ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bmwgroup
มินิ (Mini) ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กดีไซน์สวยที่คงเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างต่อเนื่องมานานหลายสิบปี ซึ่งเมื่อปลายปี 2013 มินิก็ได้เผยโฉมรถยนต์เล็กขวัญใจใครหลาย ๆ คนในโฉมใหม่เป็นที่เรียบร้อย โดยในรุ่นปี 2014 มินิได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ สิ่งให้กับรถเล็กตาโตรุ่นนี้ไปมากทีเดียว
เริ่มกันที่การออกแบบภายนอก ถึงแม้จะยังคงเส้นสายโค้งมนน่ารักพร้อมกับไฟหน้าดวงกลมขนาดใหญ่และไฟท้ายดวงยาว แต่ก็ได้ใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไฟเดย์ไลท์ LED ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนโดยมีความยาว 3,821 มิลลิเมตร กว้าง 1,727 มิลลิเมตร สูง 1,414 มิลลิเมตร และมีฐานล้อกว้าง 2,495 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่โดยสารมีขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งยังปรับรูปทรงของกันชนและกระจังหน้าใหม่ทำให้ดูทันสมัยกว่าเดิม
ด้านความปลอดภัยก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มินิให้ความใส่ใจมากทีเดียว ซึ่งก็ได้จัดเต็มทั้งถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้าง ฝาปิดหน้ารถออกแบบเพื่อลดการบาดเจ็บเมื่อชนคนเดินเท้า นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ ช่วยให้การขับขี่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น เช่น ระบบช่วยจอด, กล้องมองหลัง, ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานคู่กับระบบตรวจจับต่าง ๆ , ระบบเตือนคนเดินเท้าพร้อมกับระบบเบรกอัตโนมัติ, ไฟหน้าแบบปรับอัตโนมัติ, ระบบอ่านเครื่องหมายจราจรอัตโนมัติ และระบบควบคุมที่ปัดน้ำฝนและไฟหน้าตามสภาพอากาศ รวมถึงโหมดช่วงล่างแบบ Sport และ Comfort เพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมทุกสภาพถนน
ระบบขับเคลื่อนของมินิ มีทั้งหมด 5 รุ่นตามรุ่นย่อย โดยทุกรุ่นมีสามารถเลือกจับคู่ได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ
- มินิ คูเปอร์ เอส (Mini Cooper S) มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบ กำลัง 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. ทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีที่สุด 19.2 กม./ลิตร และมีอัตราปล่อยไอเสีย 133กรัม/กม.
- มินิ คูเปอร์ (Mini Cooper) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1,500 ซีซี เทอร์โบ กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที มีความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีที่สุด 22.2 กม./ลิตร และมีอัตราปล่อยไอเสีย 105 กรัม/กม.
- มินิ วัน (Mini One) ได้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1,200 ซีซี กำลัง 102 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 10.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 195 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 21.7 กม./ลิตร และมีอัตราปล่อยไอเสีย 108 กรัม/กม.
- มินิ คูเปอร์ ดี (Mini Cooper D) มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ ขนาด 1,500 ซีซี เทอร์โบ กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 28.5 กม./ลิตร และอัตราปล่อยไอเสีย 92 กรัม/กม.
- มินิ วัน ดี (Mini One D) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ ขนาด 1,500 ซีซี เทอร์โบ กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำเวลาได้ 11 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 29.4 กม./ลิตร และปล่อยไอเสีย 89 กรัม/กม.
สำหรับรุ่น คูเปอร์, คูเปอร์ ดี และคูเปอร์ เอส ได้ประกาศราคาจำหน่ายในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรุ่น Cooper มีราคาเริ่มต้น 15,300 ปอนด์ (ประมาณ 778,000 บาท) รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Cooper D เริ่มต้น 16,450 ปอนด์ (ประมาณ 837,000 บาท) และรุ่นแรงสุดในขณะนี้ Cooper S มีราคาเริ่มต้น 18,600 ปอนด์ (ประมาณ 946,000 บาท) โดยจะเริ่มจำหน่ายภายในต้นปี 2014 ส่วนรุ่นประหยัดอย่างมินิ วัน ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลยังไม่มีการประกาศแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายภายในปลายปี 2014 นี้