ขับทดสอบ Ford Ranger Raptor 2018 กระบะสมรรถนะสูง ออนโรดดีแค่ไหน เข้าทางฝุ่นเป็นอย่างไร เก็บข้อมูล ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 2018 กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/a54eae36-8c3d-4c9c-89ca-55710063171a.jpg)
ตั้งแต่ย่างเข้าปี พ.ศ. 2561 ฟอร์ด ประเทศไทย ถือว่าพลิกโฉมวงการกระบะ 1 ตัน ด้วยการ World Premiere กับ Ford Ranger Raptor 2018 ที่สื่อสารมาให้ชัด ๆ ว่าคือกระบะสมรรถนะสูง
เหตุผลที่ฟอร์ด ประเทศไทย ได้โอกาสเปิดตัว Ford Ranger Raptor 2018 เพราะประเทศไทยมีตลาดกระบะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก หากนับเฉพาะกระบะ 1 ตัน เราเป็นตลาดใหญ่สุดในโลก ที่สำคัญ Ford Ranger สร้างยอดขายในไทยได้มากที่สุดในโลก
จุดเด่นของ Ford Ranger Raptor 2018 มาพร้อมเครื่องยนต์ ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์ 10 สปีด ปรับโหมดการขับขี่ได้ 6 รูปแบบ หลายคนพูดถึงมากที่สุด คือช่วงล่างด้านหลังคอยล์สปริงกับโช้คอัพจาก Fox Racing Shox มีซับแท็งก์ ระบบบายพาสภายในตัวโช้ค เพราะสมรรถนะสูงในที่นี้ไม่ใช่แรงเพื่อไปบรรทุกหนักอีกต่อไป... กับราคาค่าตัว 1.699 ล้านบาท
หลายคนที่ได้เห็นราคาของ Ford Ranger Raptor 2018 ให้ความเห็นว่าแพง หรือแม้แต่คนรู้จักรอบตัวผู้เขียนก็ถามและบ่นถึงเรื่องนี้เช่นกัน
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2561 ฟอร์ด ประเทศไทย ก็เปิดโอกาสจัดทริปทดสอบให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบ Ford Ranger Raptor 2018 ถือเป็นทริปทดสอบที่จัดจ้านแห่งปีก็ว่าได้ จนเกิดวาทกรรม "กระบะบินได้"
สิ่งที่อยากสื่อสารให้เข้าใจกันจริง ๆ คือ Ford Ranger Raptor 2018 เป็นกระบะที่มีดีเทลเยอะมากในแต่ละส่วนอุปกรณ์ เราจึงขอโฟกัสเรื่องทดสอบขับและประเด็นที่ได้สัมผัส ส่วนใครที่อยากติดตามว่าแต่ละอุปกรณ์เป็นอะไร พิเศษตรงไหน
Ford Ranger Raptor 2018 ราคาไม่เผย แต่เปิดกระหึ่มที่แรกของโลก
Ford Ranger Raptor 2018 มิติรถที่ใหญ่ แต่ขับในเมืองง่าย
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/713af129-bb6b-4fab-bb07-16bf398d2718.jpg)
เรื่องนี้ผู้เขียนก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ด้วยความสูงใต้ท้องรถ 283 มม. ความสูงตัวรถ 1,873 มม. (Ford Everest ใต้ท้องรถ 225 มม. ความสูงตัวรถ 1,836 มม.) ทำให้คนขับเห็นมุมมองที่สูงตาม สามารถมองผ่านหลังคารถยนต์เกือบทุกคันบนท้องถนน.. ช่วงวิ่งบนทางด่วนเจอรถติด แต่เห็นเหตุการณ์ว่ารถเกือบทุกคันแย่งกันเบี่ยงซ้ายเพื่อจะออก หรือเห็นก่อนไปแล้วว่าเจอทางติดอยู่ไกล ๆ วางแผนการขับง่ายมาก
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/c625f345-d735-4c1a-aa86-64d9617e0beb.jpg)
ส่วนความกว้าง 2,180 มม. และ ยาว 5,398 มม. ช่วงแรกที่ขับต้องเรียกสมาธิกันพอสมควรกับการกะระยะเลี้ยว โดยเฉพาะการเลี้ยวออกมาในถนน ได้ขับสักพักชินแล้วก็ดีขึ้น
Ford Ranger Raptor 2018 กับพวงมาลัย EPS (Electronic Steering Program)
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/1c465328-b31f-4499-a1be-b53e1e0fa99f.jpg)
