Rolls-Royce La Rose Noire Droptail รถหรูหลังคาเปิด ผลิตพิเศษตามความปรารถนาของลูกค้ารายบุคคลด้วยรายละเอียดสุดประณีตที่ทำให้มีราคาค่าตัวเกินหนึ่งพันล้านบาท
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail (โรลส์-รอยซ์ ลา โรส นัวร์ ดรอปเทล) รถหรูระดับอัลตราลักซูรี่ 2 ที่นั่ง สั่งทำพิเศษแบบ Bespoke หรือตามความปรารถนาของลูกค้าเฉพาะบุคคลซึ่งต้องการรถหลังคาเปิดที่สื่อถึงความรัก โดยใช้ดอกกุหลาบ Black Baccara เป็นแรงบันดาลใจ ตกแต่งอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือชั้นสูง ทั้งงานไม้ หนัง และโลหะ มีเพียงคันเดียวในโลก (แต่เป็นหนึ่งใน 4 คันของ ชุด Droptail ซึ่งแต่ละคันจะไม่เหมือนกัน) แต่ต้องจ่ายในราคาสูงกว่าพันล้านบาท
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ดีไซน์ภายนอก
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail เป็นผลงานล่าสุดจาก Rolls-Royce Coachbuild ที่รับผลิตรถยนต์แบบ Bespoke ตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย เช่นเดียวกับ Rolls-Royce Sweptail และ Rolls-Royce Boat Tail แต่ Rolls-Royce La Rose Noire จะเป็นรถหลังคาเปิดท้ายลาดชุด Droptail คันแรก รวมถึงมีสไตลิ่งที่ค่อนข้างโมเดิร์นบนแพลตฟอร์ม Rolls-Royce Architecture of luxury ร่วมกับ Rolls-Royce Phantom และ Cullinan
ส่วนความพิเศษของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail นอกจากการเป็นรถที่ผลิตขึ้นมาเพียงคันเดียวตามจินตนาการของผู้สั่งทำแล้ว งานสีตัวถังยังประณีต ซับซ้อน ซึ่ง Rolls-Royce คิดค้นเทคนิคการพ่นสีใหม่ขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกับสีดอกกุหลาบ Black Baccara ที่ออกแดงเข้มไปจนเกือบดำตามแสงเงาเพราะมีเนื้อเป็นกำมะหยี่ โดยผู้สั่งต้องการให้รถเปิดประทุนคันนี้สื่อถึงความรัก มีเสน่ห์ น่าค้นหา และสง่างาม
สีแดงสองเฉดจึงถูกนำมาใช้เป็นสีหลักของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ประกอบด้วยสีแดงโทนสว่างชื่อว่า True Love และสีแดงโทนเข้มจัดมีชื่อว่า Mystery ผ่านกระบวนการพ่นสีอันซับซ้อนร่วมกับเฉดสีอื่นที่ไม่ได้เปิดเผย ก่อนจะเคลือบทับด้วยแล็กเกอร์อีก 5 ชั้น จนสีของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail สามารถแปรเปลี่ยนไปตามแสงเงา ตั้งแต่แดงจ้าไปจนถึงแดงจนเกือบดำสนิท พร้อมประกายกำมะหยี่เช่นเดียวกับสีของกุหลาบ Black Baccara
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ดีไซน์ภายใน
สำหรับห้องโดยสาร Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จะมีเพียง 2 ที่นั่ง ตามคอนเซ็ปต์ ตกแต่งด้วยงานหนัง ไม้ และโลหะ อันเป็นเครื่องแสดงความหรูในแบบดั้งเดิมของรถอังกฤษชั้นสูง โดยชุดแผงคอนโซลหน้า-แผงด้านหลังเบาะนั่งถูกประดับด้วยเปลือกไม้ปาร์เก้ย้อมสีชิ้นเล็กนำมาต่อกันด้วยมือ ซึ่งต้องใช้เวลาในส่วนนี้นานถึง 2 ปี
ขณะที่งานหนังของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จะใช้สองเฉดแบบโทนสีหลักของตัวถังภายนอก คือ แดง True Love leather และแดงอมดำ Mystery leather อีกทั้งยังเติมประกายทองแดงลงไปเพื่อให้พื้นผิวดูคล้ายกำมะหยี่มากที่สุด
ส่วนคอนโซลกลางตกแต่งด้วยไม้และคลุมทับด้วยหนังที่ออกแบบให้มีความโค้งคล้ายเป็นกลีบกุหลาบ Black Baccara ห่อหุ้มอยู่ นอกเหนือจากนี้ กรอบแอร์ มือจับ สวิตช์ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังตกแต่งด้วยโลหะเงา และติดตั้งนาฬิกาหรู โอเดอมาร์ ปิเกต์ ตัวเรือนสั่งทำพิเศษ สามารถถอดออกมาสวมใช้งานได้
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ทางด้านเครื่องยนต์ของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ยังคงใช้ร่วมกับ Rolls-Royce Phantom ที่เป็นแบบ 12 กระบอกสูบ วางทำมุมรูปตัววี มีขนาดความจุ 6.75 ลิตร แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังเพิ่มเป็น 601 แรงม้า และแรงบิด 840 นิวตันเมตร สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 5 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ราคาเท่าไหร่
ทั้งนี้ ในส่วนราคาของ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail สื่อต่างประเทศระบุว่าสูงกว่า 30 ล้านดอลลาร์ หรือเกิน 1 พันล้านบาท หากคิดเป็นเงินไทย โดยไม่รวมภาษีนำเข้า
เปรียบเทียบ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail กับรถรุ่นอื่น ๆ
ถึง Rolls-Royce La Rose Noire Droptail จะเป็นรถยนต์หรูระดับอัลตราลักซูรี่ที่ผลิตตามความต้องการของผู้สั่งเฉพาะรายบุคคล แต่ Rolls-Royce ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นสูงเพียงรายเดียวที่ยังมีแผนก Bespoke สำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่ง Bentley ก็มีแผนก Mulliner Coachbuilt ด้วยเช่นกัน เช่น Bentley Bacala รวมถึงผลงานล่าสุดอย่าง Bentley Batur เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้องกับรถหรู
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : rolls-roycemotorcars.com