10 อันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก 2022 ซึ่งราคาของแต่ละคันนั้นบอกเลยว่าห่างไกลจากคำว่าธรรมดาไปมาก และบางรุ่นแม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่จนถึงปีนี้ก็ยังไม่มีใครทำลายสถิติได้เลย
รวม 10 อันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก 2022 ในกลุ่มรถใหม่ กับราคาค่าตัวสุดโหด ซึ่งคำว่ารวยอาจยังดูเบาไปสำหรับการจะมีไว้ครอบครอง เนื่องจากบางรุ่นเป็นรถยนต์สั่งผลิตพิเศษรายคันตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของ บ้างก็ผลิตขึ้นมาเพียงคันเดียวในโลก หรือที่ราคาถูกลงมาหน่อยก็อาจผลิตน้อยแบบจำกัดจำนวน และถึงแม้บางรุ่นจะเปิดตัวมาหลายปีแล้วก็ยังติดอันดับ ส่วนจะมีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรบ้าง ลองไปชมกัน
อันดับ 10 Lamborghini Veneno ราคา 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 141 ล้านบาท)
Lamborghini Veneno ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ เปิดตัวในปี 2013 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี แบรนด์ Lamborghini ที่ก่อตั้งในปี 1963 โดย Lamborghini Veneno ผลิตขึ้นมาเพียง 13 คัน ทั่วโลก บนพื้นฐานของ Lamborghini Aventador โดยแบ่งเป็นตัวถังคูเป้ 3 คัน และตัวถังโรดสเตอร์ 9 คัน ราคาเริ่มต้น 3 ล้านยูโร (ยังไม่รวมภาษี) และถูกจองหมดตั้งแต่ก่อนเปิดตัว
ส่วนเครื่องยนต์ของ Lamborghini Veneno เป็น V12 สูบ ขนาดความจุ 6.5 ลิตร กำลังสูงสุด 750 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม. สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 2.8 วินาที
อันดับ 9 Bugatti Bolide ราคา 4.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 166 ล้านดอลลาร์)
ไฮเปอร์คาร์โปรเจกต์พิเศษของ Bugatti ที่ผลิตเพียง 40 คัน บนพื้นฐาน Bugatti Chiron แต่ Bugatti Bolide จะโฟกัสสำหรับสนามแข่งเท่านั้น ไม่สามารถวิ่งบนถนนได้ โดยเวอร์ชั่นผลิตจริงจะใช้เครื่องยนต์ W16 สูบ ขนาด 8 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ 4 ตัว กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า แรงบิด 1,600 นิวตันเมตร (น้ำมันออกเทน 98) โดยรถจะเริ่มส่งมอบได้ในปี 2024
อันดับ 8 Maybach Exelero ราคา 8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 282 ล้านบาท)
Maybach Exelero เริ่มต้นจากการเป็นรถต้นแบบในปี 2005 สำหรับทดสอบยางสมรรถนะสูงให้แบรนด์เยอรมนี อย่าง Fulda (ในเครือ Goodyear) บนลานเกลือ Nardo ประเทศอิตาลี ซึ่ง Mercedes-Benz ได้พัฒนาบนพื้นฐานของ Mercedes-Maybach ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V12 สูบ 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 700 แรงม้า และแรงบิดประมาณ 1,000 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กม./ชม. แม้ต้องแบกน้ำหนักตัว 2.66 ตัน
อย่างไรก็ตาม ถึง Maybach Exelero จะเป็นรถต้นแบบสำหรับการทดสอบ แต่ภายหลังมีข่าวลือว่ามันได้ถูกประกาศขายไปในราคาประมาณ 8 ล้านดอลลาร์
อันดับ 7 Bugatti Divo ราคา 8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 282 ล้านบาท)
Bugatti Divo เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ของรถสั่งผลิตพิเศษที่ Bugatti เสนอขายให้กับลูกค้าที่ได้รับการคัดเลือกเฉพาะ 40 คัน สามารถสั่งได้ตามความต้องการรายบุคคล คล้ายธรรมเนียม Coachbuild ดั้งเดิมในอดีต (ก่อนการผลิตรถยนต์จะถูกปฏิวัติด้วยการผลิตเป็นแบบอุตสาหกรรมโดย Ford Model T) แม้จะไม่ถึงกับปรับเปลี่ยนได้อิสระทั้งหมด แต่ก็ขายหมดภายในระยะเวลาสัปดาห์เดียว
ส่วนขุมพลังของ Bugatti Divo ยังคงเป็นเครื่องยนต์ W16 สูบ ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า และแรงบิด 1,600 นิวตันเมตร เหมือนกับ Bugatti Chiron ที่นำมาดัดแปลง แต่ผลจากการใช้วัสดุน้ำหนักเบาหลายจุดก็ทำให้ Bugatti Divo เร็วกว่า Chiron
อันดับ 6 Bugatti Centodieci ราคา 9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 318 ล้านบาท)
Bugatti Centodieci ไฮเปอร์คาร์คอลเล็กชั่นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 110 ปี ของ Bugatti ส่วนงานดีไซน์เป็นการแสดงความเคารพต่อ Bugatti EB110 โดยดัดแปลงบนพื้นฐานของ Bugatti Chiron เพื่อวางจำหน่ายเพียง 10 คัน เป็นการเสนอขายให้กับลูกค้าที่ผ่านการคัดเลือกโดย Bugatti แล้ว และก็ขายหมดตั้งแต่ก่อนการโชว์ตัว
สำหรับเครื่องยนต์ของ Bugatti Centodieci ก็จะเป็นแบบ W16 สูบ ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ตัว จาก Bugatti Chiron Super Sport ที่มีกำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 2.4 วินาที
อันดับ 5 Rolls-Royce Sweptail ราคา 12.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 452 ล้านบาท)
เคยติดอันดับว่าที่รถแพงที่สุดในโลกมาแล้ว และปัจจุบันแม้จะหล่นลงมาอยู่ในอันดับ 5 แต่ความสูงค่าของ Rolls-Royce Sweptail ก็ยังหาใครเปรียบได้ยาก เพราะสั่งผลิตพิเศษแบบ Bespoke ขึ้นมาเพียงคันเดียว พร้อมเอกลักษณ์ท้ายรวบแบบเรือยอชต์ รวมถึงการตกแต่งด้วยลายไม้หายาก และหนังชั้นดีที่สุดจากฟาร์ม Connally
ขณะที่เครื่องยนต์ Rolls-Royce Sweptail เป็นแบบ V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ของ Phantom ให้กำลังสูงสุด 453 แรงม้า และแรงบิด 531 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดล็อกไว้ที่ 250 กม./ชม.
อันดับ 4 SP Chaos Zero Gravity ราคา 14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 495 ล้านบาท)
SP Chaos Zero Gravity (SP ย่อมาจาก Spyros Panopoulos) อัลตราคาร์จากกรีซ ที่แรงแตะระดับ 3,000 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์ V10 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบ เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 1.9 วินาที และ 7.9 วินาที จาก 0-300 กม./ชม.
อย่างไรก็ตาม ลำดับชั้น “อัลตราคาร์” ไม่ได้มาเพราะพละกำลังเพียงประการเดียว แต่รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการผลิตและวัสดุศาสตร์ขั้นสูง ตลอดจนการสอดแทรกศิลปะกับความประณีตลงไปในงานออกแบบ ทั้งลวดลายของล้อ คาลิเปอร์เบรก และพวงมาลัย
ซึ่งทำให้แบรนด์เกิดใหม่ไร้ตำนานอย่าง SP Chaos Zero Gravity กลายเป็นอัลตราคาร์ที่ราคาสูงถึง 14.4 ล้านดอลลาร์ แนวคิดคล้ายกับการทำนาฬิกาของ Richard Mille คือการสร้างสิ่งที่ดีที่สุดขึ้นมา โดยไม่มีแต้มบุญเก่าจากอดีต (แบรนด์ไม่เก่าแก่) แต่แพงมาก
อันดับ 3 Pagani Zonda HP Barchetta ราคา 17.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 622 ล้านบาท)
Pagani Zonda HP Barchetta ไฮเปอร์คาร์ในกลุ่มโปรเจกต์พิเศษของ Pagani รถสปอร์ตแบรนด์ดังของอิตาลี เพื่อไปให้ถึงขีดสุดของลิมิตเท่าที่รถยนต์คันหนึ่งบนโลกจะทำได้ (ตอนนั้นคือปี 2017) ด้วยการทำสิ่งที่ซับซ้อนให้เรียบง่ายผ่านดีไซน์และเทคโนโลยีขั้นสูง ผลลัพธ์คือไฮเปอร์คาร์ 2 ที่นั่ง (Biposto) ตัวถังแบบ Barchetta ซึ่งความหมายดั้งเดิมคือรถหลังคาเปิด ไม่มีประทุน (หรือมีก็เป็นเพียงผ้าคลุมแบบง่าย ๆ กันแดด กันลม กันฝนไม่ดีนัก) แผงประตูชั้นเดียวไม่มีช่องเก็บกระจก เพื่อลดน้ำหนักในการทำความเร็วโดยเฉพาะ ไม่เน้นขับในชีวิตประจำวัน อันเป็นขั้นที่ดิบกว่า Spyder
ทั้งนี้ Pagani Zonda HP Barchetta ยังคงใช้เครื่องยนต์ V12 ของ Mercedes-Benz AMG พาร์ตเนอร์ ให้กำลังสูงสุด 789 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.1 วินาที
อันดับ 2 Bugatti La Voiture Noire ราคา 18.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 660 ล้านบาท)
Bugatti La Voiture Noire ไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษที่ตั้งใจผลิตขึ้นมาเพียงคันเดียวในโลก เนื่องในวาระครบ 110 ปี ของ Bugatti พร้อมกับการแสดงความเคารพต่อตำนานรถสีดำที่หายสาปสูญ หรือ La Voiture Noire ของ Bugatti ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครพบ ดังนั้นด้วยสตอรี่และดีไซน์ที่ยึดโยงกับอดีตกับจำนวนอันจำกัด ทำให้รถคันนี้ถูกตั้งค่าตัวโดยไม่รวมภาษีไว้ที่ 11 ล้านยูโร แต่สุดท้ายแล้วเจ้าของ Bugatti La Voiture Noire คงสั่งเพลิน และต้องจ่ายเงินไปเกือบ 19 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่เครื่องยนต์ก็เหมือน Bugatti Chiron คือเป็นแบบ W16 สูบ 8 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ 4 ตัว กำลัง 1,500 แรงม้า แต่อย่างน้อยก็คงได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน Bugatti
อันดับ 1 Rolls-Royce Boat Tail ราคา 28 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 989 ล้านบาท)
Rolls-Royce Boat Tail เปรียบเสมือนงานโอต์ กูตูร์ แห่งวงการยานยนต์ ซึ่ง Rolls-Royce ย้อนกลับไปขายความพิเศษของความเป็นงาน Coachbuilt อย่างในอดีตที่เป็นเรื่องตรงกันข้ามกับงานอุตสาหกรรม เพราะสั่งตัดเป็นรายคันเฉพาะรายบุคคลไม่ซ้ำใคร และจะมีเพียงคันเดียวในโลก
โดยรถชุด Rolls-Royce Boat Tail จะผลิตขึ้นเพียงแค่ 3 คัน และแต่ละคันก็จะไม่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นงาน Bespoke ตามความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งคันล่าสุด (ลำดับที่ 2) ได้โชว์ตัวที่งาน Concorso d'Eleganza, Villa d'Este 2022 ไปแล้ว ส่วนราคาของ Rolls-Royce ชุด Boat Tail ก็ค่อนข้างดุเดือดจนขึ้นแท่นรถยนต์ใหม่ที่แพงที่สุดในโลกไปเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก 2022 จะเป็นในส่วนของรถที่ผลิตใหม่เท่านั้น แต่ถ้าหากรวมรถเก่าเข้าไปด้วย ต่อให้เอาราคารถที่แพงที่สุดในโลก 2022 ทั้ง 10 อันดับ มารวมกันก็ยังห่างไกล Mercedes-Benz Silver Arrow หรือ Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut เพียงคันเดียว ที่ถูกประมูลไปล่าสุด 142 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) จนกลายเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกที่มีการซื้อ-ขายกันเกิดขึ้น เอาชนะเจ้าของสถิติเดิม Ferrari 250 GTO ซึ่งเป็นคันที่ชนะเลอ ม็องส์ (ไม่ใช่ว่า Ferrari 250 GTO ทุกคันจะมีราคาเท่านี้) แต่ถ้าประมูลใหม่ตอนนี้ก็อาจแพงขึ้นได้อีก
เช่นเดียวกันกับเหตุผลที่ Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut มีราคาแพงจัดคือ เพราะมันเป็นรถของ Rudolf Uhlenhaut วิศวกรของ Mercedes-Benz ผู้พัฒนา Mercedes-Benz 300 SL รวมถึง 300 SLR จึงมีความพิเศษกว่า 300 SLR คันอื่น ๆ ยกเว้นคันที่จัดแสดงในมิวเซียมของ Mercedes-Benz ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ 8 สูบ ส่วนคันอื่นจะเป็นเครื่อง 6 สูบ เท่านั้น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : lamborghini.com, bugatti.com, mercedes-benz.com, bmwgroup.com, spyrospanopoulos.com, pagani.com