รถสปอร์ต (Sport Car) นั้นเกิดมาจากรถที่ใช้ในการแข่งขันกีฬายานยนต์ จึงกลายเป็นชื่อเรียกของประเภทรถที่เน้นสมรรถนะและการขับขี่ได้รวดเร็ว รูปทรงปราดเปรียว ซึ่งในปัจจุบันรถสปอร์ตส่วนใหญ่ได้รับความนิยมลดลงจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องของราคา เราจึงได้รวบรวมรถสปอร์ตจากฝั่งเอเชียที่ยังคงมีจำหน่ายผ่านตัวแทนอย่างเป็นทางการซึ่งมีทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน แม้ในบางรุ่นอาจไม่ใช่สปอร์ตพันธุ์แท้แต่น่าจะช่วยให้ได้ความรู้สึกของการขับขี่แบบรถสปอร์ตไม่มากก็น้อย
Honda CR-Z : รถสปอร์ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ราคา 1,975,000 บาท
ผู้สืบทอดความสำเร็จของ Honda CR-X จากยุค 80-90 ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกับ Honda Civic ก่อนที่รุ่นสุดท้าย Honda CR-X Del sol จะเลิกทำตลาดเมื่อปี 1998 เนื่องจากกระแสความนิยมรถสปอร์ตลดลงอย่างมาก
Honda CR-Z กลับมาทำตลาดอีกครั้งในฐานะรถสปอร์ตขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Motor Assist (IMA) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและสมรรถนะ ซึ่ง Honda CR-Z มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ล้ำสมัยแปลกตา โดยใช้ฐานล้อกว้าง ระยะห่างจากล้อหน้าและหลังสั้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อการขับขี่ที่คล่องแคล่วและแม่นยำ
ขุมพลังของ Honda CR-Z มาจากเครื่องยนต์ SOHC ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC ให้กำลัง 111 แรงม้า แรงบิด 144 นิวตันเมตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า IMA ที่เสริมกำลังเครื่องยนต์อีก 13 แรงม้า และแรงบิด 92 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
ซึ่งตัวรถมีน้ำหนัก 1,180 กิโลกรัม ส่งผลให้ค่าเฉลี่ย 1 แรงม้าแบกน้ำหนักเพียง 9.5 กิโลกรัมเท่านั้น
ปัจจุบัน Honda CR-Z ยังคงมีจำหน่ายแบบนำเข้าทั้งคันโดยฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ตั้งราคาไว้ที่ 1,975,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : honda
Hyundai Veloster : สปอร์ตสายพันธุ์ใหม่สไตล์อินดี้ : ราคาเริ่ม 1,299,000 บาท
Hyundai Veloster รถสปอร์ตสายพันธุ์ใหม่อีกหนึ่งรุ่นที่พยายามผสานความเป็นรถสปอร์ตเข้ากับการใช้งานที่อเนกประสงค์แบบรถแฮตช์แบ็กภายใต้ปรัชญาการออกแบบตามหลัก Fluidic Sculpture โดยมีความพิเศษอยู่ที่ประตูแบบ 2+1 ซึ่งประตูที่เพิ่มมา 1 บานนี้จะติดตั้งอยู่ฝั่งซ้ายสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพียงฝั่งเดียว โดยซ่อนมือจับเปิดประตูไว้อย่างแนบเนียนที่ขอบกระจก ส่วนด้านท้ายสามารถเปิดได้ทั้งบานแบบรถแฮตช์แบ็ก
สำหรับ Hyundai Veloster มีให้เลือก 2 ระดับความแรงจากเครื่องยนต์ ขนาด 1.6 ลิตร DOCH ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 157 นิวตันเมตร ที่ 4,850 รอบ/นาที ส่วนรุ่น Veloster Turbo จะใช้เครื่องยนต์แบบหัวฉีดตรง ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 186 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 265 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที
ทางฮุนได ประเทศไทย ได้ตั้งราคาจำหน่ายรุ่น Veloster ไว้ที่ 1,299,000 บาท และ Veloster Turbo 1,739,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : hyundai-motor
KIA Cerato Koup : คอมแพกต์มาดสปอร์ต : ราคา 999,000 บาท
จริง ๆ แล้วมันอาจไม่ใช่รถสปอร์ต ซึ่ง Kia Cerato Koup/ Forte Koup เป็นรถแบบคอมแพกต์ที่มี 2 ประตู และในต่างประเทศยังมีตัวถังแบบ 4 ประตู ซีดาน รวมถึง 5 ประตู แฮตช์แบ็กให้เลือกอีกด้วย แต่มันคืออีกหนึ่งตัวอย่างของรถยุคใหม่ที่พยายามใส่ความเป็นสปอร์ตให้กับรถแบบต่าง ๆ ของตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่จริง ๆ แล้วยังคงชื่นชอบรถสปอร์ตที่ดูปราดเปรียวทันสมัย โดย Kia Cerato Koup/ Forte Koup ออกแบบ
