รวมรถยนต์ราคาไม่เกิน 6 แสนบาท ในตลาดเมืองไทย ปี 2022 จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ออปชั่นคุ้มค่าตัวไหม ไปติดตามกันเลย
รถยนต์กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของชีวิตคนเราในทุกวันนี้ เพราะไม่ว่าจะเอาไว้ใช้งาน หรือใช้สำหรับเดินทางไปท่องเที่ยวก็สะดวกสบาย จึงทำให้หลายคนอยากมีรถยนต์ส่วนตัวไว้ครอบครองสักคัน ซึ่งในปัจจุบันนั้นรถยนต์นั่งมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแบบซีดาน แฮตช์แบ็ก เอสยูวี จนไปถึงรถสปอร์ตราคาหลายล้านบาท
แต่ถ้าหากคุณมีงบที่จำกัด และต้องการจะมีรถใหม่ 2022 ป้ายแดงคันแรกในชีวิตสักคันนอกจากรถยนต์ราคาไม่เกิน 5 แสนแล้ว ก็ยังมีรถยนต์ในงบ 600,000 บาท ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย
ข้อควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ราคาไม่เกิน 6 แสนบาท
สำหรับข้อควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ราคาไม่เกิน 600,000 บาท สิ่งที่เราควรจะต้องยอมรับเป็นอย่างแรก คือความแตกต่างในเรื่องชุดอุปกรณ์ในกรณีที่ไม่ใช่รุ่นท็อป เพราะออปชั่นเสริมและระบบต่าง ๆ อาจถูกปรับลดลงหรือหายไป อาทิ ชุดไฟหน้าจาก LED ที่อยู่ในรุ่นท็อป ก็จะลดลงมาเหลือเพียงชุดหลอดไฟฮาโลเจน รวมถึงบางรุ่นจะปรับจากล้ออัลลอย เป็นเพียงล้อกระทะ เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่จะถูกปรับลดชุดอุปกรณ์ลงไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิง หรือแม้กระทั่งวัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสาร รวมถึงเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่จะไม่เหมือนกับในรุ่นที่มีราคาสูงนัก
รถยนต์ราคาไม่เกิน 6 แสนปี 2022
รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
1. Honda City Hatchback
เริ่มกันที่ Honda City Hatchback รถยนต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ที่ถูกกล่าวขานกันมากในปีที่ผ่านมา โดยรูปลักษณ์ภายนอกนั้นถ่ายทอดความสปอร์ตมาจากในรุ่นซีดาน ชุดไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ มาพร้อมระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจังหน้าเป็นโครเมียม สีกระจกมองข้าง สีเดียวกับตัวรถปรับไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันมาพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ ระบบ Idle Stop พร้อมสวิตช์ เปิด-ปิด ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator) ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40
ในด้านขุมพลังนั้นมากับเครื่องยนต์ DOHC 3 สูบ 12 วาล์ว VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT
ราคาจำหน่าย
-
Honda City Hatchback รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
2. Honda City
Honda City จัดอยู่ในกลุ่มรถ Eco Car มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร VTEC Turbo ให้กำลัง 112 แรงม้า มีสมรรถนะไม่แพ้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร โดยในรุ่นที่ยกมาแนะนำนี้จะเป็นในรุ่น S มีราคาต่ำกว่า 5.8 แสนบาท
ในด้านออปชั่นเด่น ๆ จะมาพร้อมกับชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์ กระจังหน้าแบบเป็นโครเมียม มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปุ่ม ECON พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน กระจกมองหลังแบบตัดแสง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่ง ส่วนเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่และระบบปลอดภัยนั้น มากับระบบ Honda Sensing ชุดมาตรฐาน
ราคาจำหน่าย
-
Honda City รุ่น S ราคา 579,000 บาท
3. Honda Jazz
Honda Jazz คอมแพกต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ยอดนิยมของชาวไทย ด้วยบุคลิกหน้าตาที่ดูทันสมัยไม่ตกยุค เหมาะทั้งใช้งานคนเดียวหรือจะเป็นรถแบบครอบครัวเล็ก ๆ ห้องโดยสารออกแบบให้มีความกว้างขวาง นั่งสบายทุกที่นั่ง เบาะที่นั่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ 4 แบบ เปลี่ยนพื้นที่สำหรับบรรทุกสัมภาระได้หลากหลาย
การตกแต่งใช้วัสดุสีดำ Piano Black ทำให้ดูสปอร์ต เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุจากผ้า เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ เบาะนั่งด้านหลังแยกพับ 60:40 พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth มาพร้อมระบบ Honda Sensing ชุดมาตรฐาน อาทิ ไฟสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก เป็นต้น
สำหรับขุมพลัง จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิด 146 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ CVT
Honda Jazz ราคาจำหน่าย
-
Honda Jazz รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท
-
Honda Jazz รุ่น S CVT ราคา 594,000 บาท
4. Toyota Yaris ATIV
Toyota Yaris ATIV เป็นรถแบบซีดาน 4 ประตู โดยในรุ่นราคาไม่เกิน 600,000 บาท จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่รุ่น Entry และรุ่น Sport
โดยในรูปลักษณ์ภายนอกและชุดอุปกรณ์นั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อย เริ่มจากในรุ่น Sport ชุดไฟหน้าจะเป็น LED มัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมด้วย LED Light Guiding มาพร้อมระบบ Follow-me-home ขณะที่กระจกมองข้างจะเป็นสีดำเงา พร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ ขณะที่รุ่น Entry ไฟหน้าจะเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจกมองข้างจะเป็นสีเดียวกับตัวรถ
ภายในห้องโดยสารจะแตกต่างกันเพียงในส่วนเครื่องเสียงวิทยุที่ในรุ่น Sportจะเป็นหน้าหน้าจออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 6.7 นิ้ว และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ขณะที่ในรุ่น Entry จะได้รับเครื่องเสียงวิทยุ พร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX ในส่วนอื่น ๆ เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบ Smart Entry กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ในด้านพลังกำลังติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร 3NR-FKE สมรรถนะ 92 แรงม้า แรงบิด 109 นิวตันเมตร ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
-
Toyota Yaris ATIV รุ่น Entry ราคา 539,000 บาท
-
Toyota Yaris ATIV รุ่น Sport ราคา 599,000 บาท
5. Toyota Yaris
Toyota Yaris หนึ่งในรถ Eco Car และเป็นรถยนต์ในราคาไม่เกิน 600,000 บาท มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ต
รูปลักษณ์ภายนอกชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมระบบ Follow-Me-Home ไฟท้าย LED จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay, ระบบ Smart Entry กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ กล้องบันทึกหน้ารถ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เป็นต้น
Toyota Yaris ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร 3NR-FKE สมรรถนะ 92 แรงม้า แรงบิด 109 นิวตันเมตร ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock
ราคาจำหน่าย
-
Toyota Yaris รุ่น Entry ราคา 549,000 บาท
6. MG5
MG5 รถยนต์สไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน ที่มีมิติตัวรถใหญ่เทียบชั้นกับ รถขนาด C-Segment แต่ราคาเริ่มต้นอยู่ในคลาสเดียวกับรถ Eco Car โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ในส่วนรุ่นที่ราคาไม่เกิน 600,000 บาท จะมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น C และรุ่น D
MG5 ออกแบบด้วยสไตล์โฉบเฉี่ยว กระจังหน้า Digital Burning Grille แบบ 3 มิติ มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ Leopard Claw ภายในอัดแน่นด้วยออปชั่นตามแบบฉบับรถจากประเทศจีน อาทิ เบาะปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางเฉพาะผู้ขับขี่ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลพร้อมช่องแอร์หลัง และระบบกรองอากาศ PM2.5 หลังคาซันรูฟ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด
ราคาจำหน่าย
-
MG5 รุ่น C ราคา 559,000 บาท
-
MG5 รุ่น D ราคา 599,000 บาท
7. Nissan Almera
Nissan Almera ซับคอมแพกต์ซีดานเป็นรถที่มีมิติขนาดตัวถังที่ใหญ่ แต่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถ Eco Car มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ทันสมัย และการขับขี่ที่ง่ายขึ้นกับขุมพลัง 1.0 ลิตร
ด้านออปชั่นโดยรวมจะได้รับทั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน ไฟท้าย Signature Light พร้อมไฟเบรก LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ล้ออัลลอย 15 นิ้ว มาตรวัดเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Analogue พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัด ระบบเครื่องเสียงต่อ Bluetooth มาพร้อมกับเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility
ขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ HRAO ที่มาพร้อมเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (DC Motor) ที่ให้สมรรถนะสูงสุด 74 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT พร้อมโหมด D-Step Logic ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
-
Nissan Almera รุ่น 1.0L Turbo E CVT ราคา 509,000 บาท
-
Nissan Almera รุ่น 1.0L Turbo EL CVT ราคา 559,000 บาท
8. Nissan Note
Nissan Note เป็น Eco Car อีกหนึ่งรุ่นของทาง Nissan ที่มาในรูปทรงแฮตช์แบ็ก 5 ประตู เน้นความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร
โดดเด่นด้วยกระจังหน้าลายรังผึ้งแบบ V-motion กันชนหน้าชุบโครเมียม ผสานไฟหน้าแบบฮาโลเจนโปรเจคเตอร์ และไฟท้ายแบบ Signature Light ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ภายในห้องโดยสารตกแต่งให้ดูพรีเมี่ยมด้วยวัสดุสีเงิน และสีดำเปียโนแบล็ค พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกพับ 60 : 40
ด้านพละกำลังติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ กำลังสูงสุด 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
-
Nissan Note รุ่น 1.2 E CVT ราคา 529,000 บาท
-
Nissan Note รุ่น 1.2 V CVT ราคา 559,000 บาท
-
Nissan Note รุ่น 1.2 VL CVT ราคา 589,000 บาท
9. Nissan March
Nissan March เป็นรถ Eco Car ตัวแรกที่เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2012 ในรุ่นปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาจากรุ่นแรกไปเล็กน้อย มาพร้อมกับขนาดกะทัดรัดคล่องตัว เสริมด้วยการขับขี่ที่ประหยัด
ด้านหน้ายังคงมากับกระจังหน้าลายรังผึ้งมาพร้อมกับสัญลักษณ์ V-motion ที่ปรับขนาดให้เล็กลง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED ดวงโต มาพร้อมไฟท้าย LED เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Nissan March ภายในห้องโดยสารนั้น ติดตั้งชุดมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะ ชุดเครื่องเล่นวิทยุ พร้อมช่อง USB และ AUX ระบบแจ้งเตือนเมื่อลืมดึงกุญแจรถ หรือปิดไฟหน้า เซ็นเซอร์กะระยะถอย 4 จุด กระจกมองข้างพับด้วยระบบไฟฟ้า ระบบป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ Immobilizer เป็นต้น
ด้านขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร HR12DE ให้กำลัง 79 แรงม้า แรงบิด 106 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ XTRONIC CVT ไปยังคู่ล้อหน้า
ราคาจำหน่าย
-
Nissan March รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
-
Nissan March รุ่น 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
-
Nissan March รุ่น 1.2 E CVT ราคา 495,000 บาท
-
Nissan March รุ่น 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท
10. Mazda2
Mazda2 เป็นรถยนต์นั่งรถขนาดเล็กที่สุดของทางค่าย Mazda มีดีไซน์รูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียว เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม มีให้เลือกทั้งหมด 5 เกรด ทั้งในรุ่นซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
โดย Mazda2 ปี 2022 ในทุกรุ่นย่อยจะมีการเพิ่มชุดอุปกรณ์ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง ระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect พร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto รวมถึงยังคงมีระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger หน้าจอ Active Driving Display ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport Paddle Shift และระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control
ด้านขุมพลังยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิด 123 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Activematic เสริมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเข้าโค้ง GVC Plus
ราคาจำหน่าย
-
Mazda2 2022 Collection 1.3 E / 1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท
-
Mazda2 2022 Collection 1.3 C / 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
11. Mitsubishi Attrage
Mitsubishi Attrage Eco Car ตัวถังซีดาน ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ สปอร์ตโฉบเฉี่ยว อัดแน่นด้วยฟีเจอร์สมัยใหม่
ด้านออปชั่นเด่น ๆ จะเป็นในส่วนกระจังหน้า Dynamic Shield ตกแต่งลายเส้นสีแดง ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED ที่มาพร้อมกับการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟ DRL แบบ LED ไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ภายในห้องโดยสารตกแต่งวัสดุแบบ Piano Black และ Carbon Print มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ CVT
ราคาจำหน่าย
-
Mitsubishi Attrage รุ่น GLX MT ราคา 494,000 บาท
-
Mitsubishi Attrage รุ่น GLX CVT ราคา 494,000 บาท
-
Mitsubishi Attrage รุ่น GLS CVT ราคา 494,000 บาท
12. Mitsubishi Mirage
Mitsubishi Mirage เป็น Eco Car แฮตช์แบ็ก 5 ประตู รุ่นปรับโฉมใหม่ กับราคาค่าตัวที่ไม่เกิน 600,000 บาท
ด้านหน้ากระจังหน้าตกแต่งลายเส้นโครเมียม ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ฮาโลเจน ไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ระบบปัดน้ำฝนแบบปรับหน่วงเวลาด้านหน้าและด้านหลัง ไล่ฝ้ากระจกหลังภายในตกแต่งวัสดุแบบ Piano Black และ Carbon Print มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำ จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมท้ัง Apple CarPlay และ Android Auto ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ เบาะนั่งหลังปรับพับแบบ 60:40
พละกำลังเป็นบล็อกเดียวกับตัว Mitsubishi Attrage เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังที่ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ CVT
ราคาจำหน่าย
-
Mitsubishi Mirage รุ่น GLX MT ราคา 474,000 บาท
-
Mitsubishi Mirage รุ่น GLX CVT ราคา 509,000 บาท
-
Mitsubishi Mirage รุ่น GLS CVT ราคา 574,000 บาท
13. Suzuki Ciaz
Suzuki Ciaz รถ Eco Car ในรูปแบบตัวถังซับคอมแพกต์ซีดานตัวถังขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง
รูปลักษณ์ภายนอกจะได้รับการติดตั้งกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต ชุดไฟหน้าฮาโลเจนโปรเจคเตอร์ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับไฟฟ้า ล้อเป็นแบบล้อกระทะพร้อมฝาครอบ รัดด้วยยางขนาด 185/ 65R15 ภายในห้องโดยสาร เป็นรถแบบ 5 ที่นั่ง มาพร้อมชุดอุปกรณ์มาตรฐาน พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้ามาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto และสะดวกสบายด้วยช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI
Suzuki Ciaz มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.3 ลิตร K12B สมรรถนะ 91 แรงม้า แรงบิด 118 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังสามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด กับเกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
-
Suzuki Ciaz รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
-
Suzuki Ciaz รุ่น GL/CVT ราคา 559,000 บาท
14. Suzuki Celerio
Suzuki Celerio ยังคงเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 3 แสนต้น ๆ อัดแน่นด้วยออปชั่นและระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าโครเมียม ชุดไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์-หลอดไฟฮาโล กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ ระบบเครื่องเสียงเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 และ WMA ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารปรับ 3 ระดับ เบาะคู่หน้าปรับเลื่อนได้มากถึง 220 มม. พื้นที่ห้องสัมภาระท้ายมีความจุขนาด 254 ลิตร
สำหรับขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว K10B ความจุ 1.0 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้ประสิทธิภาพประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
-
Suzuki Celerio รุ่น GA MT ราคา 328,000 บาท
-
Suzuki Celerio รุ่น GL CVT ราคา 408,000 บาท
-
Suzuki Celerio รุ่น GX CVT ราคา 437,000 บาท
15. POCCO
POCCO รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ที่งาน Motor Expo 2021 มากับรูปลักษณ์สุดน่ารัก ขนาดกะทัดรัด
POCCO รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กมีให้เลือกทั้งแบบ 3 ประตู และ 5 ประตู ในด้านขุมพลังจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 29 kW หรือประมาณ 39 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. ในด้านแบตเตอรี่จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป โดยจะมีความจุขนาด 9.2-14.5 kWh ให้ระยะทางในการวิ่ง 116-178 กม. สามารถชาร์จด้วยไฟบ้าน จาก 0-100% ในเวลา 6-8 ชม. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : POCCO รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กดีไซน์น่ารัก
ราคาจำหน่าย
-
POCCO รุ่น MM YX ราคา 399,000 บาท
-
POCCO รุ่น MM ZX ราคา 469,000 บาท
-
POCCO รุ่น DD L ราคา 389,000 บาท
-
POCCO รุ่น DD K ราคา 449,000 บาท
สำหรับข้อมูลที่เรานำมาเสนอนี้เป็นเพียงบางส่วนของรถยนต์เท่านั้น หากเพื่อน ๆ สนใจรถใหม่รุ่นไหนเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปสอบถามหรือทดลองขับคันจริงกันดูได้ที่ผู้จำหน่ายโดยตรง เพื่อจะได้มั่นใจว่ารถคันนี้ถูกใจและเหมาะกับการใช้งานของคุณจริง ๆ หรือไม่ หรือถ้าอยากเช็กวันดีสำหรับออกรถใหม่ไว้ก่อน ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : เช็กฤกษ์ออกรถ 2565
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : honda.co.th, honda.co.th (2), honda.co.th (3), toyota.co.th, toyota.co.th (2), mgcars.com, nissan.co.th, nissan.co.th (2), nissan.co.th (3), mazda.co.th, mitsubishi-motors.co.th, mitsubishi-motors.co.th (2), suzuki.co.t, suzuki.co.th (2), poccothailand.com