Ferrari Purosangue รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ตัวถังคูเป้ยกสูง 4 ประตู 4 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ขนาด 6.5 ลิตร กลางลำด้านหน้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วสูงสุด 310 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Ferrari Purosangue (เฟอร์รารี่ ปูโรซังเกว 2023) รถยนต์สปอร์ตยกสูง รุ่นแรกของ Ferrari ที่เพิ่มความอเนกประสงค์ทั้งในแง่ของการโดยสารให้สบายขึ้น รวมถึงความสามารถในการขับขี่บนสภาพถนนได้หลายรูปแบบกว่า แต่ยังคงสมรรถนะแบบ Supercar รุ่นใหญ่ตามแนวคิดดั้งเดิมด้วยเครื่องยนต์ วี 12 สูบ วางกลางลำด้านหน้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4RM-S
Ferrari Purosangue ดีไซน์ภายนอก
การวางเลย์เอาต์ของ Ferrari Purosangue เป็นไปตามแบบของ Ferrari รุ่นใหญ่ดั้งเดิม คือ ต้องวางกลางลำด้านหน้า จึงมีสัดส่วนฝากระโปรงหน้ายาว ห้องโดยสารขยับและทิ้งน้ำหนักไปด้านหลังบนสไตล์ตัวถังคูเป้ 4 ประตู ซึ่งเปิดกางออกในลักษณะตู้กับข้าว โดยแนวหลังคานั้นลาดต่ำไปจรดด้านท้ายเหมือนตัวถังสไตล์ Shooting Brake (รถคูเป้ที่ออกแบบส่วนท้ายเป็นแวกอน)
เนื่องจาก Ferrari ได้นิยาม Purosangue ว่าเป็นรถสปอร์ต 4 ประตู แม้จะมีตัวถังยกสูงกับชุดฝาท้ายแฮตช์แบ็ก และไม่ยอมเรียกว่าเป็นรถ Crossover SUV แถมยังตอกย้ำด้วยชื่อ Purosangue โดยแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Pure Blood หรือหมายถึงม้าเลือดบริสุทธิ์ เพราะมันยังคงเป็น Supercar แท้ของ Ferrari แต่ขับได้สะดวกเหมือนรถทั่วไป รวมถึงนั่งได้สบายขึ้น ทั้งในแง่ของคุณภาพการขับขี่ และการเข้า-ออกห้องโดยสารเท่านั้น
ส่วนมิติตัวถังของ Ferrari Purosangue จะมีความยาว 4,973 มม. กว้าง 2,028 มม. สูง 1,589 มม. ระยะฐานล้อ 3,018 มม. ส่วนความสูงใต้ท้องรถ 180 มม. สามารถกระจายน้ำหนักให้ตกลงบนเพลาหน้า 49% และเพลาหลัง 51% โดยมีระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟช่วยจัดการกับสภาพถนนที่ไม่ราบเรียบได้ดี
Ferrari Purosangue ดีไซน์ภายใน
สำหรับห้องโดยสารของ Ferrari Purosangue ยังคงบรรยากาศของรถสปอร์ตสไตล์ GT แต่กว้างขวางกว่าปกติ โดยติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตขนาดมาตรฐานไว้ 4 ที่ พร้อมคอนโซลกลางทั้งตอนหน้า-หลัง และลุกเข้า-ออกได้สะดวกจากการใช้บานประตูแบบตู้กับข้าว แม้จะยังจำเป็นต้องมีเสากลางอยู่เพื่อความแข็งแรงของโครงสร้างที่ต้องรับมือกับแรงบิดมหาศาล นอกจากนี้ยังเพิ่มความโปร่งโล่งด้วยหลังคากระจก Electrochromic Roof ที่ปรับความทึบแสงได้โดยไม่ต้องใช้แผงกันแดด ขณะที่ชุดแผงคอนโซลหน้าคล้ายกับ Ferrari SF90 Stradale โดยมาตรวัดเป็นจอดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว แต่จะมีจอดิจิทัลสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.2 นิ้ว อีก 1 ชุด ขณะที่วัสดุตกแต่งภายในจะมีทั้งหนังแท้ให้เลือก 12 สี หนังสังเคราะห์ Semi-Aniline 1 สี และหนังสังเคราะห์ Alcantara 14 สี
Ferrari Purosangue เครื่องยนต์และสมรรถนะ
Ferrari Purosangue ยังคงใช้เครื่องยนต์แบบ วี 12 สูบ ขนาดความจุ 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 725 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ/นาที และแรงบิด 716 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ F1 DCT 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4RM-S) เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่การเบรกจากความเร็ว 200-0 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระยะทาง 129 เมตร
Ferrari Purosangue เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานใน Ferrari Purosangue จะประกอบด้วยระบบช่วยขับขี่ เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนและช่วยรักษาช่องทางจราจร, ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน รวมถึงถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมการทรงตัว และกล้องมองหลัง เป็นต้น
Ferrari Purosangue มีกี่สี
Ferrari Purosangue มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 22 สี แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มสีพิเศษ (Special) 2 สี
-
สีขาว Biango Cervino
-
สีดำ Nero Purosangue
-
-
กลุ่มสีโซลิด (Solid) 8 สี
-
สีเหลือง Giallo Modena
-
สีแดง Rosso Scuderia
-
สีแดง Rosso Corsa Red
-
สีแดง Rosso Mugello
-
สีขาว Bianco Avus
-
สีน้ำตาล Grigio Scuro 792
-
สีดำ Nero
-
-
กลุ่มสีเมทัลลิก (Metallic) 7 สี
-
สีน้ำตาล Grigio Alloy
-
สีเงิน Argento Nurburgring
-
สีน้ำตาล Grigio Titanio
-
สีน้ำตาล Grigio Silverstone
-
สีดำ Nero Daytona
-
สีน้ำเงิน Blu Corsa
-
สีน้ำเงิน Blu Tour de France
-
-
กลุ่มสีอิงกับอดีต (Historical) 6 สี
-
สีแดง Rosso Dino
-
สีเทา Canna Di Fucile
-
สีเขียว Verde British
-
สีน้ำเงิน Blu Scozia
-
สีน้ำเงิน Blu Swaters
-
สีน้ำเงิน Blu Pozzi
-
Ferrari Purosangue ราคาจำหน่าย
Ferrari Purosangue วางจำหน่ายในไทยด้วยราคา 40,500,000 บาท (ไม่รวมค่าสั่งปรับแต่งเพิ่มเติม)
Ferrari Purosangue ตารางผ่อน-ดาวน์
เปรียบเทียบ Ferrari Purosangue กับรถรุ่นอื่น ๆ
ถึงแม้ Ferrari Purosangue ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า เลือดบริสุทธิ์ (หรือม้าพันธุ์แท้) และไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็นรถ SUV หรือ Crossover SUV รวมถึงออกแบบด้วยวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างกัน แต่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกนำไปโยงกับ Super SUV เครื่องยนต์ วี 8 สูบ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 659 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ อย่าง Lamborghini Urus ที่ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 3.6 วินาที ราคาเปิดตัวในไทย 23,420,000 บาท
รวมถึง Aston Martin DBX ซึ่งใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ เทอร์โบคู่ 550 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เวลาเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.5 วินาที แต่เปิดตัวด้วยราคาต่ำกว่าที่ 19,900,000 บาท และแน่นอนว่าทั้งหมดยังไม่รวมค่าปรับแต่งพิเศษซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของรถระดับไฮเอนด์