมระบบนำทางรุ่น Professional และจอ Control Display แบบลอยตัว กระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อนอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สำหรับใครที่ชื่นชอบความสปอร์ต หรูหราและอเนกประสงค์ในแบบของ BMW รวมถึงใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าแต่ไม่ชอบเครื่องยนต์ดีเซลก็ลองไปสัมผัสตัวจริงของ BMW X5 xDrive 40e ก่อนได้ โดย BMW Thailand ตั้งราคาไว้ที่ 5,399,000 บาท