บนถนนในช่วงความเร็วต่ำถูกเซตให้หนักใกล้เคียงกับรถกระบะรุ่นอื่น ๆ โดยส่วนตัวถือว่าหนักและจะหนักขึ้นแปรผันตามความเร็ว และชอบที่มีแรงดึงพวงมาลัยให้ตั้งตรง มีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดนี้มาจากการเซตของพวงมาลัยไฟฟ้า
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/20861b3a-74d2-4da0-bf53-fa5a6aecedfc.jpg)
เมื่อเข้าออฟโรด พวงมาลัย EPS ช่างดีงาม ผ่านการไต่หิน ทางโคลน ลงน้ำ ทางจั๊มพ์ พวงมาลัยก็ไม่ดิ้นเยอะ คอนโทรลง่าย ไม่เกิดอาการสะบัด เมื่อเข้าทดสอบบาฮาโหมด ที่ต้องหมุนพวงมาลัยเยอะเป็นพิเศษ แถบสีแดง On-Centre Marker บอกตำแหน่งการตั้งตรงพวงมาลัยก็ได้ใช้จริง ๆ สักที
Ford Ranger Raptor 2018 เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบคู่ เกียร์ 10 สปีด
สเปกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบคู่อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 10 สปีด
แบกน้ำหนักผู้ชาย 3 คน น้ำหนักรวมราว ๆ 220 กก. ทดสอบ 0-100 กม./ชม. ได้ประมาณ 11.1 วินาที หลังจาก 100 กม./ชม. ขึ้นไป เมื่อเติมคันเร่ง เข็มไมล์ยังกวาดตามจังหวะการเติมได้อย่างดี สมรรถนะเหลือเฟือ ในช่วงทดสอบไต่หินความชันราว ๆ 25 องศาจากทางราบ โดยไม่ต้องเติมคันเร่งได้ (ในโหมด Rock)
ช่วงขากลับอัดแน่นด้วยผู้ชาย 4 คน คาดน้ำหนักรวมกันราว ๆ 290 กก. วิ่งจากอำเภอสีคิ้ว เข้ากรุงเทพฯ การจราจรโดยรวมมีรถติดบ้างเล็กน้อย เมื่อถึงที่หมายอัตราสิ้นเปลืองโชว์ที่ 10.1 กม./ลิตร
Ford Ranger Raptor 2018 โช้คอัพจาก Fox เข้าใจแล้ว ทำไมต้องจ่าย
สำหรับผู้เขียน คิดว่าบททดสอบที่ดีมากช่วงหนึ่งคือการใช้เส้นทางบนเขาใหญ่ เพราะเป็นเส้นทางที่คุ้นเคยมากแถมมีโอกาสลองกระบะหลายรุ่นบนเส้นทางนี้ ทำให้นึกถึงและเปรียบเทียบ Ford Ranger Raptor 2018 ได้อย่างชัดเจนมาก
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/3d9eb9eb-5415-489e-afc9-472262ea8ba1.jpg)
การโยนตัวในห้องโดยสารเวลาเลี้ยว น้อยมากและขอย้ำอีกครั้งว่าน้อยจริง ๆ ใช้ช่วงความเร็ว 80 กม./ชม. เป็นส่วนใหญ่ การเข้าโค้งจะรู้สึกว่าโช้คยุบตัวให้นิด ๆ แล้วเหมือนหนืดขึ้น รักษาบาลานซ์ในห้องโดยสารดี
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/9840a4ae-812b-4f8b-93e1-ca76815d4bb5.jpg)
ทุกอย่างเหมือนรู้กัน จุดทดสอบหลังคือลูกระนาด หลายคันผ่านโดยไม่มีไฟเบรกเปล่งมาแม้แต่น้อย แน่อนว่าคันที่เราขับทดสอบก็เช่นกัน บอกเลยว่าผ่านสบาย ไม่มีอาการกระแทกจุก ของในห้องโดยสารเด้งเพียงเล็กน้อย เห็นชัดว่าเหนือกว่าจริง ๆ ทั้งหมดนอกจากโช้คดีแล้วคงต้องยกความดีให้วัตต์ลิงก์ด้วย
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/31e354be-193b-4ae6-94fd-7be8fe06f997.jpg)
ทดสอบสมรรถนะบนออฟโรด ซึ่งมีการใช้ความเร็วบนทางออฟโรด ราว ๆ 100 กม./ชม. ซึ่งรถสะเทือน แต่น้อย ให้ความรู้สึกที่ควบคุมรถอยู่พร้อมเร่งไปได้อีก
![](https://s359.kapook.com/rq/600/auto/50/pagebuilder/6e7414b3-057b-4e91-8753-b857104a96cc.jpg)
![](https://s359.kapook.com/rq/600/auto/50/pagebuilder/1428f81d-d1f3-4e5c-b3fb-de5a9e944091.jpg)
"กระบะบินได้" คือความโหดที่สุด ถ้าเป็นรถของผมเองเจอเนินจะจัมพ์ขนาดนี้ไหม... ตอบเลยครับว่าไม่ ! แต่ฟอร์ดเลือกให้ทุกคนที่เข้าทริปพา "กระบะบินได้" คือมองในแง่สมรรถนะมันสุดยอดมาก ซึ่งหลังจากพารถบินทุกคนก็สามารถคอนโทรลรถวิ่งต่ออย่างสบาย ๆ
นึกไม่ออกถ้าเป็นกระบะรุ่นอื่นมาจั๊มพ์ขนาดนี้จะเกิดอะไรขึ้น.. ผมว่าภาพการทดสอบมันบอกได้มากกว่าที่จะเล่าไปแล้ว อ้อ...ที่สำคัญ หนึ่งคันบินไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ด้วยจำนวนสื่อที่ไป แต่เลือกรถมาใช้แค่ 6 ผลัดกันขับเพราะมีอินสตรักเตอร์จำนวนเพียงแค่นี้
Ford Ranger Raptor 2018 การปรับโหมดขับขี่ และจออินโฟเทนเมนต์ เฟรนด์ลี่ยูสมากกก
![](https://s359.kapook.com/rq/600/auto/50/pagebuilder/7cc55fb0-95cd-44bc-a258-b951431b3f9a.jpg)
![](https://s359.kapook.com/rq/600/auto/50/pagebuilder/91f5f60c-ffd9-447c-bf1e-862f5758afe5.jpg)
- โหมดปกติ เน้นความสบาย นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน
- โหมดสปอร์ต มีการตัดระดับเกียร์ต่ำลง รอบเครื่องสูงขึ้นเพื่อเรียกแรงบิด กดคันเร่งแล้วพุ่งการเดิม
- โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ สำหรับทางออฟโรดผิวลื่น รถจะพยายามใช้รอบต่ำเพื่อไม่ให้มีการกระชาก ลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ
- โหมดโคลน/ทราย ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง
- โหมดหิน ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้า ๆ
- โหมดบาฮา ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็ว
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/cec7608c-d031-40dd-921e-bbe65cd4cd16.jpg)
ทั้งหมดสามารถเลือกได้ง่าย ๆ ผ่านปุ่มที่พวงมาลัยทางด้านซ้าย ในแต่ละโหมดจะแจ้งให้ด้วยว่าใช้กับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ, 4hi หรือ 4low ซึ่งการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4low ให้เข้าเกียร์ N ก่อน ทำได้รวดเร็วดี แต่ละโหมดสามารถใช้งานตามสภาพถนนได้จริง ๆ ปรับทั้งรอบเครื่อง ระบบช่วยต่าง ๆ และน้ำหนักพวงมาลัย
Ford Ranger Raptor 2018 สมรรถนะสร้างสุนทรียะ
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/695106e2-9449-4d0a-aea0-58a519eab2fe.jpg)
บนถนนลาดยาง วิสัยทัศน์การขับขี่ที่ดี พวงมาลัย ช่วงล่าง กำลังจากเครื่องและเกียร์ ทำให้การขับทางไกล 200-300 กม. เป็นเรื่องที่สบายมาก ช่วงการเร่งแซงสามารถกดเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยแพดเดิลชิฟต์ เข็มไมล์กวาดไปแตะ 160 กม./ชม. เพลินขับเหมือนใช้ความเร็ว 100 กม./ชม. หันมาคุยกับเพื่อนโดยสารได้สบาย เสียงลมเสียงรบกวนก็เริ่มราว ๆ นี้
ถนนฝุ่น อย่างที่กล่าว ทุกอย่างประสานทำให้การขับขี่บนทางแบบนี้กลายเป็นเรื่องสนุกและไม่เหนื่อยพลังกาย ทำทุกอย่างครบรส
สิ่งที่ไม่ชอบคือเบาะนั่งที่โดยสาร ปรับมือล้วน ๆ กับวัสดุประกอบภายในห้องโดยสารที่แย่เลยเมื่อเทียบกับค่าตัว 1.699 ล้านบาท แต่ต้องยอมรับในเรื่องสมรรถนะ จะคุ้มไหมก็อยู่ที่คุณแล้ว เพราะราคานี้ซื้อกระบะได้ 2 คันเลย แต่นำกระบะ 2 คันมาโดด ก็คงต้องซ่อมทั้งสองคันเป็นแน่...
![](https://s359.kapook.com//pagebuilder/6090d32c-cebc-4224-a259-69d5a47017d8.jpg)