เปิดไฟฉุกเฉินขับรถขณะฝนตกหนักเป็นการใช้งานที่ผิดวิธี เสี่ยงอันตราย และไม่ควรทำโดยเด็ดขาดเพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้
เมื่อฝนตกหนักขณะขับรถ มองเห็นทางหรือรถยนต์คันอื่น ๆ ได้ไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่หลายรายจึงเลือกที่จะเปิดไฟฉุกเฉินขับรถ โดยหวังว่าสัญญาณไฟดังกล่าวสามารถแสดงตำแหน่งเพื่อให้รถคนอื่นมองเห็นรถของตนเองได้ชัดเจน ไม่ให้รถคันอื่นขับมาชน และทำตาม ๆ กันไป แต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ ใครทำอยู่ควรเลิกโดยเด็ดขาด เพราะอะไรไปดูกัน
การเปิดไฟฉุกเฉินที่ถูกต้องควรใช้ตอนไหน
เพราะไฟฉุกเฉิน หรือไฟ hazard และที่คนไทยส่วนหนึ่งนิยมเรียกว่า ไฟผ่าหมาก ซึ่งลักษณะของสัญญาณไฟคือ ไฟเลี้ยวทุกดวงจะกะพริบพร้อมกัน มีไว้ใช้งานเฉพาะยามฉุกเฉินเท่านั้น เช่น กรณีรถจอดข้างทาง เสีย หรือเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงรถที่มีเหตุฉุกเฉินให้ต้องจอดกะทันหัน เพื่อให้รถคันที่วิ่งมาจากด้านหลังสังเกตเห็นเพื่อชะลอความเร็วและหลบเลี่ยงได้
เหตุใดห้ามเปิดไฟฉุกเฉินขณะขับรถ
การเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ เช่น ตอนฝนตกหนักเป็นประจำหลาย ๆ คัน อาจทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่นเกิดความเคยชิน สับสน และแยกไม่ได้ว่าเป็นรถเสียไม่สามารถวิ่งได้ต้องหลบเลี่ยง หรือรถปกติที่กำลังวิ่งอยู่ เสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
นอกจากนี้ในยามขับขี่ปกติที่ฝนไม่ตกก็ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินด้วยเช่นกัน ที่พบเห็นได้บ่อยคือ การเปิดไฟฉุกเฉินขณะข้ามแยกเพื่อจะไปทางตรง เป็นการขับรถที่ผิดวิธี เกิดจากการคิดเอาเองและทำตาม ๆ กัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้มาก เนื่องจากรถที่มาจากด้านซ้ายจะเข้าใจว่าต้องการเลี้ยวซ้าย เป็นต้น
ฝนตกเปิดไฟอะไรแทนไฟฉุกเฉิน
กรณีฝน ควรเปิดไฟใหญ่เหมือนตอนกลางคืน ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช้ความเร็ว รวมถึงเผื่อระยะให้มากพอสำหรับเบรกกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ชัดเจนและอาจถนนลื่นกว่าปกติ หากฝนตกหนักสามารถเปิดไฟตัดหมอกหลังแทน หากมองไม่เห็นทางจริง ๆ ควรจอดหลบในที่ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแล้วค่อยเปิดไฟฉุกเฉิน
ไฟฉุกเฉิน ควรเปิดใช้งานเฉพาะกรณีที่จำเป็นขณะต้องหยุดรถเท่านั้น การเปิดไฟฉุกเฉินขับรถขณะฝนตก หรือระหว่างข้ามแยก เป็นวิธีการที่ผิด ควรเลิกพฤติกรรมดังกล่าวและไม่ทำตาม ๆ กันโดยเด็ดขาด เนื่องจากการกระทำเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้
บทความที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก ขับขี่ปลอดภัย by DLT