กระจกบังลมหน้ามีแนวเสาที่เอนลาดมากกว่าปกติรวมถึงไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยวต่อเนื่องจากกระจังหน้าแบบ Tiger-Nose อันเป็นเอกลักษณ์ของ Kia เพิ่มความดุดันด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่ที่กันชนหน้าประกบด้วยไฟตัดหมอกทรงกลมทั้ง 2 ด้าน ซึ่งมันก็พอจะทดแทนและให้ความรู้สึกสปอร์ตได้บ้าง
Kia Cerato Koup/ Forte Koup ที่จำหน่ายในไทยใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 161 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 194 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่วนราคาจำหน่ายทาง Yontrakit Kia Motors ระบุไว้เพียงรุ่นเดียว ราคาเดียว คือ 999,000 บาท หากใครสนใจก็คงต้องลองสอบถามเพิ่มเติมดูครับ
ภาพและที่มาจาก : kia
Mazda MX-5 : ผู้ครองตำแหน่งสปอร์ตโรดสเตอร์ขายดีที่สุดในโลก : ราคเริ่ม 2,640,000 บาท
Mazda MX-5 คือรถสปอร์ตโรดสเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ซึ่งเน้นการขับขี่สนุกสนานมากกว่าการเป็นรถสปอร์ตพลังแรง โดยในไทยยังคงจำหน่าย Mazda MX-5 โฉมที่ 3 รหัสตัวถัง NC โดยมีการออกแบบที่หวนกลับไปสู่ความเรียบง่ายลงตัวในโฉมแรก แต่ได้ใส่รายละเอียดให้ดูทันสมัยและเฉียบคมกว่าเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "จินบะ อิไต" ซึ่งปัจจุบัน Mazda MX-5 ได้มีการเปิดตัวรุ่นที่ 4 (รหัสตัวถัง ND) ที่ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แอบกระซิบว่ามอเตอร์โชว์ 2016 ขายแน่)
สำหรับ Mazda MX-5 รุ่นที่ 3 ที่ยังจำหน่ายในบ้านเราตอนนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซี.ซี. DOHC วาล์วแปรผัน VVT ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 6,700 รอบ/นาที แรงบิด 188 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
มาสด้า ประเทศไทย ตั้งราคาจำหน่าย Mazda MX-5 (รุ่นที่ 3 รหัสตัวถัง NC) สำหรับรุ่น Premium Standard อยู่ที่ 2,640,000 บาท และรุ่น Premium Black Edition 2,690,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : mazda
Subaru BRZ : สปอร์ตคาร์ฝาแฝด Toyota 86 : ราคาเริ่ม 2,080,000 บาท
Subaru BRZ รถสปอร์ตที่เกิดจากการร่วมมือกับ Toyota ทำให้มันมีคู่แฝดอย่าง Toyota 86 โดยชื่อรุ่น BRZ เกิดจากอักษร 3 ตัวคือ B แทนเครื่องยนต์ Boxer เปรียบเสมือน Signature ของ Subaru ตัว R หมายถึง Rear Wheel Drive ใช้ระบบตัวขับเคลื่อนล้อหลัง และ Z ตัวสุดท้ายหมายถึง Zenith หรือความสุดยอดเพื่อบอกว่า Subaru BRZ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสุดยอดรถสปอร์ตที่ใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์และขับเคลื่อนล้อหลังอะไรประมาณนั้น
โดยจุดสังเกตภายนอกของ Subaru BRZ ที่แตกต่างจาก Toyota 86 มีเพียงรายละเอียดบางจุดเช่น ช่องดักอากาศทั้ง 3 จุดที่กันชนด้านหน้า ช่องระบาย อากาศที่บังโคลนหน้ารูปตัว C รวมถึงสปอยเลอร์หลังที่เตี้ยกว่า
เครื่องยนต์ที่ประจำการใน Subaru BRZ เป็นแบบ Boxer หัวฉีดตรง ความจุ 2.0 ลิตร DOHC ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิด 205 นิวตันเมตร ที่ 6,400-6,600 รอบ/นาที ถือเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งของ Subaru BRZ นอกจากจะมีเรี่ยวแรงดีแล้ว เครื่องยนต์ Boxer ที่มีลูกสูบแนวนอนยังทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเครื่องยนต์ปกติเพื่อเสถียรภาพและความคล่องตัวขณะขับขี่
มอเตอร์ อิมเมจ ประเทศไทย ตั้งราคาจำหน่ายของ Subaru BRZ เกียร์ธรรมดา 2,080,000 บาท เกียร์อัตโนมัติ 2,130,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : subaru
Subaru WRX STI : จิตวิญญาณจากสนามแข่งแรลลี่ : ราคา 3,350,000 บาท
Subaru WRX STi เป็นรถอีก 1 คัน ที่อาจจะขัดแย้งกับความเป็นรถสปอร์ตในแง่ของรูปลักษณ์ด้วยการเป็นรถแบบ 4 ประตู แต่ด้วยความที่ Subaru WRX STi นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการแข่งขันแรลลี่โดยตรง ทำให้เรานำมันเข้ามารวมในกลุ่มรถสปอร์ตที่มีจำหน่ายในไทยในแง่ของสมรรถนะและการขับขี่แบบสปอร์ตพันธุ์แท้
