ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรก็ตาม "การขับรถ" กำลังจะกลายเป็นกิจกรรมที่ล้าสมัยไปแล้วเพราะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ๆ ทั่วโลกต่างพากันแข่งขันและพัฒนารถยนต์ของตนเองให้สามารถวิ่งได้โดยไร้คนขับ ซึ่งย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน Elon Musk ผู้บริหารสูงสุดของ Tesla ได้ทวีตข้อความสั้น ๆ ว่า Tesla จะมีเรื่องน่าตื่นเต้นบางอย่างเกิดขึ้น (อย่างน้อยก็สำหรับลูกค้าของ Tesla) ด้วยการปล่อยอัพเดทซอฟต์แวร์ เวอร์ชั่น 7.0 ที่มาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติในวันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
นอกจาก Elon Musk จะเป็นประธานผู้ก่อตั้งรถยนต์พลังไฟฟ้าสุดล้ำอย่าง Tesla แล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดระบบการชำระเงินออนไลน์ (Payment Gateway) อย่าง Paypal จนแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งหากนี่ยังไม่สามารถทำให้เชื่อมั่นได้ว่า Elon Musk อัจฉริยะมากพอจะสร้างรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติได้อย่างน่าไว้วางใจแล้วละก็ การเป็นผู้บริหารสูงสุดของ SpaceX ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยานอวกาศน่าจะช่วยสร้างความมั่นใจว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากพอสำหรับ Tesla Model S
ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Auto Pilot) ที่มีใน Tesla Software Version 7.0 จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ Tesla Model S อย่าง กล้องเรดาร์, อัลตราโซนิค เซ็นเซอร์ระยะไกลและฐานข้อมูล ซึ่งทั้งหมดจำเป็นสำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติบนถนนอย่างการเปลี่ยนเลน เร่งความเร็วรถตามสภาพการจราจร
และเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง Tesla Model S จะทำการสแกนหาที่ว่างพอสำหรับการจอดตามคำสั่งของผู้ขับขี่โดยอัตโนมัติ โดยรายละเอียดของระบบต่าง ๆ มีดังนี้
ระบบพวงมาลัยอัตโนมัติ เวอร์ชั่นทดสอบ (Autosteer Beta Version)
ระบบพวงมาลัยอัตโนมัติจะช่วยในการรักษาช่องทางขณะขับขี่ร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control เพื่อรักษาความเร็ว ด้วยอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณหลายจุดรวมถึงองศาของพวงมาลัยรถ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถได้ง่ายขึ้น โดยระบบพวงมาลัยอัตโนมัติตอนนี้ยังจำเป็นต้องวางมืออยู่บนพวงมาลัยร่วมด้วย
ระบบเปลี่ยนช่องทางอัตโนมัติ (Auto Lane Changing)
เป็นระบบที่ทำงานร่วมกับ Autosteer โดยเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว รถ Tesla Model S ก็จะทำการเปลี่ยนจากช่องทางที่วิ่งอยู่ไปยังช่องทางข้าง ๆ ได้ด้วยตัวเองเมื่อระบบตรวจสอบว่าปลอดภัย
ระบบเตือนการชนด้านข้าง (Automatic Emergency Steering and Side Collision Warning)
ระบบเตือนการชนด้านข้างเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วยอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณรอบตัวรถ และจะทำการเตือนผู้ขับขี่หากจะมีการชนกับวัตถุที่กีดขวางอย่างเช่น รถยนต์คันอื่นที่อยู่ใกล้มากเกินไป จะส่งสัญญาณเตือนเป็นภาพและเสียงให้ผู้ขับขี่ได้เห็นจากจอมอนิเตอร์
ระบบจอดรถอัตโนมัติ (Autopark)
แม้ว่าจะไม่ใช่ระบบที่แปลกใหม่ในรถยนต์ยุคนี้ แต่ Tesla Model S ก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่สามารถถอยจอดในช่องจอดที่ขนานกับขอบทางได้อัตโนมัติ โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำเท่านั้น และเมื่อสัญลักษณ์ "P" ปรากฏขึ้นที่หน้าจอนั่นหมายความว่ารถพบช่องจอดที่ระบบสามารถนำ Tesla Model S เข้าจอดได้อย่างอัตโนมัติ
หากผู้ขับขี่เลือกใช้งานระบบดังกล่าวโดยกดยืนยันที่หน้าจอแสดงผล ระบบก็จะเริ่มต้นการทำงานโดยนำรถเข้าจอดโดยอัตโนมัติพร้อมแสดงภาพบนจอแสดงผลให้ผู้ขับขี่ได้เห็น
แม้ว่าหลายคนจะแอบหวังว่าระบบ Autopilot จะสามารถแสดงความสามารถได้มากกว่านี้ ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่าจริง ๆ แล้วมันทำได้แน่นอนเพียงแต่ปัจจัยภายนอกอาจจะยังไม่อำนวยให้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ และเมื่อถึงตอนนั้นสิ่งที่ต้องทำคือต่ออินเทอร์เน็ตและกดอัพเดทซอฟต์แวร์แบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนเท่านั้น
ภาพจาก teslamotors