GWM TANK 400 รถ SUV ขนาดใหญ่ 5 ที่นั่ง เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด กำลัง 408 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมความสามารถเชิงออฟโรด ลุยน้ำลึกได้ 800 มม. วิ่งไฟฟ้าล้วนไกล 105 กิโลเมตร
GWM TANK 400 (เกรท วอลล์ มอเตอร์ แท็งค์ 400) รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV เปิดตัวในจีน แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ขนาดใกล้เคียงกับ GWM TANK 500 แต่จัดวางเบาะนั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด กำลัง 408 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ และติดตั้งฟีเจอร์สนับสนุนการขับขี่แบบออฟโรด เช่น จอแสดงภาพ 540 องศา โหมดขับขี่ 12 รูปแบบตามสภาพถนน และลุยน้ำลึกได้ 800 มม. อีกทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสูงสุด 105 กิโลเมตร
GWM TANK 400 ดีไซน์ภายนอก
GWM TANK 400 มีบุคลิกที่ดิบกว่า GWM TANK 500 ด้วยงานดีไซน์ตัวถังที่เรียกว่า Wind blade body ซึ่งใช้สันเหลี่ยมสื่อสารถึงความแข็งแกร่งในแบบรถออฟโรด ส่วนขนาดตัวถังมีความยาว 4,985 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,900 มม. ความยาวฐานล้อ 2,850 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 224 มม. ลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 800 มม. ขณะที่อุปกรณ์ภายนอกมีไฟส่องสว่างแบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ติดตั้งหลังคากระจก Panoramic เลื่อนเปิด-ปิดได้ และบันไดข้างเลื่อนเข้า-ออกได้ด้วยไฟฟ้าในรุ่นท็อป แต่ล้อขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
GWM TANK 400 ดีไซน์ภายใน
ภายใน GWM TANK 400 จะเป็นแบบ Smart Cockpit ซึ่งใช้มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แยกส่วนกับจอมัลติฟังก์ชันแบบลอยตัวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 16.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มีที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ระบบแอร์อัตโนมัติ แยกปรับ 3 โซน กระจกรอบคันเป็นแบบกันเสียงรบกวน และยังมีระบบป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Reduction) เพื่อความสบายในการเดินทาง
ส่วนการจัดวางเบาะนั่งเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง เบาะหุ้มหนัง PU แต่รุ่นท็อปหุ้มหนัง Nappa แบบเจาะรู เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า มีระบบระบายอากาศในตัว เบาะคนขับมีระบบนวด 8 จุด รวมถึงไฟ Ambient Light ส่วนเบาะหลังแยกพับ 60:40 ได้แบบราบเรียบเสมอกัน
GWM TANK 400 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
GWM TANK 400 ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 408 แรงม้า และแรงบิด 750 380 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในโหมด Pure Electric ได้ระยะทางไกลสูงสุด 105 กิโลเมตร
GWM TANK 400 เทคโนโลยีและความปลอดภัย
GWM TANK 400 ใช้โครงสร้างตัวถังที่ทำจากเหล็ก High-strength Steel มากถึง 76.6% บนแชสซีส์แบบ Body on frame ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และลดความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวถัง, ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน, ระบบหลีกเลี่ยงการชนหน้า-หลัง รวมถึงระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร และระบบช่วยออกตัวและเบรกตามสภาพการจราจร เป็นต้น
นอกจากนี้ GWM TANK 400 ยังมีฟีเจอร์แสดงสภาพถนนแบบ 540 องศา เมื่อต้องขับขี่แบบออฟโรด รวมถึงมีระบบล็อกดิฟเฟอเรนเชียลหน้า-หลัง พร้อมโหมดขับขี่ 12 รูปแบบตามสภาพถนน ระบบรักษาเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง และฟีเจอร์ TANK Turn ช่วยกลับรถในที่แคบด้วยการเบรกล้อหลังด้านในโค้ง
GWM TANK 400 ราคาจำหน่าย
สำหรับราคาจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผย และไทยน่าจะเป็นกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่จะเปิดตัว Tank 500 HEV 2023 ซึ่งสเปกต่างจากจีน แต่จากการคาดการณ์อาจเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท
เปรียบเทียบ GWM TANK 400 กับรถรุ่นอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รอการยืนยันว่า GWM TANK 400 จะทำตลาดในไทยต่อจาก GWM TANK 500 และ GWM TANK 300 หรือไม่ เพราะขนาดพอ ๆ กับ GWM TANK 500 แต่บุคลิกเป็นออฟโรดสายลุยมากกว่า ส่วนรถในกลุ่มที่ใกล้เคียงก็คือ รถ PPV ของค่ายญี่ปุ่นทั้งหมด เช่น Toyota Fortuner, Isuzu MU-X รวมถึง Ford Everest ซึ่งล้วนเป็นรถ SUV แบบ Body on frame เหมือนกัน และมีราคาสูงสุดอยู่ที่ล้านปลาย ๆ