การจอดรถตากแดดทุกวันจะมีผลเสียอย่างไรกับรถยนต์บ้าง สามารถทำให้อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนไหนเสื่อมสภาพได้หรือไม่ และจะมีวิธีป้องกันอย่างไร เราไปหาคำตอบกัน
แสงแดดมีทั้งคุณและโทษ แต่สำหรับรถยนต์แล้ว การจอดรถตากแดดทิ้งไว้นาน ๆ เป็นประจำ อาจด้วยปริมาณที่จอดรถในร่มมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องจอดรถกลางแดด ซึ่งในระยะยาวการจอดรถตากแดดเป็นเวลานานบ่อยครั้ง ทำให้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสื่อมสภาพ ซึ่งทำให้รถดูโทรมเร็วมากกว่ารถที่จอดในร่ม วันนี้เราจะพามาดูว่าส่วนไหนที่มีโอกาสเสียหายได้เร็ว หรือควรระวังมากเป็นพิเศษ
จอดรถตากแดด ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง
ด้วยความร้อนจากแสงแดดในปัจจุบันที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางวันอยู่ที่ 37-40 องศาเซลเซียส และเมื่อจอดรถกลางแดดยิ่งทำให้เกิดความร้อนสะสมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โอกาสที่จะเกิดความเสียหายก็มีมากขึ้น แม้จะไม่เกิดในทันทีแต่ก็เป็นการเร่งการเสื่อมสภาพของรถทั้งชิ้นส่วนภายนอกรวมถึงภายในได้เร็วกว่าปกติ ซึ่งจุดเหล่านี้ควรต้องระวังมากเป็นพิเศษ
1. สีรถยนต์
จุดแรกที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ขับรถออกจากบ้าน ยิ่งถ้าต้องจอดรถไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน รังสียูวีอาจทำให้แลคเกอร์หรือสารเคมีที่ใช้ในการเคลือบสีรถให้ดูเงางามเสื่อมคุณภาพลง ส่งผลให้สีรถซีดหมองลง ไม่แวววาวเหมือนใหม่
2. คิ้วยางต่าง ๆ
เช่นเดียวกับสีรถ คิ้วยางต่าง ๆ รวมถึงใบปัดน้ำฝน ที่ต้องตากแดดนาน ๆ เป็นประจำจะเกิดการเสือมสภาพไว้กว่าปกติ แข็งกรอบ แตกหัก เนื้อยางตายในระยะยาว ซึ่งเป็นสาเหตุของลมเข้า หรือน้ำรั่วซึมตามจุดต่าง ๆ ได้ เช่น รถที่มีซันรูฟ หรือแม้แต่ตามกรอบไฟ แม้คิ้วยางพวกนี้จะเปลี่ยนใหม่ได้ แต่บางชิ้นก็มีราคาแพงเพราะต้องเบิกแบบยกเซต
3. ฟิล์มกรองแสง
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะต้องรองรับกับแสงอาทิตย์โดยตรง แม้ฟิล์มกรองแสงจะมีหน้าที่ป้องกันความร้อนจากแสงแดดและรังสียูวี แต่การที่ฟิล์มต้องเจอกับความร้อนในทุก ๆ วันเป็นเวลานานก็อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงกว่าปกติ
4. ไฟหน้า
เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดและเสื่อมสภาพได้เร็วที่สุด คือ ไฟหน้าหมองจากการตากแดด เนื่องจากรถยุคใหม่เปลี่ยนไปใช้โคมพลาสติกด้วยเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัย จึงเสื่อมสภาพได้ง่ายและเร็วกว่าโคมแก้วแบบในอดีต โดยเมื่อโดนแดดนาน ๆ สารเคลือบป้องกันจะหลุดหลอกจนแดดทำลายเนื้อพลาสติกให้ขุ่นเหลือง แต่ปัจจุบัน มีน้ำยาขัดและเคลือบใหม่ได้ อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโคมใหม่เสมอไป
5. ห้องโดยสาร
บางคนอาจบอกว่าการจอดรถตากแดดเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายในห้องโดยสารไปในตัว แต่การจอดรถตากแดดเป็นเวลานานโดยที่ทุกอย่างปิดสนิท จะทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร ส่งผลให้วัสดุต่าง ๆ ที่เป็นหนัง ยางหรือพลาสติก เสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น ดังนั้น การลดกระจกลง (ถ้าทำได้) จะช่วยทำให้อากาศถ่ายเท และระบายความร้อนออกไปได้
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ต้องพึงระวังเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องจอดรถกลางแดดก็คือ อุปกรณ์หรือสิ่งของบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟได้หากอยู่ในที่ที่มีความร้อนเป็นเวลานาน เช่น ไฟแช็ก, แบตฯ สำรอง, โทรศัพท์มือถือ, ขวดสเปร์ย และขวดน้ำพลาสติก
จอดรถตากแดดทุกวัน ทําไงดี
หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนำรถจอดตากแดดทุกวันได้ ลองมาดูเคล็ดลับที่อาจทำให้รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายจากรังสียูวีและแสงแดดได้น้อยลง
1. ใช้ม่านบังแดด
หากไม่สามารถหาที่จอดรถร่ม ๆ ได้ และจำเป็นต้องจอดรถตากแดด ม่านบังแดดเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่คุณควรนำมาใช้ ถึงแม้จะไม่ได้ปกป้องรถภายนอกได้ แต่ม่านบังแดดสามารถลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารไม่ให้สูงเกินไปได้ ทั้งยังช่วยปกป้องวัสดุและอุปกรณต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารได้ในระดับหนึ่ง
2. หุ้มเบาะที่นั่ง
เบาะรถยนต์ส่วนใหญ่ทำจากหนังหรือวัสดุพีวีซี ที่เมื่อได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์หรืออุณหภูมิภายในรถที่สูงขึ้นย่อมทำให้มีคุณภาพที่เสื่อมลง มีสีที่ซีดจาง และเกิดการแตกลายงาได้ การหุ้มเบาะจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเบาะรถยนต์
3. ผ้าคลุมรถ
หากคุณเป็นคนรักรถที่จำเป็นต้องจอดรถตากแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุก ๆ วัน ขอเพียงแค่มีเวลาสักนิด หลังจากจอดรถเสร็จใช้ผ้าคลุมรถของคุณก็จะช่วยป้องกันรังสียูวีและแสงแดดได้ เพราะผ้าคลุมรถส่วนใหญ่จะมีการเคลือบสารสะท้อนแสงมาแล้วนั่นเอง
4. เคลือบ แว็กซ์สีรถ
วิธีนี้ไม่ได้ปกป้องสีรถจากแสงแดดได้ 100% แต่ก็ดีกว่าการที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะการลงแว็กซ์หรือเคลือบสีรถจะช่วยปกป้องรถยนต์จากรังสียูวีได้ในระดับหนึ่ง แต่คุณจะต้องหมั่นลงแว็กซ์เป็นประจำเพื่อให้การปกป้องนี้คงประสิทธิภาพไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
5. ติดฟิล์มที่ตัวรถยนต์
การติดฟิล์มที่ตัวรถหรือเรียกอีกอย่างว่าการ Wrap รถ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเช่นกัน นอกจากจะช่วยป้องกันริ้วรอย หรือเศษหินที่อาจกระเด็นมาโดนแล้ว การ Wrap รถ ยังช่วยถนอมสีของรถ มีให้เลือกทั้งแบบสีต่าง ๆ และแบบใส สามารถลอกออกได้เมื่อไม่ต้องการใช้งานแล้ว ในส่วนของราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของรถยนต์
6. ติดฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มข้นสูง
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลดความร้อนภายในห้องโดยสารหากต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน คือการเลือกติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูง และมีความเข้มข้นของฟิล์มที่มาก โดยทั่วไปรถที่ออกมาจากศูนย์บริการจะติดฟิล์มกรองแสงที่มีระดับความเข้มประมาณ 40-60% เท่านั้น เราสามารถเพิ่มระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสงเป็น 60-80% ได้เช่นกัน แต่ควรเลือกประเภทของฟิล์มที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในเวลากลางคืน และฟิล์มที่มีส่วนผสมของสารปรอทตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย
7. มองหาที่ร่มไว้ก่อน
แม้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ในการปฏิบัตินั้นถือว่ายาก เพราะการหาที่จอดรถกลางแจ้งที่มีร่มเงาของสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างเช่น ตึก หรือต้นไม้นั้น ถือเป็นขุมทรัพย์อย่างหนึ่งที่คนรักรถทุกคนต่างต้องการในสิ่งเดียวกัน ฉะนั้นถ้าคุณมีโอกาส หรือมีเวลาวนรถหาที่จอดร่ม ๆ ก็ควรทำมันเป็นลำดับแรกเลย เพราะที่จอดร่ม ๆ จะช่วยปกป้องรถของคุณจากแสงแดดได้ดีที่สุดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม จากวิธีการทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาในเบื้องต้นสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องจอดรถตากแดดทุกวัน หรือจอดรถตากแดดนาน ๆ ใครที่สะดวกหรือสนใจในวิธีการไหนก็ลองนำไปปรับใช้กันดูได้ตามความเหมาะสม แต่ถึงยังไงสิ่งที่ดีที่สุดที่ช่วยปกป้องรถยนต์ที่เรารักจากแสงแดดและรังสียูวีได้ ก็คือการจอดรถในที่ร่มนั่นเอง