สรุปขั้นตอนการและการเตรียมเอกสารสำหรับจดทะเบียนรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือรถรับจ้างส่วนบุคคลป้ายขาวทำอย่างไรเช็กได้เลย

การจดทะเบียนรถรับจ้างในปัจจุบัน โดยเฉพาะรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เช่น Grab, Bolt, Hello Phuket Service, Asia Cab, Robinhood, Air Asia SuperApp และ Bonku เป็นต้น มีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งรวมถึงการมีใบขับขี่สาธารณะ และการนำรถไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
จดทะเบียนรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
มีขั้นตอนอย่างไร
(สำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน)
1. เอกสารที่ต้องเตรียม
-
ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
-
เล่มทะเบียนรถหรือสำเนาเล่มทะเบียนรถ
-
หนังสือรับรองจากผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน
-
บัตรประชาชน/ ทะเบียนบ้าน
-
หลักฐานการทำประกันภัยรถยนต์สาธารณะ
-
กรณีรถติดไฟแนนซ์ต้องใช้เอกสารเพิ่ม เช่น หนังสือรับรองจากบริษัทไฟแนนซ์, หนังสือมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์
-
กรณีไม่ใช่เจ้าของรถต้องมีหนังสือรับรองความสัมพันธ์หรือหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ.
2. ติดต่อผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน
-
กรอกแบบฟอร์มขอเอกสารจากผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน
-
ตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบก
-
หากเป็นผู้ให้บริการในกรุงเทพฯ สามารถจองตรวจสภาพรถได้จากแบบฟอร์มขอเอกสาร
3. ดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบก
-
นำรถตรวจสภาพรถตามวันและเวลานัดหมาย
-
ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียม
-
รอรับป้ายทะเบียนและเครื่องหมายแสดงการเป็นรถยนต์รับจ้าง.
-
หากนำรถส่วนบุคคลมารับจ้างรับ-ส่งผู้โดยสารโดยไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
-
รถยนต์จะจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 9 ปี นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก
-
ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่สาธารณะและผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
-
รถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ต้องติดเครื่องหมายแสดงการเป็นรถยนต์รับจ้างในตำแหน่งที่เห็นได้ชัด
-
รถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองด้วย
อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบรายละเอียดและข้อกำหนดล่าสุดกับกรมการขนส่งทางบกหรือบริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชันโดยตรง
บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน่ารู้รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : legal.dlt.go.th