ปุ่ม Push Start หากเผลอกดตอนรถวิ่งอยู่จะเป็นอะไรไหม อันตรายหรือเปล่า ?

หากเผลอกดปุ่ม Push Start ตอนที่รถกำลังวิ่งอยู่บนท้องถนนโดยไม่ตั้งใจ จะเปิดอะไรขึ้นแล้วเป็นอันตรายหรือไม่อย่างไร

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีสตาร์ตรถยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ หรือการใช้ปุ่ม Push Start เป็นระบบที่นิยมนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ตั้งแต่รถยนต์ Eco Car จนไปถึงรถยนต์หรูราคาแพง บางรุ่นให้มาเป็นออปชั่นมาตรฐาน บางรุ่นอาจมีเฉพาะตัวท็อป ซึ่งแน่นอนว่าปุ่ม Push Start นี้ช่วยให้การสตาร์ตรถสะดวกขึ้น แค่พกกุญแจอยู่กับตัวหรือวางไว้ใกล้ ๆ แล้วกดปุ่มสตาร์ตให้เครื่องยนต์ก็ทำงานได้เลย และด้วยความง่ายแล้วบังเอิญเผลอไปกดปุ่ม Push Start ระหว่างที่รถกำลังวิ่งอยู่ จะเกิดอะไรขึ้น และเป็นอันตรายหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน

ปุ่ม Push Start คือ ปุ่มกดที่ทำหน้าที่แทนการไขกุญแจรถสตาร์ตแบบดั้งเดิม ใช้เปิดใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน (ACC ON หรือ Accesories On) รถยนต์ และสตาร์ตเครื่องยนต์ โดยจะทำงานควบคู่กับกุญแจ Smart Key ซึ่งผู้ขับขี่ต้องพกหรือมี Smart Key อยู่ในรถด้วยถึงจะสามารถสตาร์ตรถได้ โดยเมื่อกดปุ่มที่กุญแจ ซอฟต์แวร์ในกล่อง ECU จะเริ่มส่ง-รับคลื่นความถี่ต่ำเพื่อเข้ารหัสสำหรับปลดล็อกรถ รอให้ผู้ขับกดปุ่ม Push Start และเมื่อเริ่มกดปุ่มเพื่อทำการสั่งการซอฟต์แวร์ให้เปิดระบบไฟฟ้าภายในรถ รวมถึงทำการจุดระเบิดเครื่องยนต์พร้อมทำการขับขี่ได้ทันที 

สำหรับบริเวณที่ติดตั้งปุ่ม Push Start โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จะออกแบบให้ Push Start มีความแตกต่างจากปุ่มต่าง ๆ ภายในตัวรถ และติดตั้งอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่เข้าถึงได้สะดวกสำหรับผู้ขับขี่เท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่ผู้โดยสารหรือเด็กเล็กจะเอื้อมมือเข้ามากดจนอาจเป็นอันตรายในการขับขี่ 

ระบบและการทำงานของปุ่ม Push Start จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อมี Smart Key อยู่ด้วยกัน สำหรับวิธีการใช้งานจะมีอยู่ 3 แบบ คือ

• กดปุ่ม Push Start 1 ครั้ง ก็เปรียบเหมือนการบิดกุญแจ 1 ครั้ง ผู้ขับขี่จะสามารถเปิดวิทยุหรือระบบเครื่องเสียง โดยที่เครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน
   

• กดปุ่ม Push Start ครั้งที่ 2 ก็เหมือนการหมุนกุญแจไปตำแหน่ง ACC ON ระบบไฟฟ้าภายในตัวรถเปิดการทำงานขึ้นสามารถใช้งานระบบ กระจกไฟฟ้า พร้อมไฟเตือนสถานะต่าง ๆ ที่แผงมาตรวัดจะถูกโชว์ขึ้นและดับลง
   

• กดปุ่ม Push Start ครั้งที่ 3 จะเป็นการปิดระบบไฟ และเมื่อเหยียบแป้นเบรก แล้วกดปุ่ม Push Start พร้อมกัน จะเป็นการสตาร์ตเครื่องยนต์ทันที

ขณะที่เรากำลังขับรถอยู่แล้วเผลอไปกดปุ่ม Push Start ซึ่งหากเป็นการกดช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หรือกดไปแล้วชักมือกลับ ตัวรถก็ยังคงทำงานได้ตามปกติ แต่หากกดค้างไว้สัก 2 หรือ 3 วินาที ทั้งเครื่องยนต์ พวงมาลัย และระบบไฟฟ้า รวมถึงทำให้เครื่องยนต์ของรถเรานั้นดับกลางอากาศได้ (ขึ้นอยู่ที่รุ่นรถและการออกแบบระบบเซฟตี้ของแต่ละแบรนด์) เนื่องจากระบบเข้าใจว่ามีเจตนาที่จะดับเครื่องยนต์

ซึ่งการดับเครื่องยนต์ในขณะที่รถกำลังขับเคลื่อนอยู่จัดว่าเป็นอันตรายมาก เนื่องจากระบบผ่อนแรงพวงมาลัยจะไม่ทำงาน ทำให้พวงมาลัยหนัก ควบคุมทิศทางได้ยากขึ้น ขณะที่ระบบเบรกก็จะติดขัด โดยจะกดแป้นเบรกได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น จากนั้นก็จะไม่สามารถเหยียบหรือสั่งงานให้รถหยุดได้อีก เนื่องจากปั๊มเบรกจะไม่ทำงาน จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและสิ่งที่ไม่คาดคิดได้

ปกติการออกแบบตำแหน่งปุ่ม Push Start จะอยู่หลังพวงมาลัยด้านล่าง ไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือขวา จึงเป็นเรื่องยากที่จะเผลอไปกดโดนจนเครื่องดับ แต่หากเกิดในสถานการณ์จริง เผอเรอไปกด Push Start จนทำให้เครื่องยนต์ดับลง ห้รีบผลักเกียร์ที่ตำแหน่ง N เท่านั้น พร้อมกับเหยียบเบรก เพื่อให้ตัวรถชะลอความเร็วลง จากนั้นให้รีบกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ 

หรืออีกวิธีคือประคองรถให้เข้าข้างทางด้านซ้ายมือ โดยต้องระมัดระวังรถที่มาจากด้านหลัง พร้อมกับหลีกเลี่ยงการใช้เบรก เพื่อให้รถมีแรงเฉื่อย พอรถหยุดนิ่งก็ค่อยกลับมาสตาร์ตใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อรถดับห้ามโยกเกียร์หรือเปลี่ยนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P เป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถเสียหายและเป็นอันตรายเพราะถูกกระชากให้หยุดในทันที  

แม้เทคโนโลยีการขับขี่สมัยใหม่จะมีความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย อุ่นใจมากขึ้น แต่หากใช้งานไม่ถูกต้องก็อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่นเดียวกับปุ่ม Push Start ถ้าเผลอกดในระหว่างขับขี่ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายจากอุบัติเหตุได้เช่นกัน ซึ่งคุณจำเป็นต้องรู้จักวิธีการแก้ปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมกับตอกย้ำถึงความไม่ประมาทจากเทคโนโลยีที่สะดวกสบายมากที่สุด

• ซินแสเป็นหนึ่ง แนะ 5 สิ่งไม่มงคล ที่ไม่ควรมีไว้ในรถ !
• ไม่ได้กีดขวาง แค่ขับรถตามรถฉุกเฉิน ผิดไหม
• ไฟแนนซ์ยึดรถ รับมืออย่างไรไม่ให้โดนเอาเปรียบ

ขอบคุณข้อมูลจาก : carfromjapan.com, carthrottle.com, caranddriver.com, blog.nationwide.com,