หากกล่าวถึงหนึ่งในสุดยอดยนตกรรมระดับหรูระดับสุดยอดก็คงหนีไม่พ้นเมอร์เซเดส เบนซ์ เอส คลาส (Mercedes Benz S-Class) สุดยอดยานยนต์พรั่งพร้อมด้วยการออกแบบหรูหราอลังการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม และสมรรถนะแสนเร้าใจ ถือเป็นยอดพาหนะที่ให้การเดินทางสะดวกสบายและบ่งบอกตัวตนสำหรับผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ ซึ่งวันนี้ เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำยอดรถยนต์ระดับหรูคันนี้ มาให้ชาวไทยได้สัมผัสในรุ่นเอส 400 ไฮบริด (Mercedes Benz S 400 Hybrid) กันแล้ว
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูระดับโลกในตระกูล S-Classใหม่ล่าสุดด้วยรุ่น S 400 HYBRID AMG Premium รหัสตัวถัง V 222ด้วยความเลิศหรู อลังการ มาพร้อมกับภาพลักษณ์ใหม่ของการออกแบบบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำแห่งยนตรกรรมหรูหราระดับพรีเมี่ยม The new S-Class ยานยนต์ที่ได้รับการรังสรรค์ใหม่ภายใต้แนวคิด Vision accomplished ด้วยความเป็นเลิศแห่งวิศวกรรมยานยนต์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ระบบการขับขี่แบบอัจฉริยะ (Intelligent Drive) เทคโนโลยีประหยัดพลังงานใหม่ล่าสุด (Efficient Technology) และความหรูหราสง่างามในทุกองค์ประกอบ (Essence of Luxury) โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่หมดที่คงความหรูหรา น่าหลงใหล ล่าสุดได้รับรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลกจาก Red Dot Award 2013 และ Automotive Brand Contest 2013 นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดแบบ V6 พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นรถยนต์ที่ขับขี่ปลอดภัยอย่างชาญฉลาด
ภายนอกออกแบบอย่างหรูหราอลังการ ผสานแนวคิดการออกแบบเน้นความทันสมัยและเฉียบคมสวยงามน่าดึงดูด เน้นความโดดเด่นและลงตัวตั้งแต่ด้านหน้ารถ พร้อมเส้นสายที่พลิ้วไหวจนถึงด้านท้ายรถ สร้างความหรูหราแต่ก็ยังไม่ทิ้งความสปอร์ตด้วยการแฝงอารมณ์คูเป้ที่เส้นท้ายรถ มิติรถอลังการสร้างความสบายได้ถึงที่สุดโดยมีมิติรถยาว 5,246 มม. กว้าง 1,899 มม. และสูง 1,496 มม. พร้อมกับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศที่ 0.26 ในรุ่นไฮบริด และ 0.23 ในเอส คลาส รุ่นอื่น ๆ ซึ่งเป็นรองเพียงเมอร์เซเดส เบนซ์ ซีแอลเอ คลาส (Mercedes Benz CLA Class) ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในโลกที่ 0.22 เท่านั้น
ภายในของเมอร์เซเดส เบนซ์ เอส คลาส จัดว่างดงามเหนือระดับ โดยยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่โดดเด่นด้วยความหรูหราและนั่งสบาย ผสมสานกับอุปกรณ์สมัยใหม่ที่อำนวยความสะดวกได้อย่างเต็มที่ เริ่มตั้งแต่ลายไม้สุดหรูหรา เบาะนั่งหุ้มหนังแนปปาที่ตัดเย็บด้วยรูปทรงเพชรดูหรูหรา พร้อมผ้าหลังคาและแผงบังแดดหุ้มด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ และจุดเด่นที่สุดของการออกแบบภายในคือไฟเรืองแสงรอบห้องโดยสารที่ปรับเฉดได้ถึง 7 สี สร้างบรรยากาศระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีพวงมาลัยหุ้มหนังสลับลายไม้แบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วรถอย่างแม่นยำ
ระบบปรับอากาศก็เป็นอีกจุดสำคัญที่เมอร์เซเดส เบนซ์ให้ความสำคัญ โดยในเอส คลาส รุ่นใหม่นี้ ได้ออกแบบให้สามารถแยกการทำงานอิสระในแต่ละที่นั่งด้วยท่อน้ำยาแอร์แยกอิสระ นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบปรับกลิ่นหอมอัตโนมัติ สร้างสุนทรีย์ในการเดินทางได้อย่างดีเยี่ยม โดยกลิ่นหอมที่ใช้มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่ FREESIDE MOOD, NIGHTLIFE MOOD, DOWNTOWN MOOD และ SPORTS MOOD
เบาะนั่งถือเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งในการเดินทาง เมอร์เซเดส เบนซ์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไม่กี่รายที่ออกแบบและผลิตเบาะนั่งด้วยตัวเอง โดยเบาะนั่งในเมอร์เซเดส เบนซ์ เอส คลาส รุ่นปี 2014 นี้ จัดเต็มความพิเศษด้วยวัสดุชั้นเยี่ยม ให้ความสบายเมื่อสัมผัส พร้อมกับระบบนวดแบบผ่อนคลาย ENERGIZING Massage ซึ่งสามารถเลือกโปรแกรมการนวดได้ 6 แบบ ได้แก่ Hot Relaxing Massage, Back Hot Relaxing Massage, Shoulder Activating Massage, Classic Massage, Mobilizing Massage และ Workout
โครงสร้างของรถเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ โดยเมอร์เซเดส เบนซ์ เลือกใช้โครงสร้างแบบอะลูมิเนียมผสมซึ่งเบากว่าเอส คลาส รุ่นก่อนถึง 95 กิโลกรัม แต่ทนทานมากขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ห้องโดยสารขึ้นรูปด้วยเหล็กความแกร่งสูง รวมถึงคานนิรภัยที่แข็งแรง ซึ่งเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของยานยนต์ในกลุ่มซาลูน
อีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อเสริมความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเมอร์เซเดส เบนซ์ เอส คลาส รุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยใหม่ที่ผสานความสะดวกสบายและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเรียกว่าระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ที่นั่งผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงปะทะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ม่านถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง (windowbags)
นอกจากนั้น ยังมีระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (reversing camera), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ฟังก์ชันเปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ (HANDS-FREE ACCESS) และระบบ MAGIC VISION CONTROL ซึ่งเป็นระบบการทำงานของใบปัดน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การทำความสะอาดกระจกบังลมหน้าสามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เมอร์เซเดส เบนซ์ เอส คลาส ปี 2014 มาพร้อมกับชุดแต่ง AMG Premium ที่ให้ความหรูหราลงตัวสมฐานะยอดยานยนต์แห่งยุค โดยยนตกรรมระดับหรูรุ่นดังกล่าวมีราคาจำหน่าย 11.4 ล้านบาท หากใครสนใจก็สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส เบนซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้เลยครับ