รถความร้อนขึ้นเกิดจากอะไร ขับต่อได้ไหม พร้อมวิธีแก้ไขในเบื้องต้น

รถความร้อนขึ้นเกิดจากสาเหตุใด ขับต่อได้หรือไม่ และวิธีแก้ปัญหารถความร้อนขึ้นต้องทำอย่างไร เช็กจุดไหนบ้าง มาดูกัน

รถความร้อนขึ้นเกิดจากสาเหตุใด ? จริง ๆ แล้ว ความร้อนกับเครื่องยนต์ถือว่าเป็นของคู่กัน เพราะเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน มีการเผาไหม้ ย่อมเกิดความร้อน ดังนั้น รถยนต์จึงมีระบบระบายความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสมตลอดเวลา

แต่หากระบบดังกล่าวมีปัญหา ก็จะทำให้เกิดความร้อนสูงผิดปกติ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจัด อาจแสดงอาการให้เห็นได้ชัดขึ้น ดังนั้น การหมั่นสังเกตอุณหภูมิหรือไฟเตือนขณะขับขี่จึงเป็นเรื่องควรทำ และถ้าหากพบว่ารถความร้อนขึ้น ต้องทำอย่างไรให้รอดจากสถานการณ์หรือเกิดความเสียหายน้อยที่สุด เรามีวิธีมาแนะนำ

รถยนต์ความร้อนขึ้น หมายถึง อุณหภูมิของเครื่องยนต์ขึ้นสูงกว่าอุณภูมิทำงานปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่คงที่ระหว่าง 80-100 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากเกินกว่านั้นหมายความว่าระบบระบายอากาศอาจมีความผิดปกติควรรีบหาที่จอดรถเพื่อให้รถเย็นลงและตรวจสอบทันที

ผู้ขับขี่จะสามารถสังเกตอุณหภูมิเครื่องยนต์ได้จากมาตรวัดบนแผงหน้าปัดซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามรุ่นของรถยนต์ โดยบางรุ่นจะเป็นมาตรวัดพร้อมสัญลักษณ์ตัว C (Cool) และ H (Hot) หากเครื่องยนต์มีอุณหภูมิปกติเข็มมาตรวัดส่วนมากจะถูกเซตโดยผู้ผลิตให้อยู่ตรงกลาง (เนื่องจากเป็นจุดที่ผู้ขับขี่รู้สึกสบายใจ) แต่ถ้าเข็มอุณหภูมิขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ ไปจนถึงขีดแดง H (Hot) หมายความว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น

ส่วนในรถบางรุ่นที่ไม่มีเข็มมาตรวัด จะเป็นสัญลักษณ์ตัว F ที่จะขึ้นโชว์ไฟสีฟ้าเมื่อเครื่องยนต์เย็น และดับเมื่อถึงอุณหภูมิปกติ ถ้าหากความร้อนขึ้นจะมีไฟสีแดงขึ้นโชว์เพื่อแจ้งเตือนว่าอุณหภูมิเครื่องยนต์วสูงกว่าปกติ

รถยนต์ความร้อนขึ้นมักเกิดจากสาเหตุการทำงานของระบบหล่อเย็นที่ผิดปกติ ชิ้นส่วนบางอย่างเกิดการชำรุด ได้แก่

• ระดับน้ำในระบบต่ำ

• หม้อน้ำรั่ว ซึม หรือตัน 

• ปั๊มน้ำเสียหาย ไม่ทำงาน 

• พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หรือทำงานไม่สมบูรณ์

• ท่อสายยางเกิดการรั่ว หรือตัน

หากรถยนต์ความร้อนขึ้น หรือเกิดอาการโอเวอร์ฮีท เบื้องต้นไม่ควรฝืนขับต่อไป ควรหาพื้นที่ปลอดภัยและนำรถเข้าจอดข้างทางให้เร็วที่สุด ดับเครื่องยนต์ รอให้อุณหภูมิเย็นลง จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้ารถ อาจใช้ผ้าในการช่วยจับ จากนั้นเริ่มตรวจสอบอาการโดยเริ่มจากการดูที่หม้อน้ำก่อนว่าปริมาณน้ำหล่อเย็นอยู่ต่ำกว่าระดับปกติ แห้ง หรือไม่ (ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำตอนร้อนเด็ดขาด เนื่องจากระบบจะมีแรงดันและความร้อนสูงมาก) สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้นลองเติมน้ำสะอาด สตาร์ตเครื่อง และลองขับต่อสักระยะพร้อมสังเกตอาการ หากความร้อนไม่เพิ่มอาจเกิดจากสาเหตุหม้อน้ำแห้งเท่านั้นก็สามารถที่จะขับรถต่อไปได้

แต่ถ้าความร้อนขึ้นอีกให้ทำการตรวจสอบในส่วนอื่น ๆ เช่น พัดลมระบายความร้อน ท่อน้ำ วาล์วน้ำ ซึ่งอาจจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญหรือช่างเป็นผู้ดำเนินการ และไม่ควรขับรถต่อไปเพราะอาจเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น

สำหรับวิธีป้องกันความร้อนขึ้นนั้น ควรหมั่นตรวจสอบและตรวจเช็กภายในห้องเครื่องรถยนต์เป็นประจำก่อนการใช้งาน เช่น ตรวจระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักน้ำว่าลดลงหรือไม่ หากลดให้เติมน้ำยาหล่อเย็นแทนการใช้น้ำเปล่า เพราะน้ำยาหล่อเย็นมีจุดเดือดสูงกว่า ทั้งยังช่วยลดการเกิดสนิม เกิดฟอง และมีสีที่ทำให้สังเกตได้ชัดเจนหากมีการรั่วตามจุดต่าง ๆ หรืออีกวิธีคือการนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนดเพราะศูนย์บริการหรืออู่จะทำการตรวจเช็กจุดนี้ให้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ก่อนการขับขี่รถยนต์ หรือยานพาหนะอื่น ๆ ทุกครั้ง ควรตรวจสอบ ตรวจเช็กให้อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้

• 9 เคล็ดลับการดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน
• ใช้รถหน้าร้อนให้ปลอดภัย ควรดูแลและใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้
• ขับรถทางไกล ต้องพักรถไหม แล้วต้องดับเครื่องหรือเปล่า ?
• จอดรถตากแดดเป็นเวลานาน มีผลเสียอย่างไร อันตรายหรือไม่ ?

ขอบคุณข้อมูลจาก : firestonecompleteautocare.com, jiffylube.com