เปิดสเปก Abarth 500e Turismo รถยนต์ไฟฟ้านอกกระแสยี่ห้อแปลกที่กลายเป็นกระแสหลังนายกเศรษฐา ทวีสิน ขับเข้าทำเนียบ ถึงจะเล็กน่ารักแบบนี้ บอกเลยไม่มีคำว่าธรรมดา
ชวนทำความรู้จัก Abarth 500e Turismo (อบาร์ธ 500 อี ตูริสโม) รถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กสีเขียวอมเหลืองสะดุดตา แต่ยี่ห้อไม่คุ้นหู ที่นายกเศรษฐา ทวีสิน ขับเข้าทำเนียบด้วยตัวเองแล้วยังติดใจ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกเท่าไรนัก เพราะบอกเลยถ้ามีคำว่า Abarth กับตราสัญลักษณ์แมงป่อง ย่อมไม่มีอะไรที่ธรรมดา อีกทั้งสมรรถนะรถรุ่นนี้ก็ไม่ได้น่ารักเหมือนหน้าตาเสียด้วย
Abarth 500e Turismo ดีไซน์ภายนอก
หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตา Abarth 500e Turismo เพราะใช้ตัวถังร่วมกับ Fiat 500e ที่เป็นรถสไตล์เรโทรเวอร์ชั่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ซึ่งได้นำเอา Fiat 500 รุ่นคลาสสิกในอดีตมาตีความใหม่อีกครั้ง แต่ยังคงสัดส่วนและเอกลักษณ์ในแบบดั้งเดิมไว้
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Abarth 500e กับ Fiat 500e คือ สมรรถนะที่ต่างกันและมีการจำหน่ายแบบแยกแบรนด์ใครแบรนด์มันชัดเจน แม้ปัจจุบัน Abarth จะเป็นซับแบรนด์ที่อยู่ภายใต้เครือ Stellantis ร่วมกับ Fiat
แต่ Abarth ถูกวางตำแหน่งให้เป็นแบรนด์รถสมรรถนะจัดจ้านกว่าตามปรัชญาของ Abarth สำนักแต่งเก่าแก่คู่บุญ Fiat รวมถึงรถอิตาเลียนยี่ห้ออื่น ๆ ที่ให้ความสำคัญกับความเล็กและว่องไวเหมือนแมงป่องอันเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ Abarth มาตั้งแต่อดีต
ทั้งนี้ Abarth 500e ที่นายกเศรษฐา ทวีสิน ขับ ก็เป็น Abarth 500e Turismo ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการตกแต่งพิเศษกว่า Abarth 500e ที่ไม่มีอะไรต่อท้าย อย่างล้อขนาด 18 นิ้ว ลาย 5 ก้านคู่ ปัดลายเป็นสีทูโทน และเสียงเครื่องยนต์จำลอง Abarth Sound Generator ผ่านลำโพง JBL ก็เร้าใจกว่ารุ่นปกติ
Abarth 500e Turismo ดีไซน์ภายใน
ส่วนภายในห้องโดยสารของ Abarth 500e Turismo ก็สปอร์ตกว่า Abarth 500e ด้วยเบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตหุ้มวัสดุ Alcantara แผงหน้าปัดและพวงมาลัยหุ้มด้วย Alcantara กระจกเป็นแบบ Privacy Glass แป้นคันเร่ง เบรก ที่พักเท้า ตกแต่งด้วยโลหะ จอกลางขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน สามารถเช็กสถานะและสั่งงานระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันได้ รวมถึงมีอินเทอร์เน็ตควบคุมอุปกรณ์ IoT จากในรถได้ ส่วนระบบเสียงเลือกใช้ JBL Premium Audio System เน้นเรื่องความกระหึ่มเป็นหลัก
Abarth 500e Turismo ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
Abarth 500e Turismo ใช้ระบบขับเคลื่อนเดียวกับ Abarth 500e ติดตั้งมอเตอร์บนเพลาหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 42 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 7 วินาที
ถึงไม่ได้มากมาย แต่ Abarth จะเน้นความสนุกในการขับขี่มาตลอดด้วยแชสซีส์และการบังคับควบคุมที่รวดเร็ว ว่องไว แม้ในโค้งตามแนวคิดดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือก คือ Turismo, Scorpion Street และ Scorpion Track โดยในแต่ละโหมดจะมีรูปแบบการขับขี่และพละกำลังที่แตกต่างกัน
Abarth 500e Turismo เทคโนโลยีและความปลอดภัย
ทางด้านระบบความปลอดภัยใน Abarth 500e Turismo ก็จะคล้าย ๆ กับรถยนต์รุ่นใหม่ทั่วไป เช่น ติดตั้งระบบช่วยขับขี่ ADAS, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ไฟสูงปรับอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัย, เบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว, กล้องมองภาพ 360 องศา เป็นต้น
Abarth 500e Turismo ราคาจำหน่าย
สำหรับราคาจำหน่ายของ Abarth 500e Turismo นั้น ขึ้นอยู่กับตัวแทนจำหน่ายอิสระที่นำเข้ามา แต่ในอังกฤษ ซึ่งเป็นพวงมาลัยขวา ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 38,195 ปอนด์ หรือราว 1,731,000 บาท ไม่รวมภาษี ค่าขนส่ง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
เปรียบเทียบ Abarth 500e Turismo กับรถรุ่นอื่น ๆ
ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมขนาดกะทัดรัดนั้นยังไม่มีจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการมากนัก แต่ล่าสุด Peugeot e-208 ที่เป็นรถในเซกเมนต์เดียวกับ Fiat 500e ลูกพี่ลูกน้อง Abarth 500e Turismo กำลังเตรียมเปิดตัวในไทยปีนี้ โดยจะนำเข้าจากมาเลเซีย และคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน่ารู้รถยนต์
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : abarth.com, stellantis.com และ เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน