เปิดวิธีอ่านค่ารหัสต่าง ๆ และวิธีดูปียางมอเตอร์ไซค์บนแก้มยางแบบง่าย ๆ รู้ไว้อุ่นใจกว่าที่คิด !
ยางรถมอเตอร์ไซค์ จัดได้ว่าเป็นชุดอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากสำหรับตัวรถ ว่าแต่เคยสังเกตกันหรือไม่ว่าที่ขอบยางแต่ละเส้นนั้น จะมีรหัสตัวเลขและตัวอักษรปรากฏอยู่บนแก้มยาง ซึ่งบางท่านอาจรู้หรืออาจไม่เคยรู้ความหมายมาก่อน ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีอ่านค่ารหัสตัวเลขและตัวหนังสือดังกล่าวมาแนะนำ ว่าแต่ละตัวนั้นมีความหมายอย่างไร และสื่อถึงอะไรบ้าง
วิธีดูปียางมอเตอร์ไซค์และรหัสต่าง ๆ
ตัวเลขและรหัสตัวอักษรที่อยู่บนแก้มยาง จะเป็นตัวบ่งบอกข้อมูลของยางเส้นนั้น ๆ เช่น มีหน้ากว้างที่เท่าไร ขนาดกี่นิ้ว รวมถึงวันเดือนปีที่ผลิต และบอกถึงคุณลักษณะว่ายางชนิดนี้รองรับการใช้งานได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งถ้าเราศึกษาและมีความรู้จะสามารถเลือกซื้อและนำยางมาใช้ได้เหมาะกับรถของเรา โดยในปัจจุบันจะมีการอ่านค่าตัวเลขบนยางนอกรถมอเตอร์ไซค์อยู่ 2 แบบ คือ แบบมาตรานิ้ว และแบบมาตราเมตริก แต่ที่เราจะเห็นกันบ่อย ๆ จะเป็นการวัดแบบมาตราเมตริก ที่มีอยู่ในยางที่ใช้กันทั่วไป ดังนี้
1. ตัวเลข 2 ตัวหน้าสุด จะบอกถึงหน้ายาง และความกว้างของยาง โดยจะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร จากภาพตัวอย่างที่เห็นยางเส้นนี้จะมีความกว้างของหน้ายางที่ 70 มิลลิเมตร
2. ถัดมาจะเป็นเลขที่บอกถึงซีรีส์ยางหรือความสูงของแก้มยาง มีค่าวัดเป็นเปอร์เซ็นต์จากความกว้างหน้ายางที่มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ จากรูปยางเส้นนี้คือ 70/90 เลข 70 คือ ความกว้างหน้ายางมีขนาด 70 มิลลิเมตร ส่วนเลข 90 คือความสูงแก้มยางที่วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของความกว้างหน้ายาง ในตัวอย่างภาพคือ 90% ของ 70 นั่นก็หมายความว่ายางเส้นนี้มีความสูงอยู่ที่ 63 มิลลิเมตร วิธีคำนวณคือ ยางเส้นนี้มีความสูงของแก้มยางเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ จากความกว้าง 70 มิลลิเมตร คำนวณด้วยวิธี 70 X (90/100) = 63 มิลลิเมตร
3. เลขตัวถัดมาจะเป็นเส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อ ซึ่งจากรูปนี้จะมียางขนาด 17 นิ้ว
4. ส่วนตัวอักษร M/C จะหมายถึง เป็นยางนอกที่ออกแบบมาเพื่อรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ
5. ตัวเลขถัดมาจะเป็นความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุด และตัวหนังสือต่อท้ายจะเป็นสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุดที่ยางเส้นนั้นจะทนได้ จากภาพจะเห็นเลข 38 ต่อท้ายด้วยตัว P ซึ่งตัวเลขจะเป็นค่าดัชนีที่บอกว่ายางเส้นนี้ สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้เท่าไหร่ ส่วนตัวอักษรภาษาอังกฤษจะเป็นค่าความเร็วสูงสุดของยางที่จะรองรับได้ ซึ่งจากภาพจะเป็น 38P หมายถึงยางเส้นนี้จะรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 132 กก. และรองรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 150 กม./ชม.
ตารางความเร็วยางสูงสุดและดัชนีน้ำหนักบรรทุก
ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | ดัชนี | กก. | |||||||
20 | 80 | 30 | 106 | 40 | 140 | 50 | 190 | 60 | 250 | 70 | 335 | 80 | 450 | 90 | 600 | |||||||
21 | 82,5 | 31 | 109 | 41 | 145 | 51 | 195 | 61 | 257 | 71 | 345 | 81 | 462 | 91 | 615 | |||||||
22 | 85 | 32 | 112 | 42 | 150 | 52 | 200 | 62 | 265 | 72 | 355 | 82 | 475 | 92 | 630 | |||||||
23 | 87,5 | 33 | 115 | 43 | 155 | 53 | 206 | 63 | 272 | 73 | 365 | 83 | 487 | 93 | 650 | |||||||
24 | 90 | 34 | 118 | 44 | 160 | 54 | 212 | 64 | 280 | 74 | 375 | 84 | 500 | 94 | 670 | |||||||
25 | 92,5 | 35 | 121 | 45 | 165 | 55 | 218 | 65 | 290 | 75 | 387 | 85 | 515 | 95 | 690 | |||||||
26 | 95 | 36 | 125 | 46 | 170 | 56 | 224 | 66 | 300 | 76 | 400 | 86 | 530 | 96 | 710 | |||||||
27 | 97,5 | 37 | 128 | 47 | 175 | 57 | 230 | 67 | 307 | 77 | 412 | 87 | 545 | 97 | 730 | |||||||
28 | 100 | 38 | 132 | 48 | 180 | 58 | 236 | 68 | 315 | 78 | 425 | 88 | 560 | 98 | 750 | |||||||
29 | 103 | 39 | 136 | 49 | 185 | 59 | 243 | 69 | 325 | 79 | 437 | 89 | 580 | 99 | 775 |
ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | ดัชนี | กม./ชม. | |||||||
B | 50 | E | 70 | J | 100 | M | 130 | Q | 160 | T | 190 | V | 240 | (W) | >270 | |||||||
C | 60 | F | 80 | K | 110 | N | 140 | R | 170 | U | 200 | (V) | >240 | Y | 300 | |||||||
D | 65 | G | 90 | L | 120 | P | 150 | S | 180 | H | 210 | W | 270 |
6. รหัสบอกตำแหน่งสวมใส่ยาง เช่น อักษร F = หน้า R = หลัง หรือเป็นลูกศรชี้ไปข้างหน้า-หลัง เพื่อให้ใส่ยางได้อย่างถูกต้อง โดยหัวลูกศรจะต้องชี้ไปในทิศทางที่ล้อหมุนไปข้างหน้าเท่านั้น ถ้าใส่กลับด้านจะมีผลต่อการขับขี่และการเบรกของตัวรถ
7. ตัวเลขที่จะบ่งบอกว่ายางเส้นนี้ผลิตขึ้นเมื่อไหร่ ให้ดูที่คำว่า DOT ซึ่งแสดงว่ายางเส้นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยของกรมการขนส่ง ส่วนชุดตัวเลขที่ตามจากภาพจะเป็น 18M C3975L คือรหัสของโรงงานที่ผลิต รหัสขนาดยาง และตราสินค้าของผู้ผลิตรวมถึงลักษณะเฉพาะอื่น ๆ ของยางแต่ละเส้น
สำหรับตัวเลข 4 ตัวสุดท้าย จะเป็นตัวบอกวันผลิตของยาง โดยตัวเลข 2 ตัวแรกบอกสัปดาห์ ตัวเลข 2 ตัวหลังบอกปี จากตัวอย่างคือ 0921 นั่นหมายถึงเป็นยางที่ผลิตในสัปดาห์ที่ 9 ของปี ค.ศ. 2021 ทั้งนี้การเลือกยาง ควรเลือกซื้อยางที่ผลิตในปีที่จะซื้อ หรืออย่างน้อยสุดให้ย้อนหลังไปได้ 1 ปี เช่น ปีนี้ 2021 ควรซื้อยางที่ผลิตในปี 2020 ถ้าต่ำกว่านั้นถือว่าเป็นยางเก่าเก็บ ไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้
ยางมอเตอร์ไซค์ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่ มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน
ยางมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10,000-20,000 กม. หรือขึ้นอยู่กับการใช้งาน อีกทั้งยังอยู่ที่ปัจจัยแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งการไม่ได้ใช้งานก็สามารถทำให้ยางเสื่อมสภาพได้ ในด้านการตรวจสอบว่ายางเส้นนั้นเสื่อมหรือเริ่มใช้งานไม่ได้ ให้ดูจากบริเวณดอกยาง หากดอกยางเริ่มบาง หน้ายางเริ่มเป็นผิวเรียบ อีกหนึ่งจุดสังเกตที่สำคัญก็คือ สะพานยาง หากใช้นิ้วสัมผัสแล้วพบว่าสะพานอยู่ตื้นมาก นั่นก็หมายความว่าดอกยางเริ่มหายไปเยอะ รวมถึงดูรอยแตกลายงา และรอยปริต่าง ๆ หรือลองใช้เล็บจิกดูว่าเนื้อยางมีความแข็งมากน้อยขนาดไหน ถ้าตัวยางเริ่มแข็งแสดงว่าเนื้อยางเสื่อมคุณภาพ ถ้ามีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้ทันที (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ยางมอเตอร์ไซค์ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่)
รหัสตัวอักษรและตัวเลข รวมถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนแก้มยางรถมอเตอร์ไซค์นั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ควรรู้และต้องให้ความสำคัญ หากรู้หลักและใช้เป็นจะช่วยทำให้สามารถเลือกใช้ยางได้ถูกต้องกับตัวรถ เพราะยางแต่ละยี่ห้อ แต่ละแบรนด์ จะถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบให้ดีว่าท่านต้องการใช้ยางแบบไหน เหมาะกับสไตล์ของรถมากน้องเพียงใด เพราะถ้าเลือกผิดอาจจะส่งผลอันตราย และเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ก็ควรที่จะศึกษาและดูให้ดีเสียก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก : chapmoto.com, utires.com, motofomo.com, wilkinsharley.com, cameltire.com, mitas-moto.com, bridgestone.com, michelin.co.th