ตัวอักษร WRX นั้นย่อมาจาก Word Rally eXperimental หรือ World Rally Cross(X) ถูกนำมาใช้กับรุ่น Impreza ที่โมดิฟายให้แรงกว่าปกติ ซึ่งต่อมาได้เพิ่มความแรงและสมรรถนะไปอีกขั้นจากการปรับแต่งของ Subaru Tecnica International(STi) จนกลายเป็นตำนานรถถนนสมรรถนะสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีจิตวิญญาณของรถแข่งแรลลี่
ปัจจุบัน WRX STi ได้แยกรุ่นออกมาจาก Impreza ในฐานะรถยนต์สมรรถนะสูงของค่าย โดยติดตั้งเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแบบกำลังอัดสูงพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 407 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดย Subaru WRX STi ได้ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 3,350,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : subaru
Toyota 86 : รถสปอร์ตที่ได้แรงบันดาลใจจากรถส่งเต้าหู้ในตำนาน : ราคาเริ่ม 2,490,000 บาท
อย่างที่ทราบกันดีว่ามันคือฝาแฝดของ Subaru BRZ ซึ่ง Toyota 86 ได้สืบทอดแนวคิดการเป็นรถสปอร์ตน้ำหนักเบาต่อจาก Toyota Corolla Levin/ Sprinter Trueno (AE86) ในยุค 80 ซึ่งคำว่า Trueno มาจากภาษาสเปนที่แปลว่า Thunder ส่วน Levin มาจากภาษาอังกฤษ ในยุคกลางซึ่งแปลว่า Lightning ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกันคือ สายฟ้า และฟ้าร้อง เพื่อสื่อถึงความรวดเร็วดุจสายฟ้า
ความโด่งดังของ Toyota Sprinter Trueno(AE86) กลับมาอีกครั้งจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Initial D ซึ่งทาคุมิตัวเอกของเรื่อง ได้นำรถ Toyota Trueno Apex Hatchback ของพ่อมาขับแข่งลงเขาอากินะขณะส่งเต้าหู้ จากความสำเร็จของการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้ Toyota Trueno AE86 ไปปรากฏอยู่ในเกมชื่อดังอีกหลายเกมในเวลาต่อมา
และที่กล่าวมาอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิด Toyota 86 ในปัจจุบัน เมื่อ Toyota มีแผนจะกลับมาผลิตรถสปอร์ตขนาดเล็กจำหน่ายอีกครั้ง อย่างไรก็ตามดีไซน์ภายนอกมันกลับได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตพันธุ์แท้อย่าง Toyota 2000GT ในปี 1967 ที่คลาสสิกและสวยงามมากกว่าจากการออกแบบด้วยโปรไฟล์ตัวถังที่ต่ำ ฝากระโปรงหน้ายาว ท้ายสั้น ซึ่งถูกถ่ายทอด DNA มายัง Toyota 86 ด้วยแนวการลากเส้นขอบประตูทั้งสองด้าน เส้นกระจกโอเปร่า ส่วนบังโคลนหน้าและหลังรวมไปถึงไฟท้ายทรงกลมในกรอบแนวนอน
Toyota 86 ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกับ Subaru BRZ แบบ Boxer 4 สูบนอน หัวฉีดตรง ขนาดความจุ 2.0 ลิตร DOHC ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิด 205 นิวตันเมตร ที่ 6,400 รอบ/นาที ผ่านเกียร์ 6 จังหวะ ที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ตั้งราคาจำหน่ายของ Toyota 86 แบ่งออกเป็น 2 เกรดคือ Top Grade เกียร์อัตโนมัติ ราคา 2,740,000 บาท และ STD Grade แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยคือเกียร์อัตโนมัติราคา 2,560,000 บาท และเกียร์ธรรมดา ราคา 2,490,000 บาท
ภาพและที่มาจาก : toyota
แม้ว่ารถสปอร์ตสายพันธุ์เอเชียที่จำหน่ายโดยตัวแทนอย่างเป็นทางการในไทยจะเหลืออยู่เพียง 7 รุ่นให้เลือก และบางรุ่นอาจไม่ใช่รถสปอร์ตแท้ ๆ ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ได้พยายามถ่ายทอดบุคลิกการขับขี่และเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตไปยังรถประเภทต่าง ๆ ด้วยคำว่า "สปอร์ต" เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งแสดงให้เห็นว่ารถสปอร์ตยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในรูปแบบที่เปลี่ยนไปตามสภาพเศรษฐกิจและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
