Ford Everest 2023 รถยนต์ 7 ที่นั่ง แบบ PPV มี 4 ระดับการตกแต่ง ได้แก่ Trend, Sport, Titanium+ และ Wildtrak ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 170 และ 210 แรงม้า ราคาเริ่ม 1,354,000 บาท
Ford Everest 2023 (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2023) รถยนต์อเนกประสงค์แบบ PPV ดัดแปลงจากพื้นฐานของ Ford Ranger เพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน รองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง ทนทานกว่า Crossover SUV พื้นฐานรถยนต์นั่ง ภายในติดจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่และมาตรวัดดิจิทัลทุกรุ่น มีเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2 แบบ แบ่งเป็น 4 ระดับการตกแต่ง ได้แก่ Trend, Sport, Titanium+ และ Wildtrak ส่วนสีตัวถังมีทั้งหมด 7 สี
Ford Everest 2023 ดีไซน์ภายนอก
Ford Everest 2023 มีดีไซน์ที่เป็นเส้นตรงและเหลี่ยมสันถ่ายทอดความแข็งแกร่ง ส่วนเอกลักษณ์ด้านหน้า Ford Everest 2022 ไปในทิศทางเดียวกับกระบะตระกูล Ford รุ่นอื่น ๆ ทั่วโลก เช่น F-150 หรือ Maverick ทั้งไฟหน้า C-Clamp พร้อมแถบคาดกลางติดตราโลโก้ Ford สีฟ้า เพราะพื้นฐาน Everest มาจาก Ranger ขณะที่ด้านท้าย Ford Everest 2023 ยังคงเล่นกับทรีตเมนต์ทรงสี่เหลี่ยมแบบเดียวกับด้านหน้า คาดด้วยกรอบไฟทรง C-Shape ยาวต่อเนื่องถึงกัน
แต่การตกแต่งระหว่าง Ford Everest 2023 รุ่น Trend, Sport, Titanium+ และ Wildtrak ถูกแบ่งแยกให้มีเอกลักษณ์ต่างกัน โดยรุ่น Trend ตกแต่งแบบพื้นฐาน ขณะที่รุ่น Sport ใช้สีดำเงาแทนส่วนที่เป็นโครเมียม และ Titanium+ จะเพิ่มความหรูด้วยแถบโครเมียมที่มากกว่ารุ่น Trend อย่างกระจังหน้า กระจกมองข้าง มือจับประตู กรอบคิ้วต่าง ๆ บันไดข้าง ตลอดจนล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว นอกจากนี้ไฟหน้ารุ่น Titanium+ กับ Wildtrak เป็นแบบ Matrix LED ปรับมุมลำแสงอัตโนมัติป้องกันแสงไฟแยงตา รวมถึงเพิ่มหลังคากระจก Panoramic สำหรับ Wildtrak กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลายต่างกัน
Ford Everest รุ่น Sport
Ford Everest รุ่น Titanium+
Ford Everest 2023 ดีไซน์ภายใน
ห้องโดยสาร Ford Everest 2023 จะต่างกันไปตามระดับการตกแต่ง ซึ่งรุ่นเริ่มต้นอย่าง Trend จะได้เรือนไมล์ดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.1 นิ้ว เบาะหุ้มหนังผสมหนังสังเคราะห์ ส่วน Sport จะได้การตกแต่งแบบสปอร์ตตามชื่อด้วยภายในสีดำ (แผงบุหลังคาสีเทา) เบาะลายสปอร์ต แต่ Ford Everest 2022 รุ่น Titanium+ กับ Wildtrak จะได้มาตรวัดดิจิทัล 12.4 นิ้ว จอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส 12 นิ้ว เบาะแถว 3 พับไฟฟ้า ส่วนรุ่น Wildtrak จะมีสัญลักษณ์ Wildtrak ที่พนักพิงเบาะคู่หน้า เป็นต้น
Ford Everest รุ่น Sport
Ford Everest รุ่น Sport
Ford Everest 2022 เครื่องยนต์และสมรรถนะ
Ford Everest 2022 ระดับการตกแต่ง Trend และ Sport จะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.3 กิโลเมตร/ลิตร
Ford Everest 2022 รุ่น Titanium+ กับรุ่น Wildtrak ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ช่วง 1,750-2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบล้อหลัง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.1 กิโลเมตร/ลิตร (Titanium+) และ 4 ล้อ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.7 กิโลเมตร/ลิตร (Titanium+ และ Wildtrak)
Ford Everest 2022 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
สำหรับ Ford Everest 2022 ใหม่ จะติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยดังนี้
-
ถุงลมนิรภัย 7 จุด (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า)
-
ระบบช่วยโทร. ฉุกเฉิน
-
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
-
ระบบเบรก ABS และกระจายแรงเบรก EBD
-
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) และป้องกันล้อหมุนฟรี
-
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) และลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM)
-
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (HDC)
-
เบรกมือไฟฟ้า
-
กล้องมองหลังขณะถอยจอด (เฉพาะรุ่น Sport)
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Sport)
ส่วนเทคโนโลยีช่วยขับขี่จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Ford Everest 2022 รุ่น Titanium+ กับ Wildtrak และเป็นออปชั่นในรุ่น Sport หากสั่งติดตั้งเพิ่ม อาทิ กล้องมองรอบคัน, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมหยุด-ออกตัวตามรถคันหน้า พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนนและระบบเตือนจุดอับสายตา และตรวจจับขณะออกจากช่องจอด พร้อมระบบป้องกันการชนขณะถอย เป็นต้น
Ford Everest 2022 มีกี่สี
Ford Everrest 2022 มีสีตัวถังทั้งหมด 7 สี โดยรุ่น Sport มีครบทั้ง 7 สี ส่วนรุ่น Titanium+ กับ Wildtrak มีให้เลือก 6 สี ดังนี้
สีฟ้า Blue Lightning (เฉพาะรุ่น Sport)
สีเทา Meteor Grey
สีเงิน Aluminium Metallic
สีดำ Absolute Black
สีบรอนซ์ Equinox Bronze
(ไม่มีในรุ่น Wildtrak)
สีส้ม Sedona Orange
(เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
สีขาว Snow Flake White Pearl
(เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
สีเหลือง Luxe Yellow
(เพิ่มเงิน 12,000 บาท มีเฉพาะรุ่น Wildtrak)
Ford Everest 2022 ราคา
- Ford Everest 2022 รุ่น Trend ราคา 1,354,000 บาท
- Ford Everest 2022 รุ่น Sport ราคา 1,484,000 บาท
- Ford Everest 2022 รุ่น Titanium+ 4x2 ราคา 1,724,000 บาท
- Ford Everest 2022 รุ่น Titanium+ 4x4 ราคา 1,874,000 บาท
- Ford Everest 2022 รุ่น Wildtrak 4x4 ราคา 1,899,000 บาท
Ford Everest 2022 ตารางผ่อน-ดาวน์
เปรียบเทียบ Ford Everest 2022 กับรถรุ่นอื่น ๆ
สำหรับ Ford Everest 2022 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถกระบะดัดแปลง หรือ PPV จึงต้องเจอกับการแข่งขันสูง จากตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Fortuner ที่แตกไลน์ย่อยมากถึง 3 เวอร์ชั่น ขณะที่ Isuzu MU-X รุ่นพื้นฐาน ราคาเพียงล้านต้น ๆ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ส่วน Mitsubishi Pajero Sport เน้นให้ขุมพลัง 181 แรงม้า ทุกรุ่นย่อย และ Nissan Terra ก็พยายามสู้ด้วยอุปกรณ์และราคา
แต่ด้วยรุ่นย่อยและค่าตัวของ Ford Everest 2022 ซึ่งเริ่มต้นที่ 1.464 ล้านบาท คงต้องจัดอยู่ในกลุ่ม PPV ราคาสูง ชนกับ Toyota Fortuner ในภาพรวม หากใครกำหนดงบไว้ต่ำกว่า 1.4 ล้านบาทลงไป Ford Everest 2022 อาจสู้ยาก อย่างไรก็ตาม อนาคตคงต้องรอดูว่า Ford Everest 2022 จะเพิ่มรุ่นย่อยราคาต่ำลงหรือไม่ ถ้ากระแสตอบรับดีโอกาสก็เป็นไปได้ แต่บอกเลยว่าการแข่งขันของตลาด PPV ต่อไปนับจากนี้น่าจะสนุกขึ้นเรื่อย ๆ