เปิดตำนาน 111 ปี ฟอร์ดกับรถยนต์รุ่นแรก ฟอร์ด โมเดลที

ฟอร์ด โมเดลที

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Ford

          บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ มีอายุครบ 111 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ฟอร์ดจะพาเดินทางย้อนเวลาไปยัง ค.ศ. 1908 ซึ่งเป็นปีที่ "ฟอร์ด โมเดลที" ซึ่งเป็นรถคันแรกของฟอร์ดได้ถูกผลิตขึ้น

          ตลอดระยะเวลาหนึ่งศตวรรษ ฟอร์ดเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกลายมาเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 130 ประเทศใน 5 ทวีปทั่วโลก ได้แก่ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และอเมริกาเหนือ


          ทั้งนี้ภายในระยะเวลา 1 วัน (24 ชั่วโมง) โรงงานฟอร์ดทั่วโลกสามารถผลิตรถยนต์รวมกันถึง 17,342 คัน โดยพนักงานฟอร์ดทั่วโลกกว่า 183,000 คน ร่วมกันพัฒนาและสร้างสรรค์ยานยนต์มาตรฐานเดียวกันภายใต้แผน One Ford ซึ่งเป็นแผนงานระดับโลกของฟอร์ด

          ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของฟอร์ด มีจุดเริ่มต้นมาจากชายที่มีชื่อว่า เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) โดยฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ไม่ได้เป็นบริษัทรถยนต์บริษัทแรกที่ เฮนรี่ ฟอร์ด ก่อตั้งขึ้น เขาทิ้งธุรกิจรถยนต์เดิมที่มีชื่อว่า เดอะ เฮนรี่ ฟอร์ด คัมปะนี (The Henry Ford Company) หลังจากมีปัญหากับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ โดยตั้งชื่อตาม Antoine de la Mothe Cadillac นักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้ค้นพบเมืองดีทรอยต์

          รถยนต์ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของประวัติศาสตร์โลกและตลาดรถยนต์ไปตลอดกาลคือ ฟอร์ด โมเดลที (Ford ModelT) คันแรกผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1908 และในปี ค.ศ. 1916 ร้อยละ 55 ของรถยนต์บนท้องถนนก็คือ ฟอร์ด โมเดลที รุ่นนี้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ฟอร์ด โมเดลที เป็นที่นิยมอย่างมากคือราคาที่ถูกกว่าถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับราคาของรถยนต์คู่แข่งรายอื่น ๆ ในขณะนั้น

          ในปี ค.ศ. 1911 พนักงานของฟอร์ดชื่อว่า เฮนรี่ อเล็กซานเดอร์ (Henry Alexander) ขับรถฟอร์ด โมเดลที ขึ้นยอดเขาเบน เนวิส (Ben Nevis) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักร เพื่อพิสูจน์ความทรหดและความแข็งแกร่งของรถ ที่ต้องฟันฝ่า และปีนป่ายขึ้นเนิน บนสภาพถนนที่มีทั้งหิมะ และหินขรุขระ ตลอดเส้นทาง โดยเขาสามารถขับรถ ฟอร์ด โมเดลที ขึ้นสู่ยอดเขาได้สำเร็จโดยใช้เวลาขับถึง 5 วันเต็ม


          เดิมทีฟอร์ด โมเดลที มีจำหน่ายหลากหลายสีและโด่งดัง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนวิธีมาสู่การผลิตแบบสายพานในปี ค.ศ. 1913 ฟอร์ด โมเดลที ก็ถูกผลิตแต่เพียงสีดำเพียงสีเดียว เนื่องจากสีดำเป็นสีที่แห้งเร็วที่สุด

          ฟอร์ด โมเดลที ถูกผลิตต่อเนื่องยาวนาน 19 ปี และเมื่อโมเดลทีคันสุดท้ายออกจากสายการผลิต ณ โรงงานฟอร์ด ไฮแลนด์ ปาร์ค (Highland Park Plant) รัฐมิชิแกน ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1927 ฟอร์ดได้ผลิตฟอร์ด โมเดลทีไปแล้วถึง 15 ล้านคัน

          ในปี ค.ศ. 1999 Global Automotive Elections Foundation ได้ยกให้ฟอร์ด โมเดลที เป็น รถแห่งศตวรรษ (Car of the Century)


ฟอร์ด โมเดลที

          ในปีค.ศ.1916 ร้อยละ 55 ของรถยนต์บนท้องถนนคือฟอร์ด โมเดลที
 
ฟอร์ด โมเดลที

          เอ็ดเซล ฟอร์ด (Edsel Ford) ขับรถให้พ่อของเขา เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) ออกจากโรงงานผลิตฟอร์ด ไฮแลนด์ ปาร์ค (Ford Highland Park) ในฟอร์ด โมเดลที คันสุดท้ายที่ถูกผลิตขึ้น
 
ฟอร์ด โมเดลที

          เอ็ดเซล ฟอร์ด (Edsel Ford) เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford)  เฮนรี่ ลีแลนด์ (Henry Leland) และวิลเฟรด ลีแลนด์ (Wilfred Leland)    

ฟอร์ด โมเดลที

          เฮนรี่ อเล็กซานเดอร์ (Hery Alexander)กำลังขับฟอร์ด โมเดลที ปีนขึ้นเขาเบน เนวิส (Ben Nevis) ยอดเขาที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักร
 
ฟอร์ด โมเดลที

          ฟอร์ด โมเดลที ระหว่างการผลิต ณ โรงงานฟอร์ด ปิเกต์ (Ford’s Piquette Plant) เมืองดีทรอยต์ ก่อนที่การผลิตจะย้ายไปผลิตที่สายการผลิตแบบสารพาน ณ โรงงานไฮแลนด์ ปาร์ค (Highland Park Plant)   

ฟอร์ด โมเดลที

          โมเดลที 2 คันจอดอยู่นอกสำนักงานใหญ่ฟอร์ดในเมืองดีทรอยต์ ระหว่างงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของบริษัท





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดตำนาน 111 ปี ฟอร์ดกับรถยนต์รุ่นแรก ฟอร์ด โมเดลที อัปเดตล่าสุด 29 มิถุนายน 2564 เวลา 17:18:14 8,255 อ่าน
TOP
x close