เปิดแล้ว สนามทดสอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ Honda เพิ่มศักยภาพการวิจัยและพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยบริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (หรือ HRAP)วันที่ 20 กรกฎาคม 2560 บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (หรือ HRAP) จัดพิธีเปิดสนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี อย่างเป็นทางการ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี
ย้อนกลับไปวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (HRAP) เป็นวันที่เริ่มต้นสร้าง พร้อมจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ให้แก่สนามทดสอบ ถึงเวลานี้ได้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย
สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี เป็นสนามทดสอบแบบครบวงจรที่มีเอกลักษณ์ และได้รับการออกแบบมาสำหรับภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียโดยเฉพาะ ด้วยเงินลงทุน 1,700 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างสนามทดสอบ ที่ประกอบด้วย 8 สนาม บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ (หรือประมาณ 800,000 ตร.ม.)
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ที่มีสนามทดสอบของฮอนด้า ต่อจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศสหรัฐอเมริกา
สนามทดสอบแห่งใหม่นี้ ใช้สำหรับการทดสอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยจะมีการทดสอบในหลายรูปแบบ เช่น การควบคุมรถ การทรงตัว และสมรรถนะโดยรวม เพื่อนำผลทดสอบไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะจำหน่ายในภูมิภาคนี้
สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี แห่งนี้ ประกอบด้วยสนามทดสอบที่จำลองสภาพถนนและลักษณะภูมิประเทศในรูปแบบต่างๆ 8 สนาม โดยความยาวรวมประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งเป็นสนามทดสอบรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1) สนามทดสอบรูปวงรี (Oval Course): สนามทดสอบรูปวงรีความยาว 2.18 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ในขณะขับด้วยความเร็วสูง รวมถึงการทดสอบอื่นๆ เช่น ระดับเสียงของลมที่เข้ามาในห้องผู้โดยสาร และการควบคุมพวงมาลัย
2) สนามทดสอบทางโค้ง (Winding Course): สนามทดสอบทางโค้งความยาว 1.38 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะโดยทั่วไป รวมถึง การทดสอบประสิทธิภาพของระบบเบรก และการควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง สนามทดสอบทางโค้งนี้มีการจำลองถนนที่มีการขึ้น-ลง และถนนที่มีมุมอับสายตา รวมมีทางโค้งทั้งหมด 17 โค้ง
3) สนามทดสอบไดนามิกส์ (Vehicle Dynamics Area): สนามทดสอบที่เชื่อมต่อกับสนามทดสอบรูปวงรี ใช้ทดสอบการควบคุมการทรงตัวของรถ ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง และทดสอบประสิทธิภาพของการเบรก ขณะเข้าทางโค้งแบบหักศอก
4) สนามทดสอบที่มีน้ำท่วมขัง (Wet Course): สนามทดสอบที่จำลองสภาพถนนที่เปียกและลื่น ใช้ทดสอบผลกระทบของน้ำท่วมขังที่มีต่อสมรรถนะของรถยนต์ ประกอบด้วย Pool Road, Splash Road, Wet Brake Road โดยสนามนี้สามารถปรับระดับความลึกของน้ำได้ตั้งแต่ 0-1,000 มิลลิเมตร เพื่อจำลองสถานการณ์น้ำท่วม ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยในทวีปเอเชีย โดยเป็นการทดสอบการกันน้ำและผลกระทบต่อห้องเครื่องยนต์
5) สนามทดสอบสภาพพื้นผิวถนนในรูปแบบต่างๆ (Ride Road Course): สนามทดสอบนี้จำลองสภาพพื้นผิวถนนของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ใช้ทดสอบสมรรถนะทั่วไปบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน โดยมีถนนลักษณะต่างๆ ถึง 8 รูปแบบด้วยกัน อาทิ ถนนคอนกรีต (Concrete Highway) ถนนยางมะตอยที่มีพื้นผิวชำรุด (Noise Road) และถนนลาดเอียง (Camber Road)
6) สนามทดสอบที่มีพื้นผิวพิเศษ (Special Surface Courses): สนามทดสอบนี้ได้รับการออกแบบและสร้างด้วยเทคโนโลยี 3 มิติ เพื่อจำลองพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ใช้ทดสอบความทนทานของช่วงล่างรถยนต์ โดยมีพื้นผิวถนนลักษณะต่างๆ ถึง 8 รูปแบบด้วยกัน อาทิ ถนนที่จำลองลูกระนาด (Speed Breaker) และถนนคอนกรีตที่มีพื้นผิวขรุขระ (Concrete Rough Road)
7) สนามทดสอบทางลาดชัน (Slope Course): สนามทดสอบทางลาดชัน ใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ และประสิทธิภาพของระบบเบรก
8) สนามทดสอบทางตรง (Straight Course): สนามทดสอบทางตรงความยาว 1.2 กิโลเมตร ใช้ทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมัน และอัตราการเร่งความเร็วหลังจากออกตัว
สนามทดสอบแห่งนี้ยังมีพื้นที่สนามหญ้า ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์ดูแลสนามหญ้าของฮอนด้าอีกด้วย สนามทดสอบปราจีนบุรีแห่งนี้ จะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ฮอนด้า เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในอนาคต เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาของฮอนด้า
บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ฮอนด้าเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายแรกที่เปิดหน่วยงานวิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากการก่อตั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนารถจักรยานยนต์ ขึ้นในปี พ.ศ. 2531
ต่อมาจึงได้ก่อตั้งหน่วยงานวิจัยด้านรถยนต์ในประเทศไทยขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อพัฒนาและจัดหาชิ้นส่วนภายในประเทศและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการผลิตรถยนต์อีกด้วย ต่อมาได้ขยายบทบาทเพิ่มขึ้นทั้งด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์และการควบคุมคุณภาพ
ในปี พ.ศ. 2548 หน่วยงานวิจัยด้านรถยนต์ของฮอนด้าได้จดทะเบียนนิติบุคคลในชื่อ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (HRAP) โดยปัจจุบันรับผิดชอบดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนารถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย